แค่เวลาสั้นๆสองวัน อันเฉินก็เข้าใจคำว่ายิ่งถอยก็ยิ่งได้คืบจะเอาศอก
เขาโมโหจนยิ้มออกมา โมโหจนสงบสติอารมณ์ไม่ได้แล้วมองไปทางเธอ "เธอบอกว่าฉันจับหน้าอกเธอ? ขอโทษนะ เมื่อกี้ฉันไม่รู้สึกเลยว่าเป็นหน้าอก"
"แล้วอีกอย่าง ฉันอยากจะพูดว่า เธอเป็นผู้หญิงแท้ๆ แต่ร่างกายกลับแข็งทื่อเหมือนผู้ชาย ข้างหน้ากับข้างหลังไม่แตกต่างกันเลย ถึงแม้ฉันจะจับจริง เธอก็ไม่เสียหายหรอก เพราะยังไงก็เหมือนไม่มี"
เขายักไหล่ด้วยสีหน้ารังเกียจ
โม่โยว: "……"
ลู่จิ้นยวนเลิกคิ้วแล้วหันมองไปที่ผู้ช่วยตัวเอง ทำไมแต่ก่อนเขาไม่เคยรู้เลยว่าอันเฉินเป็นคนปากจัดขนาดนี้
เย่ซือเยวี่ยโมโหจนจะเป็นบ้ากับคำพูดของเขา จากนั้นก็ก้มดูหน้าอกตัวเอง เหมือนกำลังจะยืนยันว่าเป็นเหมือนกับที่ฝ่ายตรงข้ามพูดหรือเปล่า แบนราบเหมือนสนามบิน
ถึงแม้จะรู้ว่าการกระทำตัวเองงี่เง่ามาก แต่พอดึงสติกลับมา สีหน้าก็บิดเบี้ยว ในสระว่ายน้ำก็มีแต่เสียงที่เธอตะโกนเสียงดัง
การว่ายน้ำที่สนุกสนานก็จบลงแบบนี้
วันต่อมา หมดเวลาพักผ่อน ทุกคนก็เดินทางกลับ
ตอนมามีแค่รถคันเดียว แต่ตอนกลับมีรถสองคัน เป็นเพราะโม่โยวกลัวระหว่างทางที่กลับไป อันเฉินกับเย่ซือเยวี่ยจะทะเลาะกันอีก
ทะเลาะกันยังถือว่าเบา แต่ถ้าตีกันก็แย่ละสิ ถ้าตีกันตอนที่ขับรถจะอันตรายมาก ก็เลยแยกทั้งสองคนซะ
ระยะทางจากนอกเมืองกลับไปในตัวเมือง ต้องใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง ระหว่างทางพวกเขาขับผ่านทางเขา ตอนมามาอย่างราบรื่น แต่วันนี้กลับถูกขวางไว้
ข้างหน้ามีผู้หญิงผู้ชายวัยรุ่นมากมายรวมตัวกันอยู่ ทั้งสองข้างทางมีธงสีต่างๆปักไว้ รถแต่ละคันจอดไว้ริมทางแล้วยังมีบิ๊กไบค์อีก
ลู่จิ้นยวนกับอันเฉินแล่นมาจอดข้างกัน แล้วลดกระจกลง
"ข้างหน้าทำไมมีคนมุงกันเยอะขนาดนั้น ทำอะไรกันน่ะ?" เย่ซือเยวี่ยยื่นศีรษะออกไปอย่างสงสัย
ลู่จิ้นยวนหรี่ตาแล้วเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง "แข่งรถ"
แค่นี้ก็พอแล้ว
อันเฉินพยักหน้า เขาดูออกเหมือนกัน "บอส เดี๋ยวผมไปคุยกับพวกเขาก่อน"
ลู่จิ้นยวนพยักหน้า
เย่ซือเยวี่ยได้ยินว่าแข่งรถก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที สถานการณ์แบบนี้เธอเคยเห็นแค่ในละคร แต่ในชีวิตจริงนี่เป็นครั้งแรก
รถทั้งสองคันของพวกเขา ก็ทำให้ผู้คนตรงหน้าหันมาสนใจ ต่างคนต่างมองหน้ากัน สายตาที่มองมาก็แฝงไปด้วยความหมายบางอย่าง
ในเมื่ออยู่ในวงการแข่งรถ ทุกคนก็ต้องรู้เรื่องรถเป็นพิเศษ
รถสองคันของลู่จิ้นยวนเป็นรถหรูหรามาก แค่มองก็รู้ว่าคนธรรมดาไม่มีปัญญาขับแน่นอน เพราะฉะนั้น กลุ่มคนพวกนั้นแค่มองมาจากที่ไกลๆ แต่ไม่กล้ามาหาเรื่อง
ในกลุ่มคนพวกนั้น ดูเหมือนว่าจะมีหัวหน้าแก๊งหลายคน อันเฉินเดินไปพูดคุยกับพวกเขา ผ่านไปไม่นานก็กลับมา
"บอสครับ พวกเขาบอกว่าตามกฎ ถ้าอยากผ่านทางนี้ จะต้องไปเล่นกับพวกเขาก่อนครับ"
คำว่าเล่น ก็หมายถึงแข่งรถนั่นเอง
กับคำตอบนี้ ลู่จิ้นยวนไม่ได้รู้สึกแปลกใจเลย เพราะเดาได้ตั้งนานแล้ว คนพวกนี้แค่มองก็รู้ว่าต้องเป็นคนในวงการ แล้วยังมีคุณชายตระกูลร่ำรวยอีกหลายคน
นิสัยของคนพวกนี้ จะยอมปล่อยไปง่ายๆได้ยังไง
อันเฉินลังเลแล้วเอ่ย "หรือว่า พวกเรากลับรถ?"
แต่พอรับช่วงบริษัทต่อ ก็เลยไม่ได้แตะเลย
ส่วนอันเฉิน ขับรถพาเย่ซือเยวี่ยไปทันที กลุ่มคนที่แข่งรถพอเห็นพวกเขา ก็ทำตามกฎ แล้วมีเสียงเชียร์ไม่น้อย ดูเป็นมิตรมาก
โดยเฉพาะอันเฉินยังเพิ่มรางวัลอีก เพิ่มเช็ครางวัลหนึ่งล้านบาท ยิ่งทำให้สถานการณ์ครึกครื้นไปกว่าเดิม
คนที่ชอบการแข่งรถก็ต้องไม่ขาดแคนเงินอยู่แล้ว แต่ก็ต้องดูระดับมูลค่าด้วย หนึ่งล้านไม่น้อยเลย ก็เลยทำให้คนที่จะแข่งรถรู้สึกตื่นเต้นแล้วเอาแต่แย่งกันจะลงแข่ง จนทำให้การเริ่มเกมดำเนินไปอย่างรวดเร็ว
เย่ซือเยวี่ยนั่งอยู่ข้างคนขับ มองเห็นรถฝั่งซ้ายขวาทั้งสองคัน เอาแต่ส่งเสียงดัง ในใจก็รู้สึกตื่นเต้นมาก
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเล่นอะไรแบบนี้ ยังไม่เริ่มก็รู้สึกตื่นเต้นจนทนไม่ไหว จากนั้นหันไปเลิกคิ้วมองอันเฉิน แล้วเบะปาก
"นี่ นายทำเต็มที่หน่อย ถึงแม้ลำดับจะไม่ดีมากนัก แต่ก็อย่ารั้งท้ายแล้วกัน ถ้างั้นคงขายหน้าน่าดู"
อันเฉินหรี่ตา "ไว้ใจเถอะ ไม่ทำให้เธอผิดหวังแน่นอน"
เขาหยิบแว่นดำขึ้นใส่ แต่ก็ปิดบังรอยยิ้มที่เยือกเย็นไม่ได้
ผู้หญิงบ้าคนนี้ เจอกันครั้งแรกก็แอบดูเขาอาบน้ำ ยังกล้ามาใส่ร้ายด่าว่าเขาเป็นโรคจิต จากนั้นก็ดึงเขาลงไปในบ่อโคลน ยังลงมือกับเขาจนเขาเสียโฉม
ในสระว่ายน้ำอีก อุตส่าห์ตัวเองจะไปช่วยเธอ กลับถูกเธอใส่ร้ายแล้วยังโดนตบหน้า
เรื่องแต่ละเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่กลับเกิดขึ้นบนตัวเขาทั้งหมด ทุกครั้งเขาก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบ แล้วเป็นเพราะผู้หญิงคนนี้ด้วย
อยากจะแข่งรถใช่ไหม ได้ เดี๋ยวเขาจะพาเธอไปเล่นเอง
ใช่ อันเฉินมีความคิดอะไรบางอย่าง อยากจะใช้การแข่งรถนี้สั่งสอนเย่ซือเยวี่ย เอาศักดิ์ศรีกลับมา อีกอย่าง นี่เป็นสิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามจะเล่นเอง ก็โทษอะไรเขาไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก