มาเดลีนพยายามขัดขืนเพื่อที่จะหนี แต่เธอไม่สามารถต้านแรงของชายร่างใหญ่คนนั้นได้ เธอถูกบังคับให้ขึ้นรถ
“พวกนายเป็นใคร?! จะพาฉันไปไหน!” มาเดลีนตะโกน แต่ไม่มีใครตอบกลับเธอเลยสักคน เธอไม่สามารถกระโดดออกจากรถได้ เพราะมีคนจับมือเธอตลอดทาง
ผ่านไปสิบกว่านาที รถหยุดตัวลงที่สถานรกร้างนอกเมือง
“ออกไป!” ชายคนนั้นดึงเธอออกจากรถอย่างดุเดือด เขาผลักเธอลงบนพื้น
จังหวะที่มาเดลีนล้มลงบนพื้น ฝ่ามือของเธอได้ยันพื้นประคองร่างกายเธอไว้ หินแหลมคมบนพื้นทะลุบาดผิวหนังเธอในทันที เลือดเริ่มซึมออกมา แต่เธอไม่สนใจความเจ็บปวดนั้น เธอเงยหน้าขึ้นเพื่อหาคำตอบของสิ่งที่ถูกกระทำจากชายพวกนั้น
“พวกนายจะทำอะไร?! ใครส่งพวกนายมาที่นี่ มันคือเมเรดิธใช่ไหม?!” เธอเอ่ยถามขึ้น หลังจากจบคำถาม เมเรดิธได้ปรากฏตัวต่อหน้าเธอแทบจะในทันที
เมเรดิธมาด้วยใบหน้าที่เต็มแต่งไปด้วยเครื่องสำอางสวมเสื้อคลุมขนสัตว์แบรนด์เนมราคาแพงเธอมองมาเดลีนอย่างหยิ่งผยอง
“เมเรดิธ เป็นเธอจริงๆ!” มาเดลีนกัดฟันแน่นขณะเผชิญหน้ากับผู้หญิงที่เลวทรามคนนี้ “พาฉันมาที่นี่เพื่ออะไร? นี่กำลังวางแผนจะทำอะไร?!”
มาเดลีนพยายามยืนขึ้นหลังจากพูดแบบนั้น แต่ในขณะที่เธอขยับตัว มีคนเข้ามาเตะเธอที่ท้องทันที
ความปวดร้าวทำให้ร่างกายของเธอสั่นสะท้านในขณะที่เธอกลิ้งไปบนพื้นหญ้า ใบหน้าของเธอดูซีด อากาศในฤดูหนาวที่เย็นยะเยือกเสียดแทงเธอราวกับมีดน้ำแข็งเล่มบางแทงลงบนผิวหนังของเธอ
มันหนาวมาก แต่กระนั้นหน้าผากของมาเดลีนดันเต็มไปด้วยเหงื่อ
เมื่อเมเรดิธมองไปที่สภาพสิ้นหวังของมาเดลีน เมเรดิธอดไม่ได้ที่จะเสียดสีเธอว่า “แมดดี้ ทำไมถามคำถามโง่ๆแบบนี้ล่ะ? ฉันก็แค่จ่ายหนี้แบบฟันต่อฟัน ทำไมเธอต้องกลั่นแกล้งฉันตลอดเวลาด้วยนะ? ตอนนี้เจเรมี่บอกฉันว่าฉันต้องพิสูจน์ให้เธอเห็นถึงผลของมันแล้ว”
ดวงตาของมาเดลีนเบิกกว้างในขณะที่เธอเงยหน้าขึ้นด้วยความมุ่งมั่น เพียงเพื่อดูผลการตรวจดีเอ็นเอที่เธอไม่ได้เห็นมันด้วยตัวเอง มันอยู่ในมือของเมเรดิธ หัวใจของเธอเต้นแรง
เธอกำหมัดที่เต็มไปด้วยโคลนและเลือดแน่นในขณะที่เธอบังคับให้ร่างกายที่สะบักสะบอมลุกขึ้นยืน
“เอามันคืนมา!” มาเดลีนพุ่งเข้าหาเมเรดิธ พยายามที่จะเอาเอกสารยืนยันสายสัมพันธ์นั้นกลับมา
เมเรดิธหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ขณะที่เธอหลีกทาง ยกขาขึ้นเพื่อถีบส่งไปที่ท้องของมาเดลีน
รองเท้าส้นเข็มของเธอเจาะเข้าไปในหน้าท้อง มีเพียงเสื้อเชิ้ตบางๆของมาเดลีนคลุมอยู่ มาเดลีนเจ็บมากจนรู้สึกว่าเส้นประสาททั้งหมดในร่างกายหดตัวลง
ก่อนที่เธอจะทรงตัวได้อย่างมั่นคง เมเรดิธจับผมสั้นของเธอไว้ เพื่อเป็นการเตือนที่โหดเหี้ยม “มาเดลีน จำสิ่งนี้ไว้ ฉันเป็นลูกสาวที่เลอค่าของมอนต์โกเมอรีที่สูญหายไปเมื่อหลายปีก่อน แกเป็นใครกัน? เเกคิดว่าเเกเป็นลูกเป็ดขี้เหร่ที่สามารถกลายร่างเป็นหงส์ได้เพียงเพราะจี้ทองคำโง่ ๆอันเดียวนี้เหรอ?! แกมีค่าพอขนาดนั้นเชียวหรือ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ
1...
1...
1...
นางเอกโคตรโง่เลย เชื่อผู้ชายคนนี้ได้ไง ก็รู้อยู่ว่าเขานิสัยไม่ดีและจะแย่งตัวเองมาจากสามี ดันไปเชื่อมัน เอายามาแอบฉีดให้สามีเฉยเลย แทนที่จะปรึกษากันก่อน...
ต่อให้ทำผิดแล้วก็ไม่ควรให้อภัยอ่ะ เพราะมันเลวมาก รู้ว่านังเมอร์ทำชั่ว แต่ก็ช่วยปกปิดสารพัด ขนาดฆ่าคนตาย ยังยึดหลักฐานไป ปล่อย ห้นางเอกรับโทษแทนตั้งสามปี ไม่เคยมาดูดำดูดี พอออกมาได้ก็ยังทุบตีสารพัด ไม่เข้าใจว่านางเอกจะกลับมารักได้ไง...
หวาดเสียวว่านางเอกจะกลับมารักสามีเก่า โอ่ย ไม่ไหวนะ ต้องท่องไว้ว่ามันทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจไว้หนักหนาสาหัส ทำลูกตายด้วยนะ ทำลายหลุมศพปู่กับลูกอีก...
ทำไมไม่เอาหลักฐานให้ลุง ลุงเป็นคนดี ต้องเชื่ออน่นอน มีอำนาจด้วย ช่วยคุยกับตำรวจได้...
อ้าว รีบบอกพ่อแม่สิ จะปล่อยอีชั่วนี่ไว้กับพ่อแม่ได้ไง...
เรื่องนี้อ่านแล้วโคตรโมโห นางเอกน่าจะฆ่าแม่งให้หมดทุกตัวเลย อย่าให้เป็นว่ายกโทษให้สามีนะ...
อย่าได้กลับไปอยู่กับสามีเลย ชั่วช้าขนาดนั้น ต้องแก้แค้นให้สาสม...