“และนี่สำหรับสามีของฉัน!”
“...”
“ตายซะเถอะ ลาน่า!” ความโกรธของเมเดลีนดูเหมือนจะถูกจุดชนวนขึ้นในขณะที่เธอคว้าคอลาน่าไว้และบีบจนแน่น
ลาน่าดูเหมือนกำลังขาดอากาศหายใจ เธออ้าปากค้างด้วยใบหน้าที่แดงก่ำทันที
ทว่าเมเดลีนก็ไม่ได้ดูจะปล่อยมือออกจากลาน่าเร็ว ๆ นี้เลย “รู้สึกแย่ใช่ไหม? รู้ไหมว่าความตายมันเจ็บปวดทรมานแค่ไหน? การทรมานคนอื่นทำให้เธอรู้สึกมีความสุขมากงั้นเหรอ? ลองสัมผัสความรู้สึกที่ต้องถูกทรมานดูบ้างสิ! รู้สึกยังไงบ้าง?! ตอนนี้รู้สึกดีไหมล่ะ?!”
“เอวลี… แก… แค่ก แค่ก แค่ก!”
“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนอย่างเธอจะถูกปล่อยตัวออกมา หึ” เมเดลีนหัวเราะเบา ๆ อุณหภูมิในดวงตาของเธอลดลงถึงจุดเยือกแข็ง “ถ้ากฎหมายลงโทษคนอย่างเธอไม่ได้ ฉันก็จะจัดการเอง เพื่อลูกของฉันและเพื่อผู้ชายที่ฉันรักที่สุด ฉันจะล้างแค้นให้พวกเขาเอง”
“...”
เสียงของเมเดลีนนุ่มนวลแต่ทรงพลัง
สายตาของเธอเย็นชายิ่งขึ้นไปอีก และไม่สามารถควบคุมน้ำหนักที่มือตัวเองได้อีกแล้ว เธอต้องการให้ลาน่ารู้สึกถึงความเจ็บปวดและทรมานจากการหายใจไม่ออก!
ลาน่าเห็นเจตนาจะฆ่าให้ตายด้วยความเย็นชาในดวงตาของเมเดลีน ดังนั้นเธอจึงเริ่มตื่นตระหนก
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอเฝ้าสังเกตและวางแผนที่จะฆ่าเมเดลีนมาตลอด
แต่ไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งเมเดลีนจะเป็นคนที่ตอบโต้และอยากจะฆ่าเธอให้ตาย!
ลาน่าคิดว่าบางทีเธออาจทำให้เมเดลีนโกรธมากเกินไป เพราะเจตนาฆ่าในสายตาของเมเดลีนนั้นชัดเจนเหลือเกิน
ทันใดนั้นเองประตูบันไดหนีไฟก็ถูกผลักเปิดออก
ภายใต้แสงไฟสลัว ชายร่างสูงคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นที่หางตาของเมเดลีน
“เอวลีน”
เมื่อได้ยินคนเรียกชื่อ เมเดลีนก็เสียสมาธิไปเล็กน้อย
ไรอันชำเลืองมองไปด้านล่าง ก่อนจะเดินตามหลังเมเดลีนเพื่อเดินเข้าไปในโถงจัดเลี้ยง
ขณะนี้ในห้องจัดเลี้ยงเต็มไปด้วยแขกเหรื่อจำนวนมากมาย แม้ว่าเมเดลีนจะสวมรองเท้าส้นเตี้ยและไม่ได้แต่งหน้าใด ๆ ทว่าความสูงสง่าและความงดงามที่ไม่เหมือนใครก็ทำให้เธอโดดเด่นไม่ต่างอะไรจากดาราคนดังเลย
เมื่อพวกเขาเห็นเมเดลีนเดินเข้ามาพร้อมกับไรอัน หลายคนก็เริ่มกระซิบกระซาบกัน ซ้ำยังมีบางคนถึงขนาดเดินเข้ามาพูดคุยกับเมเดลีนด้วยรอยยิ้มมีเลศนัย “คุณมอนต์โกเมอรี เมื่อไม่นานมานี้คุณยังบอกอยู่เลยว่าคุณวิทแมนคือสามีของคุณไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมวันนี้ถึงมาร่วมงานพร้อมกับคุณโจนส์ล่ะ?”
“ใช่ คุณมอนต์โกเมอรี ตอนนี้ที่คุณอยู่กับคุณโจนส์ คุณไม่รู้สึกผิดต่อคุณวิทแมนบ้างเลยเหรอ?”
เมเดลีนรู้ว่าคนเหล่านี้กำลังจงใจพูดยั่วยุ ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงแค่ยิ้มและไม่ตอบโต้ แต่ไรอันกลับเดินเข้ามาหาเธอ
เมเดลีนคิดว่าไรอันคงจะแนะนำเธอในฐานะภรรยา เธอจึงพยายามเบี่ยงตัวเพื่อเลี่ยงเขา ทว่าเมื่อทำเช่นนั้น เธอก็รู้สึกถึงสัมผัสที่คุ้นเคยกำลังจับไหล่ของเธอไว้
เธอผงะและเงยหน้าขึ้นมอง แล้วสายตาก็ประสานเข้ากับชายหนุ่มที่เข้ามาจับเธอไว้ เธอประหลาดใจเป็นอย่างมากเมื่อพบกับดวงตาที่เปล่งประกายพร้อมรอยยิ้มอันอ่อนโยน
‘เจเรมี่?!’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ
1...
1...
1...
นางเอกโคตรโง่เลย เชื่อผู้ชายคนนี้ได้ไง ก็รู้อยู่ว่าเขานิสัยไม่ดีและจะแย่งตัวเองมาจากสามี ดันไปเชื่อมัน เอายามาแอบฉีดให้สามีเฉยเลย แทนที่จะปรึกษากันก่อน...
ต่อให้ทำผิดแล้วก็ไม่ควรให้อภัยอ่ะ เพราะมันเลวมาก รู้ว่านังเมอร์ทำชั่ว แต่ก็ช่วยปกปิดสารพัด ขนาดฆ่าคนตาย ยังยึดหลักฐานไป ปล่อย ห้นางเอกรับโทษแทนตั้งสามปี ไม่เคยมาดูดำดูดี พอออกมาได้ก็ยังทุบตีสารพัด ไม่เข้าใจว่านางเอกจะกลับมารักได้ไง...
หวาดเสียวว่านางเอกจะกลับมารักสามีเก่า โอ่ย ไม่ไหวนะ ต้องท่องไว้ว่ามันทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจไว้หนักหนาสาหัส ทำลูกตายด้วยนะ ทำลายหลุมศพปู่กับลูกอีก...
ทำไมไม่เอาหลักฐานให้ลุง ลุงเป็นคนดี ต้องเชื่ออน่นอน มีอำนาจด้วย ช่วยคุยกับตำรวจได้...
อ้าว รีบบอกพ่อแม่สิ จะปล่อยอีชั่วนี่ไว้กับพ่อแม่ได้ไง...
เรื่องนี้อ่านแล้วโคตรโมโห นางเอกน่าจะฆ่าแม่งให้หมดทุกตัวเลย อย่าให้เป็นว่ายกโทษให้สามีนะ...
อย่าได้กลับไปอยู่กับสามีเลย ชั่วช้าขนาดนั้น ต้องแก้แค้นให้สาสม...