บทที่ 375 ตอกย้ำด้วยความโกรธ
บทที่ 375 ตอกย้ำด้วยความโกรธ
ฟิ้ว!
บนยอดเขาทะยานสวรรค์ ร่างหนึ่งเคลื่อนที่ไปสิบจั้งในทุกย่างก้าวและลอยผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในโลกภายนอก ความเร็วดังกล่าวไม่มีอะไรที่ควรค่าแก่การกล่าวถึง แม้แต่ผู้บ่มเพาะขอบเขตก่อกำเนิดก็สามารถทำเช่นนั้นได้
แต่ที่ความสูงหกสิบลี้ของยอดเขาทะยานสวรรค์ ความเร็วเช่นนี้กลับน่ากลัวอย่างยิ่ง
“บัดซบ! ข้าไม่ได้ตาฝาดกระมัง?”
“เจ้านั่นเป็นผีหรือไร? เป็นไปได้หรือไม่ว่าแรงกดดันของเต๋ารู้แจ้งรอบกายไม่ได้เกิดผลกับเขา?”
“เวรแล้ว! เป็นผู้เยี่ยมยุทธ์อีกคนหนึ่ง! บัดซบเอ๊ย!”
ณ ทางเดินบนภูเขา ผู้บ่มเพาะทุกคนหอบหายใจเหนื่อย เส้นเลือดบนหน้าผากนูนขึ้นมา ขาก็ดูเหมือนห้อยตะกั่วเอาไว้พลางลากขาก้าวต่อไปด้วยความยากลำบาก ทันใดนั้น พวกเขาก็เห็นร่างนี้มาพร้อมกับเสื้อผ้าพลิ้วไหว เคลื่อนไหวไปสิบจั้งทุกย่าวก้าว คนเหล่านั้นล้วนพากันตกใจส่งเสียงโวยวายไปตาม ๆ กัน
เฉินซีไม่ได้ให้ความสนใจกับคนเหล่านี้และพุ่งออกไปด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี
หลังจากสังหารผู้บ่มเพาะทั้งสิบสามคนจากกองกำลังทั้งหกแล้ว เขาก็รีบจัดการของที่ริบมาได้ ก่อนจะหยุดมือเพื่อปกปิดความแข็งแกร่งตนและเริ่มพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
จากการประเมินของเขา ทั้งสิบสามคนนี้น่าจะเป็นเพียงศัตรูกลุ่มแรกที่พุ่งเป้ามาที่ตน และน่าจะมีศัตรูอีกจำนวนมากรอเขาอยู่บนยอดเขาทะยานสวรรค์
ดังนั้นเขาจึงต้องค้นหาร่องรอยของพวกนั้นให้เจอก่อนอีกฝ่ายจะทันสังเกตว่าตนสังหารทั้งสิบสามคนนั้นไปแล้ว
เขามีเป้าหมายเพียงอย่างเดียว นั่นคือทำลายล้างศัตรูทั้งหมด!
ในเมื่อเขาเริ่มฆ่าพวกมันไปแล้ว เฉินซีก็ไม่มีอะไรต้องกลัวอีกต่อไป หากพวกนั้นอยากเล่น เขาก็จะเล่นด้วยจนอีกฝ่ายจะพอใจ หากสามารถทำลายล้างพวกนั้นทั้งหมดได้ ก็นับว่าเป็นหมัดหนักซัดใส่กองกำลังใหญ่ทั้งหกทีเดียว!
เก้าสิบลี้
ร้อยแปดลี้
ร้อยยี่สิบลี้
เฉินซีพลันหยุดขณะเงยหน้าขึ้นมองไปยังผู้บ่มเพาะทั้งเก้าคนที่รออยู่ที่นั่น เขามั่นใจได้จากการเคลื่อนไหวและจากสีหน้าคนพวกนั้นว่าอีกฝ่ายเป็นคนจากกองกำลังใหญ่ทั้งหกอย่างแน่นอน!
เฉินซีเริ่มลงมือสังหารอีกครั้งโดยไม่เอ่ยคำใด!
ความแข็งแกร่งของผู้บ่มเพาะกลุ่มนี้มากกว่ากลุ่มแรกอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เนื่องจากตำแหน่งที่พวกเขาอยู่นั้นอยู่ที่ความสูงร้อยยี่สิบลี้แห่งยอดเขาทะยานสวรรค์ แรงกดดันจากเต๋ารู้แจ้งจึงมากขึ้นและบีบให้พวกเขาไม่อาจใช้กำลังที่แท้จริงได้
ทว่าจนถึงขณะนี้เฉินซีแทบจะไม่รู้สึกถึงแรงกดดันของเต๋ารู้แจ้งที่อยู่รอบกายเลย มันส่งผลต่อพลังต่อสู้ของเขาน้อยกว่าหนึ่งในสิบส่วน ดังนั้นชายหนุ่มเมินมันเลยก็ยังได้
ดังนั้นการต่อสู้ครั้งนี้จึงถูกกำหนดให้เป็นการสังหารโหดอีกครั้ง
ฝนโลหิตกระเซ็นลงมา เสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปราณแท้พุ่งขึ้นสูง แสงศักดิ์สิทธิ์ระเบิดออกมา… ไม่นานการต่อสู้ก็สิ้นสุดลง นอกจากคนที่ทำลายตราหยกของตนเองและหนีไปแล้ว อีกแปดคนล้วนถูกกำจัดสิ้น
หลังจากเขาปล้นของมาแล้ว เฉินซีก็ไม่หยุดฝีเท้า แล้วเดินทางขึ้นภูเขาต่อไป
เฉินซีพบกับเหล่าศิษย์จากกองกำลังใหญ่ทั้งหกอีกสามกลุ่ม แต่ละกลุ่มล้วนแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้ พวกเขามีทั้งชายและหญิง แม้ว่าสุดท้ายเขาจะเอาชนะคนพวกนี้ได้ แต่ก็ยังมีบางคนที่ทำลายตราหยกตนและหนีทัน
ซึ่งเขาทำอะไรไม่ได้เลย ตำแหน่งปัจจุบันของชายหนุ่มอยู่ที่ระยะสามร้อยลี้ก่อนถึงยอดเขาทะยานสวรรค์ ซึ่งมีผู้บ่มเพาะน้อยกว่าสองพันคนที่สามารถขึ้นมาถึงจุดนี้ได้!
กองกำลังใหญ่ทั้งหกได้เตรียมคนสามคนไว้รอเขาอยู่ที่นั่น แม้จำนวนคนจะน้อย แต่พละกำลังก็น่าเกรงขามยิ่ง อย่างน้อยเฉินซีก็จำต้องใช้พละกำลังไปเจ็ดในสิบส่วน ทั้งยังสังหารได้แค่สอง ส่วนคนสุดท้ายเห็นว่าท่าไม่ดีจึงทำลายตราหยกหนีไป
เมื่อเฉินซีรุดหน้าต่อก็ไม่เห็นศิษย์จากกองกำลังใหญ่ทั้งหกอีก
พวกเขาย่อมโกรธสุดขีด เพราะตนทำได้แต่เฝ้าดูศิษย์ถูกสังหารอย่างไม่อาจช่วยอะไรได้ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นใครก็คงโกรธและยับยั้งตนไม่ได้ทั้งนั้น
ผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพีคนอื่น ๆ เหลือบมองกันแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจอยู่
ศิษย์หนุ่มสาวทุกคนที่มีความสามารถในการเข้าร่วมการชุมนุมดาวรุ่งและขึ้นสู่ความสูงระดับหนึ่งของยอดเขาทะยานสวรรค์ได้ นับเป็นศิษย์สายหลักที่ได้รับการอุปถัมภ์จากกองกำลังต่าง ๆ และว่าที่ผู้สืบทอดของนิกาย
ทั้งพรสวรรค์ การบ่มเพาะ และความเข้าใจย่อมไม่ธรรมดา ซึ่งนับเป็นหนึ่งในหมื่นของโลก แต่ตอนนี้คนเกือบทั้งหมดสิ้นชีพไปด้วยน้ำมือของคนอื่น นับเป็นผลกระทบที่หนักหน่งสำหรับกองกำลังทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นใคร คนคนนั้นก็คงจะโกรธเกรี้ยวเช่นกัน
แต่แม้จะลอบถอนหายใจ ผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพีก็ไม่มีใครแสดงความสงสารออกมา การฆ่าสังหารเช่นนี้จะโทษเด็กเฉินซีนั่นก็ไม่ได้ ใครบอกให้พวกเจ้าซุ่มโจมตีหมายสังหารเฉินซีก่อนเล่า? ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่อาจทำสิ่งที่ชะตาปฏิเสธได้
หากไร้เหตุ จะมีผลในปัจจุบันให้เห็นหรือ?
ยิ่งไปกว่านั้น พละกำลังอันน่าเกรงขามที่เฉินซีเผยออกมาได้ทำให้ผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพีสนใจเข้าแล้ว
พวกเขาพบว่าเด็กคนนี้ดูจะมีศักยภาพที่ไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่คิดว่าถึงขีดสุดแล้ว พริบตาเดียวเขาก็จะระเบิดพลังที่แกร่งกว่าเดิมออกมา ไม่มีใครคาดเดาได้เลยว่าเขาซ่อนความแข็งแกร่งไว้ลึกล้ำเพียงใด
ปรากฏการณ์แปลกประหลาดเช่นนี้ย่อมดึงดูดความสนใจของตาเฒ่าเหล่านี้ได้
บางทีเด็กคนนี้อาจจะกลายเป็นม้ามืดในการชุมนุมดาวรุ่งในครั้งนี้กระมัง?
ความคิดเช่นนี้ผุดขึ้นในใจของทุกคนโดยไม่รู้ตัว
เป่ยเหิงไม่คิดอยากทำอะไรนอกจากแหงนหน้าหัวเราะขึ้นฟ้าเมื่อเห็นภาพนี้ แต่ก็ต้องอดกลั้นไว้ ช่วยไม่ได้นี่นา บรรยากาศตอนนี้จะให้หัวเราะลั่นก็คงไม่เหมาะ หากเขากล้าล่วงเกินตัวบัดซบทั้งหกนั่นจนคุมสถานการณ์ไม่อยู่ต้องแย่แน่
พี่น้องร่วมสาบานของข้านี่น่าเกรงขามจริง ไม่แน่ว่าอาจจะติดสิบอันดับแรกแห่งการชุมนุมดาวรุ่งครั้งนี้ก็เป็นได้!
ว่าแล้วเป่ยเหิงก็พลันถอนใจด้วยแรงอารมณ์โล่งอก เขายิ่งตั้งตารอดูฝีมือของเฉินซีมากขึ้นกว่าเดิม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...