พอกาแฟมาเสริฟเรียบร้อย ร่างน้อยก็รีบลงไปก้มตัวนอนราบพื้น ฉากกั้นชั้นล่างสุดมีช่องเล็กน้อย ทำให้เขาสามารถมองเข้าไปได้
แต่ก็มองเห็นแค่ด้านล่างของโต๊ะข้างๆมีขาสองคู่ ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง และ.......ดอกกุหลาบสีสวยที่วางอยู่ข้างๆโม่เทียนหวี๋
เด็กน้อยลู่อันหรานสีหน้าดูไม่ดีขึ้นมาทันที ในใจเริ่มรู้สึกไม่พอใจ กรอกตาไปมาเล็กน้อยก่อนจะเอามือปิดปากยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
เขาเอาเอ็นใสออกจากกระเป๋าม้วนหนึ่ง ความใสของเส้นเอ็นสูงมากถ้าไม่ม้วนรวมกันจะมองแทบไม่เห็นเลย พอดึงเส้นเอ็นออกจากกัน มองด้วยตาเปล่าแทบไม่เห็น
หนุ่มน้อยเอาเส้นเอ็นสีใสผูกกันเป็นวง แล้วโยนไปคล้องช่องดอกไม้ไว้ได้พอดี
มือเล็กจับเอ็นสีใสไว้แน่น นอนราบไปกับพื้นด้วยสีหน้าพอใจ ขาทั้งสองขยับไปมาอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่จะค่อยๆดึงช่องกุหลาบมาหาตัวเอง
กลุ่มชายที่สวมใส่ชุดลำลองต่างรู้วัตถุประสงค์ของการมาร้านกาแฟครั้งนี้ดี แต่พอเห็นสภาพของคุณชายน้อยแล้วก็อดไม่ได้ที่จะยกมุมปากขึ้นยิ้มเล็กน้อย
อันหรานน้อยลากช่องกุหลาบมาได้สำเร็จ ก่อนจะยื่นมือไปหยิบจากด้านข้างของฉากกั้น แล้วโยนให้ชายคนหนึ่ง พร้อมพูดเสียงเบา: "เร็ว รีบจัดการช่องดอกไม้ซะ"
จัดการช่องดอกไม้? ชายกลุ่มนั้นเข้าใจทันที ก่อนจะมองหน้ากันไปมา
หนึ่งในกลุ่มชายชุดลำลองเลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะหยิบช่องกุหลาบขึ้น ในพริบตาเดียวกุหลาบทั้งช่องก็เหลือเพียงก้าง ช่างน่าสงสาร
ดวงตาลู่อันหรานฉายแววซะใจ ก่อนจะชี้ไปโต๊ะข้างๆ สื่อความหมายอย่างชัดเจน
ชายชุดลำลองพยักหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะโน้มตัวเล็กน้อย ค่อยๆนำช่องดอกไม้ยื่นเข้าไปทางด้านข้างฉากกั้นแล้ววางลงเบาๆ
ช่องกุหลาบที่เหลือเพียงก้างก็กลับไปวางอยู่ที่เดิมเหมือนไม่เคยขยับไปไหนมาก่อน
เด็กหนุ่มเอามือปิดปากไว้ เขารู้ว่าช่องกุหลาบนี้ไอ้คนแซ่โม่น่าจะเตรียมมาให้แม่เขา แต่กลายเป็นแบบนี้แล้วดูซิว่าเขาจะทำยังไง
ที่โต๊ะข้างๆ วันนี้โม่เทียนหวี๋เตรียมตัวมาเพื่อขอแต่งงาน แต่แผนของเขานอกจากขอแต่งานแล้วก็ตั้งใจจะพาเธอไปจดทะเบียนสมรสด้วยเลย
เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าโม่โยวจะไม่ตอบรับคำของแต่งงานเขา หรือจะปฏิเสธไปจดทะเบียนสมรสกับเขา
เพราะคบกันมาตั้งห้าปีแล้ว คิดว่าถ้าเขาขอเธอแต่งงาน เธอน่าจะต้องดีใจมากถึงจะถูก จุดนี้โม่เทียนหวี๋ดูจะมั่นใจมาก
"โม่โยว ฉันมีอะไรจะให้เธอ"
เขาพูดเสร็จ เขาก็หันไปมองช่องดอกไม้ที่วางอยู่ด้านหลัง และเพราะมุมการวางของช่องดอกไม้ทำให้เขามองเห็นเพียงกระดาษสีสวยที่ห่อช่องดอกไม้ไว้เท่านั้น
เขาจึงไม่ได้เอะใจอะไร โม่เทียนหวี๋โน้มตัวไปหยิบช่องดอกไม้ขณะที่พูดไปด้วย โดยไม่ได้หันไปมองช่องดอกไม้เลย พอนำดอกไม้ขึ้นมาวางบนโต๊ะ กลายเป็น.........
"อ้าว......"
เขามองดูช่องกุหลาบในมือที่เหลือเพียงก้าง และเพราะช่องค่อนข้างใหญ่ยิ่งทำให้เห็นว่าบนช่องกำใหญ่ที่ไม่มีดอกแม้แต่ดอกเดียวมันดูตลกมากแค่ไหน"
โม่เทียนหวี๋ตกใจจนตาโต ดอกกุหลาบช่องใหญ่หายไปได้ยังไง เขารู้สึกมึนงงไปหมด ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
โต๊ะในร้านกาแฟนทุกโต๊ะถึงแม้จะมีฉากกั้ง แต่ก็ไม่ใช่ห้องส่วนตัว ดังนั้นก็ยังมีคนเห็นภาพดังกล่าว
ฮาๆๆๆๆ.....
เสียงหัวเราะที่กลั้นไม่อยู่ดังขึ้นมาติดๆ แม้แต่พนักงานเองก็กลั้นหัวเราะไม่ไหว เพราะมันดูตลกมากจริงๆ
"เธอดูนั้นซิ ผู้ชายคนนั้นตลกจริง ดอกไม้ช่องใหญ่ขนาดนั้นกลับไม่มีดอกแม้แต่ดอกเดียว"
"นั้นน่ะซิ เขาตั้งใจหรือเปล่านะ"
"คุณแม่........."
อะไรนะ?
โม่เทียนมองมาที่เขาอย่างตกใจ
โม่โยวเองก็แปลกใจ: "อันหราน? มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?"
"ฉันมาดื่มกาแฟที่นี่ครับ แล้วก็จะสั่งเผื่อพ่อด้วยชุดหนึ่ง"
พูดเสร็จ ก็มองจ้องไปทางโม่เทียนหวี๋ ก่อนประเมินเขาในใจอย่างรวดเร็ว
อืม หน้าตาก็ดูธรรมดา เทียบกับตัวเองและพ่อไม่ได้ รูปร่างก็พอไปได้แต่ก็อืม...เขาก้มมองขาเล็กๆของตัวเองก่อนจะเม้มปาก เอาเถอะเทียบพ่อไม่ได้
แล้วก็ความสูง อืม พ่อสูงกว่าเขาเยอะเลย
ตามมาด้วยการแต่งตัว เขาลองประเมินมูลค่าเคร่าๆแล้ว ก่อนจะเม้มปากแอบเย้ยในใจ รวยน้อยกว่าพ่อด้วย
เชอะ บุพเพฯแย่ๆ เทียบอะไรไม่ได้เลย รู้สึกเหยียดหยามในใจ แต่สีหน้ากลับยิ้มแย้มน่ารัก ก่อนจะถามขึ้นด้วยความอยากรู้: "แม่ครับ คุณลุงคนนี้เป็นใครเหรอครับ"
เออ.......
โม่โยวนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย เกิดความอึดอัดขึ้นมาชั่วขณะ ถึงแม้ว่าเธอจะเคยบอกเทียนหวี๋แล้วว่าเธอมีลูกชายคนหนึ่ง และหาเจอแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าอยู่ๆจะมาเจอหน้ากันแบบนี้
โม่เทียนหวี๋ที่เพิ่งปรับสีหน้าเป็นปกติ มองดูเด็กที่เพิ่งเรียกโม่โยวว่าแม่ น่าจะเป็นลูกชายที่ไม่เจอมากว่าห้าปีที่โม่โยวเคยบอกเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก