บ่วงแค้นแสนรัก นิยาย บท 517

“อืม ให้เขาเสียเงินไปไม่น้อยเลย”

เวินหนิงพยักหน้า

ไป๋หลินยวี่แกล้งทำเป็นพูดโดยไม่ได้ตั้งใจ “จื่ออันนิสัยดี ไม่เกี่ยงเรื่องเล็กๆ พวกนี้หรอก ต่อไปลูกก็ติดต่อกับเขาให้มากๆ นะ อย่าห่างเหินกันเลย”

ตอนแรกเวินหนิงจะพยักหน้า แต่ก็รู้สึกแปลกๆ อย่างอธิบายไม่ถูก

“แม่ ดูแม่ชอบเหอจื่ออันมากเลยนะคะ”

“อืม……ก็ใช่มั้ง ยังไงแล้วตอนนั้นที่ลูกหายตัวไป เขาก็อยู่กับแม่บ่อยมาก ในใจแม่เขาถือว่าเป็นลูกชายครึ่งหนึ่งของแม่”

ได้ยินประโยคนี้ เวินหนิงก็ไม่รู้ควรพูดอะไรดี แค่ชมเหอจื่ออันไปไม่กี่ประโยค

ลู่อันหรานก็เดินตามเข้ามาในห้องผู้ป่วย เพราะตอนนี้สุขภาพไป๋หลินยวี่ดีขึ้นเยอะกว่าแต่ก่อนมาก ไม่ได้อ่อนแอแบบนั้น เลิกหลบหน้าเขาแล้ว

ลู่อันหรานเดินเข้ามาอย่างเชื่อฟังมาก มองคนชราที่นั่งบนเตียงผู้ป่วย “คุณยาย ผมอันหรานฮะ”

สำหรับคุณยายคนนี้ เขามีความทรงจำเลือนราง แค่จำได้ว่าตอนเด็กๆ เธอมาเยี่ยมเขาบ่อยๆ

ต่อมาได้ยินว่าเธอมีอาการป่วยแปลกๆ ถึงแม้ไม่ได้เป็นเชื้อติดต่อ แต่เพื่อไม่ให้อาการป่วยมาติดลู่อันหราน จึงไม่ได้เจอกันนานมาก

“อันหราน หนูโตแล้ว”

ไป๋หลินยวี่เห็นลู่อันหราน ก็อดน้ำตาไหลไม่ได้

สำหรับหลานชายคนนี้ เธอคิดถึงมาตลอด แต่เพราะป่วยเลยไม่กล้าติดต่อเขาเยอะ

เธอไม่อยากทิ้งภาพลักษณ์ป่วยและไม่น่าดูให้กับลูกหลานของตัวเอง

ลู่อันหรานก็ไม่รู้สึกว่ามีอะไร เขาเดินไม่กี่ก้าวไปที่หน้าเตียง เห็นมือผอมของไป๋หลินยวี่เต็มไปด้วยรูเข็ม ก็ขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้

“คุณยาย เจาะเข็มทุกวันแบบนี้ต้องเจ็บมากเลยใช่ไหมฮะ”

“ไม่เจ็บๆ คุณยายโตขนาดนี้แล้ว ไม่กลัวเจ็บ”

ได้ยินคำพูดลู่อันหราน ไป๋หลินยวี่ก็อบอุ่นในใจมาก เวินหนิงเห็นภาพอบอุ่นนี้ ก็ไม่เอ่ยปากรบกวน ยืนอยู่ข้างๆ ให้ทั้งสองคุยเล่นกัน

ลู่อันหรานถามไม่กี่ประโยค ไป๋หลินยวี่ก็จบหัวข้อนี้ แล้วถามเกี่ยวกับเรื่องที่โรงเรียนและที่บ้าน

เธอไม่ได้ออกไปข้างนอกนานมากแล้ว อยากรู้เรื่องข้างนอกมากๆ

ลู่อันหรานเหมือนเข้าใจความคิดเธอ ครุ่นคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ค่อนข้างน่าสนใจในชีวิตตัวเองเล่าให้คุณยายฟัง

เดิมทีห้องผู้ป่วยที่เงียบสงบและเหงาเล็กน้อย เพราะการปรากฏตัวของลู่อันหราน ทำให้มีความสุขเพิ่มขึ้นบ้าง

เวินหนิงยืนข้างๆ ไม่ได้พูดอะไร แค่มองเงียบๆ บรรยากาศแบบนี้ทำให้เธอสบายใจมาก

โดยเฉพาะเห็นแววตามีความสุขเปล่งประกายของไป๋หลินยวี่ เธอยิ่งตัดสินใจ ไม่ว่าจะต้องจ่ายมากแค่ไหน ก็ต้องรักษาคุณแม่ให้หายดีให้ได้

สักวันหนึ่ง เธอจะพาลู่อันหรานออกไปด้วยกัน ทำความคิดในอดีตที่ว่าอยากอุ้มหลานชายของเธอให้เป็นจริง

ทั้งสองคุยกันนานมาก จนกระทั่งพยาบาลเข้ามาตรวจสุขภาพประจำวันให้ไป๋หลินยวี่ถึงได้หยุดคุย

หลังจากตรวจสอบเรียบร้อย เวินหนิงก็เห็นไป๋หลินยวี่หอบหายใจ เหมือนเหนื่อยแล้ว ก็ดูและเธอให้นอนหลับ จากนั้นก็พาลู่อันหรานออกมา

เวินหนิงจับมือลู่อันหรานอย่างครุ่นคิด มือก็ออกแรงโดยไม่รู้ตัว ลู่อันหรานรู้สึกได้ เงยหน้าขึ้นมาเห็นแม่เหมือนเหม่อลอย ก็ไม่ได้เปล่งเสียงรบกวน

เขารู้สึกว่าแม่เหมือนมีเรื่องอะไรกังวลใจ

ผ่านไปสักพัก เวินหนิงก็ตอบสนอง “อันหราน เมื่อกี้ลูกเหนื่อยแล้วใช่ไหม แม่ไปส่งลูกกลับบ้านไหม? ”

“ไม่เหนื่อย ผมไม่ได้เจอคุณยายนานมากแล้ว ได้คุยกับเธอ รู้สึกดีมากเลยฮะ”

ลู่อันหรานส่ายหน้า พูดขึ้นอย่างรู้ประสา

เวินหนิงยิ้ม ลูบศีรษะเล็กของเขา

ถึงแม้บางครั้งลู่อันหรานจะซนมาก ทำให้เธอไม่มีทางเลือก แต่……ส่วนมากแล้ว เขาก็น่ารักมาก

“อ่า จริงสิ ของเล่นของลูก……”

ลู่อันหรานวางสาย ในใจก็ภูมิใจอย่างยิ่ง

อย่างไรแล้ว เมื่อก่อนถ้าเขาพูดประโยคนี้ ลู่จิ้นยวนจะต้องตำหนิเขาว่าสร้างปัญหา จากนั้นก็เรียกคนขับรถมา

ตอนนี้รู้สึกเหมือนเอาขนไก่ไปทำลูกศร

“บริษัทเขาไม่ยุ่งเหรอ? ”

เวินหนิงไม่ได้หวังว่าลู่จิ้นยวนจะปรากฏตัวต่อหน้าตน เห็นเขาแล้วเธอรู้สึกสับสนในใจ

ไม่เจอก็จะดีกว่า

“ไม่รู้แล้วฮะ เขาอยากมาก็ให้เขามาเถอะ”

ลู่อันหรานยักไหล่ เวินหนิงก็ไม่พูดอะไรอีก

ทั้งสองรออยู่ด้านนอกสักพักหนึ่ง รถลู่จิ้นยวนก็มาถึง

ตามคำแนะนำของลู่อันหราน ครั้งนี้ลู่จิ้นยวนเป็นพนักงานขนของที่แข็งแรง นำของขึ้นไปบนรถ

เวินหนิงเห็นลู่จิ้นยวนนำของไปแล้ว ก็ส่งยาที่หมอสั่งให้ลู่อันหรานวันนี้ตอนเช้าไว้ในมือเขา “นี่ยาอันหราน ให้เขากินตรงเวลาตอนกลางคืน แล้วก็สองสามวันนี้ให้กินอะไรอ่อนๆ นะ”

ลู่จิ้นยวนยื่นมือออกไป ไม่ได้รับยาไปทันที แต่จับมือเวินหนิงไว้

“คำแนะนำหมอล่ะ? ”

เวินหนิงหน้าแดง อยากชักมือออกมาทันที แต่เพราะลู่จิ้นยวนจับไว้แน่นมาก เลยทำไม่สำเร็จ

พอเงยหน้าขึ้นเห็นใบหน้าไร้อารมณ์ของลู่จิ้นยวน เวินหนิงก็พึมพำในใจอย่างอดไม่ได้

ไอ้ผู้ชายบัดซบ จงใจเหรอ?

แต่การแสดงสีหน้าเขาสงบนิ่งมาก เธออายเกินกว่าจะเคลื่อนไหวใดๆ ไม่งั้นจะดูเหมือนเกิดอะไรขึ้นกับเธอ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก