เวินหนิงครุ่นคิด แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้ตอบตกลงไป เธอมีความรู้สึกอยู่ตลอดว่าเรื่องนี้มีอะไรไม่ชอบมาพากล เธอไม่อยากให้ใครก็ตามมาพาไป๋ซินหรานไปตามใจชอบ
หากเกิดเรื่องว่าคนนั้นทำกับเธอไม่ดี เวินหนิงคงรู้สึกผิดเอามากๆ
เมื่อเห็นว่าเวินหนิงไม่ตกลง เจียงซินเฉียวก็รู้สึกร้อนใจขึ้นมาเล็กน้อย ในเมื่อ การพาไป๋ซินหรานกลับไปเป็นคำร้องขอจากปากของตัวหลี่ซือหมิงเองโดยตรง ถ้าหากว่าแม้แต่เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ยังไม่สามารถจัดการได้ เกรงว่าเขาจะโกรธเอาได้
เพียงแต่ว่า เห็นท่าทีที่ยืดหยัดหนักแน่นของเวินหนิงแล้ว เจียงซินเฉียวก็ไม่กล้าแสดงท่าทีร้อนรนออกมาให้เห็น เพราะกลัวว่าจะถูกความผิดปกติเอาได้
ผู้ใหญ่ทั้งสองคนยืนนิ่งค้างกันอยู่ที่ด้านนอก และภายในห้องพักผู้ป่วยนั้น ไป๋ซินหรานเองก็ค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้าๆ
ไป๋ซินหรานพึ่งจะรู้สึกตัวตื่นขึ้น อีกทั้งยังรู้สึกสับสนงุนงงอยู่
เธอจำได้เพียงแค่ว่าไปเดินเข้าห้องน้ำคนเดียว คิดที่อยากจะอ้วกเอาชานมรสชาติประหลาดนั้นออกมา ผลปรากฏว่าทันทีที่เดินเข้าไปก็หมดสติไปเลย
เรื่องหลังจากนั้นเธอเองก็ไม่รู้แน่ชัดแล้ว
“ตอนนี้หนู อยู่ที่ไหน”
ไป๋ซินหรานพูดออกมาอย่างงุนงง
“เธออยู่โรงพยาบาล ตอนนี้เธอไม่เป็นอะไรแล้วนะ”
ลู่อันหรานยืนอยู่ข้างๆ คอยเอ่ยปลอบเธอ “ขอโทษด้วย เป็นเพราะฉันไม่ระวังเอง เธอถึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้”
ไป๋ซินหรานมองไปรอบๆ ภาพทั้งหมดช่างดูพร่าเลือน ที่แท้เธอก็ได้รับความช่วยเหลือ
ยังดี ที่ตนนั้นยังคงมีชีวิตอยู่ เพราะยังไม่ได้เจอคุณแม่เลย เธอจะยังตายไม่ได้
“อันหราน ฉันไม่โทษเธอหรอกนะ”
ไป๋ซินหรานเห็นท่าทีที่โทษตัวเองของลู่อันหราน จึงได้เป็นฝ่ายกล่าวปลอบเขา
เมื่อเห็นเธอเป็นเช่นนี้แล้ว ลู่อันหรานก็ยิ่งรู้สึกผิดมากยิ่งขึ้น
ขณะนั้นเอง เขาได้ยินเสียงผู้หญิงอีกคนกำลังพูดอยู่ข้างนอกห้อง จึงรู้สึกตื่นตัวขึ้นมา ไม่ใช่ว่าแม่ของไป๋ซินหรานจะมาถึงพอดีอย่างงั้นเหรอ
ถ้าหากว่าเธอเห็นว่าแม่ของตัวเองมาเยี่ยมเธอแล้วล่ะก็ น่าจะรู้สึกดีขึ้นมามากเลยทีเดียว
ลู่อันหรานรีบออกไปข้างนอก ทันทีที่มองไป ก็ปรากฏว่าแม่ของไป๋ซินหรานมาถึงแล้วจริงๆ
ลู่อันหรานรีบวิ่งเข้าไปหา “แม่ แม่ครับ ซินหรานฟื้นแล้วครับ”
ได้ยินดังว่า เวินหนิงก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา ในเมื่อฟื้นขึ้นมาแล้ว เช่นนี้เธอก็สามารถวางใจลงไหได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
เมื่อคิดๆ ดูแล้ว จึงหันไปพูดกับเจียงซินหรานว่า “คุณเองก็เข้าไปดูแกหน่อยแล้วกัน”
แน่นอนว่าเจียงซินหรานไม่มีทางปฏิเสธ ทั้งสามคนจึงรีบเข้าไปให้ห้องพักผู้ป่วยทันที
แม้ว่าไป๋ซินหรานจะได้ทำการล้างท้องแล้ว แต่ว่าก็ยังคงรู้สึกไม่สบายตัวอยู่ดี สมองก็ยังคงไม่แจ่มชัด งุนงงและสับสน
และในขณะนั้นเอง เธอก็เห็นผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่งที่ตามคุณป้าหนิงหนิงเข้ามาและอยู่ที่ด้านหลังของเธอ จึงเผลอหันไปมองอยู่นาน
ผู้หญิงคนนี้ สวยมาก อีกทั้งยังดูรู้สึกคุ้นตาราวกับว่าเคยเห็นที่ไหน.......
ไป๋ซินหรานเหม่อไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่ต่อมาในทันที เธอก็จำได้แล้วว่า ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนกับคนที่อยู่ในรูปภาพของคุณแม่ที่มีเหลือทิ้งไว้อยู่ไม่กี่ใบนั้น
เพียงแต่ว่า ตอนนี้สถานการณ์ได้บังคับเธอ เธอจึงทำได้เพียงฝืนกลั้นกดความรู้สึกทั้งหมดลงไป แล้วจึงยิ้มและเดินเข้าไปหา “ใช่แล้ว ฉันเป็นแม่ของหนู ขอโทษด้วยนะ ที่รอนานมากขนาดนี้แล้วถึงได้พึ่งมาหาหนู”
หลังจากที่ไป๋ซินหรานได้ยินคำดังว่า ก็ควบคุมน้ำตาของตัวเองไม่อยู่ แล้วโถมตัวเข้าสู่อ้อมอกของเจียงซินเฉียว “คุณแม่ หนูนึกว่าแม่ไม่ต้องการหนูแล้ว หนูนึกว่าทั้งชีวิตนี้จะไม่ได้เจอแม่แล้ว”
เจียงซินเฉียวเอามือลูบผมของไป๋ซินหราน น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรัก แต่การกระทำกลับเย็นชาเสียเหลือเกิน
“แม่ไม่ได้ไม่ต้องการหนู เพียงแต่ว่า พ่อของหนูต้องการลูกชาย หลังจากที่หนูเกิดขึ้นมา เขาก็คอยเอาแต่ตบตีด่าว่าแม่ แม่ไม่มีทางเลือกถึงได้หนีออกมาจากบ้านหลังนั้น ตอนแรกแม่ก็เกือบจะฆ่าตัวตายแล้วนะ แต่ว่าก็ถูกคนคนหนึ่งช่วยเอาไว้ หลังจากนั้นเพื่อเป็นการทดแทนบุญคุณ ก็เลยอยู่ด้วยกันกับคนที่ช่วยชีวิตเอาไว้ แม่ไม่ได้ไม่อยากไปรับลูก แต่ว่า แม่ไม่กล้ากลับไปที่นั่น กลัวว่าพ่อของลูกจะตีแม่จนตาย”
เจียงซินเฉียวพูดเล่าเรื่องราวในอดีตที่จริงครึ่งโกหกครึ่งออกมา
แม้ว่าในปีนั้นพ่อของไป๋ซินหรานจะไม่มีความรับผิดชอบเอามากๆ แต่ก็ไม่ไปทำร้ายคนที่บ้านเธอ แต่ว่าก็จำเป็นที่จะต้องพูดไปเช่นนั้น ถึงจะสามารถทำให้เรื่องที่เธอทอดทิ้งไป๋ซินหรานดูดีขึ้นมา
ไป๋ซินหรานได้ยินดังว่า ก็ไม่ได้รู้สึกสงสัยเลยแม้แต่น้อย กลับยังรู้สึกว่าแม่ช่างน่าสงสาร ถึงขนาดโทษตัวเอง ถ้าหากว่าตัวเธอเกิดขึ้นมาโดยที่ไม่ได้เป็นผู้ชาย บางทีแม่เองก็อาจจะไม่ต้องหนีไป
เมื่อเห็นว่าไป๋ซินหรานกำลังจมดิ่งอยู่กับการโทษตัวเอง เจียงซินเฉียวจึงพูดขึ้นมาอย่างพออกพอใจว่า “แม่รู้ว่าหนูป่วย ก็เลยรีบมาหาหนู ตอนนี้สามีของแม่ก็รู้เรื่องและพูดว่าหนูเป็นเด็กดี เลยยินยอมที่จะรับลูก ซินหราน ลูกจะยอมกลับไปกับแม่ไหม”
เจียงซินเฉียวรู้สึกว่าท่าทีเมื่อสักครู่นี้ของเวินหนิง เป็นท่าทีที่ไม่ไว้ใจเธอ ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องลงมือโดยตรงกับเด็กคนนี้ ไป๋ซินหราน
เธอต้องการความรักจากแม่เสียขนาดนั้น ขอเพียงแค่หยิบยื่นมันไปให้ แน่นอนว่าจะต้องตอบตกลง
และก็เป็นไปตามคาด ไป๋ซินหรานลังเลเพียงชั่วครู่ จากนั้นก็เปิดปากพูดขึ้นมาอย่างระมัดระวัง “ได้จริงๆ เหรอคะ”
เจียงซินเฉียวพยักหน้า “ลูกลองคิดดูนะ คุณลุงคนนั้นก็ได้ช่วยแม่เอาไว้แต่แรก ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเป็นคนดีแน่นอน ใช่ไหม
ถ้าเป็นแบบนั้นแล้ว ลูกยังกลัวอะไรอยู่อีกล่ะ”
เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ สุดท้ายแล้วไป๋ซินหรานก็อดทนต่อความเย้ายวนที่จะได้อยู่กับแม่ในทุกๆ วันต่อไปไม่ไหว “หนูอยากจะไปกับแม่ แม่ หนูอยากอยู่ดูแลแม่ไปตลอดเลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก