สำหรับลูกชายที่โผล่มาของโม่โยว เขาไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะสำหรับเขาแล้วโม่โยวก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาชอบและอยากใช่ชีวิตอยู่กับเธอไปตลอดชีวิตซะหน่อย
โม่เทียนหวี๋ยิ้มได้อย่างอ่อนโยนเหมือเดิม: "หนุ่มน้อย ฉันเป็นแฟนของแม่เธอ"
ในใจลู่อันหรานเต็มไปด้วยความโมโห แต่สีหน้ากลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ทำตาปริบๆ: "แฟนคืออะไรครับ?"
"แฟนก็คือ........"
"ไม่มีอะไร อันหราน ที่คุณลุงพูดหมายถึงเขากับแม่เป็นเพื่อนกันครับ"
โม่โยวขัดขึ้นก่อนที่โม่เทียนหวี๋จะได้อธิบาย เธอเลียริมฝีปากเล็กน้อย ก่อนจะมองไปที่โม่เทียนหวี๋แวบหนึ่ง ลูกชายยังเล็ก เรื่องของเธอก็ค่อนข้างซับซ้อน เธอยังไม่อยากให้ลูกชายต้องมารับรู้เรื่องพวกนี้
โดยเธอลืมไปเสียสนิทเลยว่าลูกชายของเธอฉลาดเกินเด็ก ทำไมจะไม่รู้ว่าแฟนคืออะไร
ตอนนี้ลู่อันหรานรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาทันที เห็นชัดว่าแม่ไม่ได้ชอบผู้ชายคนนั้นมากเท่าไหร่ อย่างน้อยถ้าเทียบแล้วแม่ก็ดูชอบเขามากกว่า
"โอโห เค้กชิ้นนี้ดูสวยมากเลยครับแม่ ผมอยากกินครับ"
ลู่อันหรานจ้องมองไปที่ขนมเค้กที่เพิ่งขึ้นโต๊ะ ก่อนจะยื่นมือไปหยิบ
แต่ โม่เทียนหวี๋กลับรีบห้ามขึ้นอย่างตื่นตระหนก : "ไม่ได้นะ"
เด็กน้อยสะดุ้งตกใจ ก่อนจะรีบหดมือกลับ เอ็นตัวไปทางโม่โยวเล็กน้อย ก่อนจะเม้มปากด้วยสีหน้าน้อยใจท่าทางเหมือนจะร้องไห้
"แม่ครับ....."
โม่โยวรู้สึกสงสารลูกขึ้นมาทันที ในใจก็รู้สึกไม่พอใจโม่เทียนหวี๋ขึ้นมาเป็นครั้งแรก เธอรู้สึกว่าเขาไม่ชอบลูกชายเธอ
ก็แค่เค้กชิ้นเดียว ให้ลูกเธอกินหน่อยจะเป็นไร?
ที่สำคัญลูกชายเธอเป็นแค่เด็กห้าหกขวบ พฤติกรรมเมื่อครู่ก็เป็นเรื่องธรรมดาของเด็ก แต่โม่เทียนหวี๋กลับตะคอกลูกชายเธอเพี่ยงเพราะแค่เค้กชิ้นเดียว ทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจมาก
เธอขมวดคิ้วเข้าหากันก่อนจ้องมองเขาแวบหนึ่ง: "เทียนหวี๋ เขาเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง คุณต้องทำขนาดนี้มั้ย " พูดเสร็จเธอก็กอดปลอบอันหราน ก่อนจะเปิดเมนูอาหารดู"
"อันหรานเด็กดี ที่นี่มีเค้กมากมาย เราค่อยๆเลือกชอบอันไหนก็สั่งอันนั้นดีมั้ย"
โม่เทียนหวี๋มองโม่โยวอย่างไม่น่าเชื่อ ตั้งแต่คบกันมานี่ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้หญิงคนนี้พูดกับเขาด้วยท่าทางแบบนั้น
ลู่อันหรานเม้มปากแน่น ตายังคงจ้องมองไปที่เค้กบนโต๊ะ: "แม่ครับ ผมอยากกินเค้กอันนี้" พูดเสร็จก็มองไปทางโม่เทียนหวี๋
"คุณลุง ผมกินเค้กอันนี้ได้มั้ยครับ"
โม่เทียนหวี๋ย่อมไม่ยอมแน่นอน ถ้าเป็นแค่เค้กธรรมดาก็จะไม่ว่าอะไรเลย แต่ในเค้กนี้มันมี...........
"เทียนหวี๋ เอางี้ ฉันจะเป็นคนจ่ายเอง" โม่โยวจำใจต้องพูดแบบนี้ เพราะเธอไม่อยากให้ลูกชายผิดหวังเสียใจ
โม่เทียนหวี๋ถูกแม่ลูกทั้งสองพูดไปมาจนหน้าดำคร่ำเครียดไปหมด นี่มันไม่ใช่เรื่องเงินเล็กน้อยนั้นซะหน่อย แต่จะให้เขาบอกตรงๆก็ไม่ได้อีก
เขารู้ดีว่าจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว ไม่งั้นก็จะดูเป็นการรังแกเด็ก มันจะดูน่าเกียด
จากตอนแรกที่เขามองว่าลู่อันหราน่ารัก มาตอนนี้เขากลับรู้สึกไม่ดีกับเด็กคนนี้เอาซะเลย ช่างไม่มีมารยาท
"หนูชื่ออันหรานใช่มั้ย ไม่เป็นไร อยากกินก็กินเถอะ" เขาถอนหายใจ ก่อนจะฝืนยิ้มเล็กน้อย
ลู่อันหรานยิ้มตาหยีให้: "คุณลุงเป็นคนใจดีมากครับ"
มือเล็กๆเริ่มตักเค้กกินอย่างไม่เกรงใจ ขณะที่กำลังกินก็คิดในใจไปด้วย ในเค้กต้องมีแหวนขอแต่งงานของไอ้ลุงคนนี้แน่
โม่เทียนหวี๋เองก็จ้องมองเขากินอย่างจดจ่อ
หนุ่มน้อยกินไปชิ้นเค้กก็เล็กลงไปเรื่อยๆ สายตาเห็นแสงแวบๆในเนื้อเค้ก คิ้วน้อยๆย่นเข้าหากันเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะเยาะในใจ
เขารีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ก่อนจะฝืนยิ้ม: "เปล่า ผมสบายดี"
สบายดีบ้าอะไร
โม่เทียนหวี๋รู้สึกว่าวันนี้ช่างเป็นวันที่โชคร้ายมาก ซื้อดอกไม้ช่องใหญ่มาก็เหลือเพียงก้าง แผนการขอแต่งงานที่เตรียมมาอย่างดีก็โดนเด็กเปรตนี่ทำพังหมด แล้วยังทำกับแหวนของเขาแบบนี้อีก
ขอแต่งงานไม่สำเสร็จ จดทะเบียนก็ไม่ต้องพูดถึง
"แม่ครับ พาผมไปเที่ยวหน่อยได้มั้ยครับ" หนุ่มน้อยทำเป็นอ้อน
โม่โยวจับจมูกน้อยๆก่อนตอบรับ: "ได้จ๊ะ"
โม่เทียนหวี๋หรี่ตาเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอและเขาได้เจอหน้ากันหลังจากเขากลับจากต่างประเทศแท้ๆ แต่ผู้หญิงคนนี้กลับสนใจลูกตัวเองมากกว่าเขา
ดูท่าแล้วสำคัญกับโม่โยวแล้วลูกชายคนนี้คงสำครัญอยู่มาก ถึงแม้ว่าสองแม่ลูกจะเพิ่งเจอกันไม่นานตาม ส่วนเขากับโม่โยวถึงอยู่ด้วยกันมากว่าห้าปีแล้ว แต่มันดูเทียบกันไม่ได้เลย
ถ้าเขาขอเธอแต่งงาน ในขนาดที่โม่โยวยังคำนึงถึงลูกน้อยคนนี้อยู่ละก็..........
แววตาเขาเข้มขึ้นเล็กน้อย รู้สึกไม่ถูกชะตากับเด็กคนนี้ขึ้นมาทันที ไม่น่าโผล่มาเวลานี้เลย ขณะเดียวกันในใจก็คิดถึงเรื่องแต่งงานที่ต้องรีบจัดการให้เรียบร้อย แบบนั้นเขาจึงจะสามารถเดินตามแผนการต่อได้
คิดได้ดังนั้น โม่เทียนหวี๋ก็ยกมุมปากขึ้นยิ้มเล็กน้อย : "อันหราน หนูอยากไปเที่ยวที่ไหน พาลุงไปด้วยได้มั้ย? เราเพิ่งเจอหน้ากันครั้งแรก ลุงยังไม่ได้ให้ของขวัญอะไรหนูเลย"
"เทียนหวี๋ ขอบคุณนะคะ แต่ไม่ต้องสิ้นเปลืองหรอก " โม่โยวรีบปฏิเสธ
แต่หนุ่มน้อยกลับมีแผนของตัวเองในใจแล้ว จึงรีบตอบตกลง โม่โยวทำอะไรไม่ได้ ทั้งสามเลยพากันไปขึ้นรถของโม่เทียนหวี๋
หลังจากที่พวกเขาเดินออกไป กลุ่มชายชุดลำลองก็พากันตามออกไป
โม่เทียนหวี๋พาพวกเขามาถึงห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่สูงถึงสิบแปดชั้น มีทุกอย่างครบครันไม่ว่าจะเป็นของกินของเล่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ ฯลฯ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก