บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 29

บทที่29 ฝีมือยอดเยี่ยม

“เหอะ เจ้าน่ะเหรอ ท่านายกว่าง”

กุ้อ้าวเวยยิ้มดูถูก นิ้วมือจับข้อมือเขาไว้ กดลงไปเบาๆ

กว่างเสียนเบิกตากว้าง เขาถูกมีดกรีดเป็นเส้นยาว โดยที่ยังไม่ทันได้รู้สึกตัว นางก็ข่วนซ้ำลงไปที่แผล

“อ้า!”กว่างเสียนร้องตกใจและถอยหลังไป แต่แผลข้อมือไม่ใหญ่มาก ไม่มีเลือดออกเลย แต่รู้สึกเจ็บอย่างมาก

กุ้อ้าวเวยหยิบมีดสั้นขึ้นมาพร้อมลุกขึ้นช้าๆ หยิบผ้ามาเช็ดมีดและพูดว่า: “ข้าเป็นหญิงออกมาด้านนอกกลัวจะถูกรังแกก็เลยพกมีดสั้นไปทุกที่ ขอท่านชายกว่างอย่าว่ากันเลย”

“เจ้า!”กว่างเวียนชี้หน้าจะด่านาง แต่กลับพูดไม่ออกเลยสักคำ

หยินเชี่ยวกับชิงต้ายตกใจ พระชายาปกติก็เป็นคนอ่อนโยน ตอนนี้ก็จะใช้มีดเลยเหรอ

“ขี่ม้าออกอาละวาด ทำร้ายเด็กแล้วยังไม่รู้จักแก้ตัวอีก ข้ากรีดเจ้าไปก็นับว่าเบาแล้ว”กุ้อ้าวเวยกลับเก็บมีดเข้าไปในกระเป๋า นั่งลงเห็นฉีหลินไม่พูด ก็เลยสั่งพนักงานว่า: “ค่าอาหารของท่านชายกว่างพวกเขา ข้าเลี้ยงเอง นับว่าเป็นการขอโทษที่กรีดแขนเจ้าไป”

นางยิ้มประชดกว่างเสียน ทำเอาท่านชายคนอื่นโกรธจนจะพังร้านแล้ว: “นี่ก็คือการขอโทษของเจ้างั้นเหรอ!ยัยนางมาร!”

กุ้อ้าวเวยไม่สนใจพวกเขา มองฉีหลินไป ฉีหลินทำใจและลุกขึ้นพูดว่ากว่างเสียนว่า: “กว่างเสียน พวกเราไม่ควรเป็นเพื่อนกันอีก แต่ข้าอยากจะต่างคนต่างอยู่ ต่อไปถ้าเจ้ากล้ามาทำอะไรเพื่อนข้า ข้าจะทำให้เจ้าไม่ตายดีแน่นอน”

“ฉีหลิน เจ้ามันขี้กลัว วันนี้ก็สั่งให้ผู้หญิงมาทำร้ายข้า คิดว่าเก่งนักเหรอ คนที่จะไม่ตายดีน่ะเป็นเจ้าต่างหาก!”กว่างเสียนสั่งให้ท่านชายดานหลังนำก่อน พนักงานในร้านก็กลัวว่าของในร้านจะพังหมด

ฉีหลินกำลังจะเตรียมตัว กุ้อ้าวเวยดึงเขาลงมานั่ง: “ไม่ต้องสนใจเขา กินข้าว”

พูดอยู่นั้น ก็ยัดอาหารเข้าปากเขาทันที หันไปเห็นพวกนั้นทำท่าโกรธ นางก็ไม่สนใจแต่แค่เอาขวดแก้วในกระเป๋าออกมา: “เมื่อกี้ข้าลืมบอกเจ้าว่า เล็บข้ามีพิษซ่อนอยู่ นี่เป็นยาถอนพิษ”

“เจ้า!กล้าวางยาข้างั้นเหรอ!”กว่างเสียนอึ้ง ตาแดงก่ำด้วยความโกรธ

“ข้าก็บอกแล้วว่าข้าทำเพราะปกป้องตัวเอง ไม่วางยาจะจัดการคนอย่างพวกเจ้าได้อย่างไร”กุ้อ้าวเวยยิ้มและเปิดขวดแก้ว กินยาสองเม็ดสุดท้ายในขวดลงไปพูดว่า: “เล็กข้ามีพิษก็เลยทำให้ข้ารู้สึกไม่สบาย ข้าต้องรีบกินยาถอนพิษ ถ้าท่านชายกว่างยังไม่อยากตายก็ควรรีบไปหาหมอนะเจ้าคะ”

“อะไรนะ!”กว่างเสียนมองไปที่แผลตัวเอง แผลที่แขนไม่รู้ว่ากลายเป็นสีม่วงตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาจับแขนไว้รีบพุ่งตรงไปหานาง

กุ้อ้าวเวยพูดต่อว่า: “เกรงว่าภายในเมืองเทียนเหยียนคงไม่มีผู้ใดจะถอนยาพิษนี้ได้ ถ้าเจ้ากล้าแตะข้า ข้ารับรองว่าภายในหนึ่งเดือนเจ้าก็อาจจะไม่รอดก็ได้”

พิษที่นางรู้จักไม่เหมือนกับที่นี้ ด้านในมีส่วนผสมของต้นยี่โถอยู่ แต่กลับมียาหลายตัวผสมกัน แม้จะไม่ไอเป็นเลือด แต่กลับสามารถฆ่าคนได้ภายในหนึ่งเดือน

และนางก็มั่นใจว่า ในที่โบราณนี้ น่าจะไม่มีคนที่ทดลองยาพิษตัวนี้

ทำเอาฉีหลินหดตัวลงไปเลยทีเดียว หยินเชี่ยวกับชิงต้ายก็ยิ้มหัวเราะเบาๆ

“ดูแล้วออกจากตำหนักอ๋องจิ้งของข้าแล้ว เจ้าก็มีชีวิตที่ดีเหมือนกันนะ”เสียงที่คุ้นเคยดังออกมาจากข้างบันได ชายที่ใส่ชุดน้ำเงินเข้มเดินเข้ามา ด้านหลังมีชายสองคนประกบข้าง ชายสองคนด้านหลังดูท่าทางแล้วคล้ายลูกน้อง และก็เหมือนเพื่อนด้วย มองไปทางนางและเคารพพร้อมกัน

เฉิงยีเฉิงเอ้อคุกเข่าลงเคารพตั้งนานแล้ว หยินเชี่ยวกับชิงต้ายก็ตามกัยเคารพ

ฉีหลินยิ้มแห้งและรีบลุกขึ้นมาทำความเคารพ ตัวร้ายอย่างพวกเขากลัวพวกองค์ชายและท่านอ๋องจิ้งที่เลือดเย็นคนนี้มาก

“ข้าก็คงต้องขอบคุณท่านอ๋องที่ให้ข้าออกมา”กุ้อ้าวเวยคีบอาหารขึ้นมากินต่อ มองไปทั่วชั้นสอง ตรงนี้นอกจากพวกเขาก็ไม่มีแขกคนอื่นอยู่แล้ว ซ่านจินจื๋อเดินไปข้างนาง จับคางนางไว้อย่างแรงและพูดว่า: “ไม่เจอกันแค่ไม่กี่วัน เจ้ายังกล้าก่อเรื่องให้ข้างั้นเหรอ”

“ท่านอ๋องพูดกระไรกัน ท่านกับข้าก็หลอกใช้กันมาตลอด ถ้าอยากให้ข้าช่วยท่านได้เต็มที่ ท่านก็ต้องช่วยข้าจัดการเรื่องทีข้าก่อไว้ด้วย เรื่องนี้ท่านอ๋องน่าจะรู้ดีนะเจ้าคะ”กุ้อ้าวเวยไม่ได้ผลักมือเขาออกไป แต่รู้สึกเจ็บคางขึ้นมาตะหงิดๆ

ซ่านจินจื๋อดูนางพูดจากวนประสาทก็แทบจะบ้าคลั่ง

“ท่านอ๋อง ใต้เท้าแต่ละคนมาแล้ว”ด้านหลังมีคนมาตบไหล่ซ่านจินจื๋อเบาๆ และมองไปทางกุ้อ้าวเวยพูดว่า: “ยังไงนางก็เป็นถึงพระชายาจิ้ง อยู่ด้านนอกก็ให้หน้านางหน่อยสิ”

ซ่านจินจื๋อก็ปล่อยนางไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์