ถ้าบอกว่าการออกแบบเวินหนิงมีความโดดเด่น ถ้าอย่างนั้นรูปภาพออกแบบของตี้น่าที่นำออกมาในครั้งนี้ก็สร้างความประหลาดใจให้ทุกคน
ตี้น่าออกแบบชุดย้อนยุคตะวันตก จับคู่สีที่โดดเด่นอย่างแดงดำเหลือง สร้างข้อได้เปรียบจากผิวขาวของชาวตะวันตกอย่างละเอียดอ่อน นอกจากนี้รายละเอียดยังซับซ้อนมากแต่การตกแต่งลูกไม้ไม่ยุ่งยาก แม้กระทั่งบรรยากาศงดงามที่นำเสนอภาพรวมออกมา ก็ทำให้ทุกคนชื่นชมอย่างอดไม่ได้
ภายในระยะเวลาสั้นๆ ไม่กี่ชั่วโมง เธอออกแบบได้งดงามสมบูรณ์แบบขนาดนี้ ทำให้รู้สึกเหมือนเห็นภาพวาดสีน้ำมันในยุคกลาง
เมื่อเวินหนิงเห็นผลงานตี้น่า ก็รู้ว่าเธอแพ้แล้ว
แนวคิดการออกแบบอาจจะไม่ต่างมากนัก แต่ความสมบูรณ์แบบนั้นห่างกันเกินไป รายละเอียดของตี้น่านั้นไร้ที่ติจริงๆ
ไม่นาน ผู้ตัดสินก็ออกความคิดเห็นของตัวเอง ทุกคนเห็นพ้องกันว่าของตี้น่าโดดเด่นกว่า
ฮอร์ตันเห็นว่าเป็นแบบนี้ ก็เดินมาอย่างพึงพอใจ “คุณหนูเวิน ครั้งนี้เป็นการประลองฝีมือที่ยุติธรรม คุณแพ้ให้กับตี้น่าที่เก่งไม่เท่าฟิลเอ๋อ คุณยอมรับไหม? ”
เวินหนิงฟังแล้วทำไมรู้สึกว่าคำนี้มันแปลกๆ
แพ้แล้ว เธอก็ไม่แก้ตัว ทักษะไม่ดีเท่าก็ไม่เป็นอะไร แต่หัวหน้าตระกูลฮอร์ตันคนนี้มักจะสาดคำพูดแย่ๆ ใส่เธอ มันทำให้เธอไม่พอใจมาก
“ขอโทษนะคะ คุณฮอร์ตัน ทางด้านบริษัทเราเกิดเรื่องบางอย่าง เราต้องรีบกลับไปให้เร็วที่สุด”
ลู่จิ้นยวนเห็นว่าเป็นแบบนี้ก็เอ่ยปาก รีบพาเวินหนิงออกไป
ไม่สนว่าคนด้านหลังจะกระซิบอะไร จะพูดถึงเขาอย่างไร
เวินหนิงดิ้นสองที “คุณทำแบบนี้ พวกเขาจะพูดอะไรแย่ๆ แน่เลย”
“ไม่ออกมา เธอก็จะโดนพวกเขายิ่งพูดแย่ๆ ใส่”
ลู่จิ้นยวนมีความไม่พอใจเต็มใบหน้า
เมื่อครู่นี้เห็นได้ชัดว่าฮอร์ตันขุดหลุม ถ้าเวินหนิงบอกว่าไม่เต็มใจที่จะแพ้ ก็จะโดนคนอื่นว่าว่าไม่ยอมรับการพ่ายแพ้ แต่ถ้าบอกว่ายอมรับขึ้นมา งั้นก็เป็นไปตามที่ฮอร์ตันพูดว่าแม้แต่ตี้น่าที่เก่งไม่เท่าฟิลเอ๋อก็ยังชนะเวินหนิง ก็จะถูกวิพากษ์วิจารณ์จากการชนะในอดีตโดยอาศัยทางความสัมพันธ์
ไม่ว่าจะจัดการกับมันอย่างไร ก็กลายเป็นขี้ปากชาวบ้าน
จึงเดินออกมาดีกว่า อย่างไรแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องให้เกียรติตระกูลฮอร์ตัน
เวินหนิงก็เข้าใจความหมายของเขา ในใจก็รู้สึกผิดมาก นี่เป็นปกป้องตนอยู่ด้านหลัง ปิดกั้นเธอไว้ด้านหลัง
“ครั้งนี้ฉันด้อยกว่าเธอ ขอโทษนะ”
เวินหนิงรู้สึกค่อนข้างเศร้าสลด
ถ้าเธอไม่ท้าทายสุ่มสี่สุ่มห้า เกรงว่าคงไม่เกิดสถานการณ์อับอายแบบนี้
ลู่จิ้นยวนส่ายหน้า ยื่นมือไปลูบศีรษะเวินหนิง เสยผมยาวสลวยของเธอขึ้นมา “ไม่ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาวางแผนไว้ตั้งนานแล้ว”
ตั้งแต่การแสดงออกของตี้น่าในตอนแรกก็แปลกมาก รวมถึงระหว่างการแข่งขัน การแสดงออกครึ่งๆ กลางๆ ของเธอ ไม่ว่าจะมองอย่างไร ภาพวาดที่ออกมาเสร็จสมบูรณ์ดูไม่เหมือนเธอวาดมันออกมา
“แต่……มันเป็นหัวข้อที่หยิบออกมาสดๆ นะ”
เวินหนิงก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ในตอนนี้ จู่ๆ ก็นึกถึงเด็กผู้หญิงที่ชื่อโรซินานเต้ที่เจอวันนี้ “วันนี้ตอนที่คุณมาหาฉัน ถามฉันใช่ไหมว่าเป็นอะไร? จริงๆ แล้วฉันเจอคนที่ค่อนข้างแปลกคนหนึ่ง”
“หืม แปลกยังไง? ”
“ฉันเห็นเด็กผู้หญิงต่างชาติคนหนึ่งจะบุกเข้ามาจากข้างนอก ฉันเลยไปดูสถานการณ์ จากนั้นก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูเหมือนเป็นญาติเธอ บอกกับเธอว่า เห็นไหมว่าผลงานพวกนั้นมันไม่มีประโยชน์แล้ว มันเป็นของคนอื่นแล้ว”
“อีกอย่าง เด็กผู้หญิงคนนั้นก็ดูค่อนข้างแปลกๆ ถึงจะหน้าตาสวยมาก แต่เหมือนพูดไม่ได้ แววตาก็แปลกมากด้วย”
ลู่จิ้นยวนขมวดคิ้วแน่น เขาคิดมาตลอดว่าเบื้องหลังตี้น่ามีคนทำแทนหรือไม่ ด้วยอำนาจของตระกูลฮอร์ตัน ต้องการทำเรื่องแบบนี้มันไม่ยาก แต่ก็หาไม่เจอว่าเป็นใครตั้งแต่ต้นจนจบ
ได้ฟังคำอธิบายของเวินหนิง จู่ๆ ก็ปิ๊งขึ้นมาทันที
ลู่จิ้นยวนแย่งโทรศัพท์เวินหนิงมาโดยไม่ต้องคิด แล้วปิดเครื่องทันที
ไม่คิดเลยว่าการเคลื่อนไหวตระกูลฮอร์ตันจะเร็วแบบนี้ การแข่งเพิ่งจบลง ก็เตรียมหานักข่าวเลย ต้องการใช้เวินหนิงเป็นตัวก้าวย่างของตี้น่า
แต่……
กล้าใช้วิธีนี้ต่อหน้าเขา แถมยังเอาเรื่องแย่ๆ ในครอบครัวพวกเขามาใส่ร้ายเวินหนิงอีก ใจกล้าดีมากจริงๆ
“พวกเขา……”
สีหน้าเวินหนิงค่อนข้างซีดเซียว สิ่งที่นักข่าวพูดขึ้นเมื่อครู่นี้ มันทำให้เธอนึกถึงตอนที่ตัวเองโดนใส่ร้ายว่าเป็นฆาตกรแล้วหนีในตอนแรก
เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่ได้ทำ แต่ความคิดของทุกคนโดนควบคุมไว้ตั้งนานแล้ว ไม่มีใครเชื่อคำพูดเธอเลย
ในชั่วขณะหนึ่ง เธอก็รู้สึกค่อนข้างกระวนกระวายจริงๆ
ลู่จิ้นยวนเห็นสีหน้าเศร้าของเธอ ก็จับมือเวินหนิงไว้ สัมผัสเย็นๆ ทำให้เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้
เธอ ไม่ได้เข้มแข็งขนาดนั้นจริงๆ เมื่อเจอความอยุติธรรมแบบนี้ ก็ยังคงหวาดกลัว
ค่อยๆ ดึงหญิงสาวที่เหม่อลอยนิดหน่อยเข้ามาในอ้อมแขน เสียงหนักอึ้งของลู่จิ้นยวนดังขึ้นข้างหูเวินหนิง “มันไม่ใช่ความผิดเธอ พวกมันวางแผนมาตั้งแต่แรก แค่รอให้เธอเข้าไปในแผนการ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ฉันจะไม่ให้พวกมันทำสำเร็จ”
รู้สึกถึงความอุ่นที่โอบล้อมตน ลมหายใจคุ้นเคยนั้น เดิมทีเวินหนิงที่รู้สึกกระวนกระวายก็ดูเหมือนจะสงบลงมาก
ต้องบอกเลยว่าคำพูดของชายคนนี้ เป็นการปลอบโยนที่ได้ผล
ขณะที่ไม่รู้ตัว มันก็ทำให้เธอสบายใจขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก