เมเดลีนถึงกับชะงัก จิตใจของเธอว่างเปล่าไปหมด
“แมดดี้ แมดดี้”
ผ่านไปไม่นานเมเดลีนได้ยินเสียงคนเรียกชื่อเธอ
เธอได้สติกลับมาอีกครั้ง และเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย เอวา ลองค์ เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธอ
เอวามองไปยังหน้าที่ไม่มีเลือดฝาดของเพื่อนสาว เธอรู้สึกโกรธและเป็นห่วงมาก “เมเดลีน เธอเป็นเพื่อนที่แย่มาก ทำไมเธอไม่ยอมบอกเรื่องใหญ่แบบนี้กับฉัน?”
เมเดลีนยังคงรู้สึกงงงวย “เอวา ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่?”
“เธอสิ เป็นคนที่จะต้องบอกฉัน เธอเป็นคนโทรหาฉันเมื่อคืนนี้ แต่ก่อนที่เธอจะพูดจบเธอก็หมดสติไป” เอวาเอื้อมมือไปแตะหน้าผากของเมเดลีนเบา ๆ ขณะที่เธอพูด “เมเดลีน นี่เธอสูญเสียความทรงจำหรือเปล่า?”
แน่นอนเมเดลีนไม่ได้สูญเสียความทรงจำของเธอใด ๆ ทั้งสิ้น เธอจำได้ดีว่าเจเรมี่บีบคอเธอก่อนจะทิ้งเธอไปในคืนนั้น ท้องของเธอกระแทกที่มุมเตียง มันเจ็บปวดมากจนไม่สามารถลุกขึ้นได้ ถึงกระนั้นเขาก็เดินจากไปโดยไม่สนใจใยดีเธอสักนิด เขาพูดทิ้งท้ายด้วยถ้อยคำที่ไร้ซึ้งหัวใจก่อนที่เขาจะจากไป
ในคืนนั้นหัวใจที่ถูกกรีดออก และความเจ็บทะลุออกมาจากกระดูกเธอ
เอวาหันหน้ากลับมานั่งลงบนเตียง สีหน้าของเธอดูจริงจังกว่าที่เคย “หมอนั่นอยู่ไหน เขาเป็นสามีของเธอ ตั้งแต่เธอเข้าโรงพยาบาลฉันก็ไม่เห็นเขาแม้แต่เงา”
เมเดลีนหลบหลีกสายตาของเอวาด้วยความรู้สึกผิด “เจเรมี่ เขางานยุ่งมาก”
“เหอะ! เขายุ่งอยู่กับผู้หญิงของเขางั้นเหรอ เมเรดิธงั้นเหรอ? ฮะ?” เอวาพูดจี้ใจดำ “เธอกำลังบ้าผู้ชายคนนั้นมาก จนเธอสับสนและสูญเสียความเป็นตัวเองไปแล้ว เธออยู่ในสภาพนี้ยังจะเข้าข้างเขาอีกงั้นเหรอ”
เมเดลีนหัวเราะกับตัวเอง “เป็นเพราะฉันชอบเขา นั่นคือทั้งหมดของเหตุผล”
“ฉันเดาว่าเธอชอบเขาได้อีกไม่นาน” เอวายังคงตรงไปตรงมาในคำพูด “เมื่อกี้ ได้ยินที่หมอพูดแล้วใช่ไหม?”
เมเดลีนตกอยู่ในอาการนิ่งค้างเหม่อลอยอีกครั้ง เอวามองไปที่เพื่อนสาวผู้น่าสงสาร เธอรู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรจุกหน่วงอยู่ในใจ
ในที่สุดเมเดลีนนึกถึงสิ่งที่เจเรมี่พูดไว้เมื่อคืนก่อน วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบ 50 ปีของแม่เขา เธอต้องไปร่วมงานในฐานะภรรยาของเขา
เธอกำลังจะตอบตกลง แต่ไม่ทันเอวาก็คว้าโทรศัพท์ของเธอไปก่อน “เจเรมี่ วิทแมน นี่คือสิ่งที่สามีพึงทำงั้นเหรอ? ไม่รู้หรือไงว่าตอนนี้ภรรยาคุณ...”
เมเดลีนเกรงว่าว่าเอวาจะบอกเขาเรื่องเนื้องอก เธอจึงคว้าโทรศัพท์คืน “ฉันจะไปเดี๋ยวนี้!” เธอวางสายทันทีที่จบประโยค เธอไม่กล้าเสียเวลาอีกสักวินาทีเดียว
เอวารู้สึกขุ่นเคืองใจมาก มาเดลีนที่ไม่ยอมทำตามในสิ่งที่เธอคาดหวังถึงอย่างงั้นเธอเองก็ไม่มีทางเลือก ก่อนที่เธอจะส่งมาเดลีนขึ้นรถแท็กซี่ เอวาเตือนมาเดลีนอย่างจริงจังให้เธอดูแลตัวเองให้ดีและมาเดลีนเองก็พยักหน้าน้อมรับ”
ปาร์ตี้กำลังดำเนินไปเรื่อย ๆ เมื่อเธอมาถึงคฤหาสน์วิทเเมน ชุดราตรีที่สวยงามและดูดีมีระดับ ถูกสวมใส่โดยหญิงงามที่ร่ำรวยมีฐานะ เหล่าไฮโซจำนวนมากกำลังพูดคุยกันในสวน เนื่องจากเมเดลีนพึ่งออกจากโรงพยาบาล เธอจึงสวมชุดลำลองสีเทา ซึ่งทำให้เธอดูเหมือนคนที่หลุดมาจากโลกอื่น
ดังนั้นเธอจึงก้มศรีษะลง ขณะที่เธอกำลังจะมองหาเจเรมี่ ผู้หญิงคนหนึ่งหันหน้าเข้ามาชนเธอ ไวน์กระเด็นออกมาจากแก้วของผู้หญิงคนนั้น ในขณะที่เธอเดินผ่าน
"ชุดของฉัน!" หญิงสาวร้องอุทาน เธอจ้องมองเมเดลีนด้วยความโกรธ “เธอมองไม่เห็นทางที่เธอจะไปหรือไง ห๊ะ ตาบอดรึไง? วิทแมนมีสาวใช้ที่ไร้สมองแบบเธอได้อย่างไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ
1...
1...
1...
นางเอกโคตรโง่เลย เชื่อผู้ชายคนนี้ได้ไง ก็รู้อยู่ว่าเขานิสัยไม่ดีและจะแย่งตัวเองมาจากสามี ดันไปเชื่อมัน เอายามาแอบฉีดให้สามีเฉยเลย แทนที่จะปรึกษากันก่อน...
ต่อให้ทำผิดแล้วก็ไม่ควรให้อภัยอ่ะ เพราะมันเลวมาก รู้ว่านังเมอร์ทำชั่ว แต่ก็ช่วยปกปิดสารพัด ขนาดฆ่าคนตาย ยังยึดหลักฐานไป ปล่อย ห้นางเอกรับโทษแทนตั้งสามปี ไม่เคยมาดูดำดูดี พอออกมาได้ก็ยังทุบตีสารพัด ไม่เข้าใจว่านางเอกจะกลับมารักได้ไง...
หวาดเสียวว่านางเอกจะกลับมารักสามีเก่า โอ่ย ไม่ไหวนะ ต้องท่องไว้ว่ามันทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจไว้หนักหนาสาหัส ทำลูกตายด้วยนะ ทำลายหลุมศพปู่กับลูกอีก...
ทำไมไม่เอาหลักฐานให้ลุง ลุงเป็นคนดี ต้องเชื่ออน่นอน มีอำนาจด้วย ช่วยคุยกับตำรวจได้...
อ้าว รีบบอกพ่อแม่สิ จะปล่อยอีชั่วนี่ไว้กับพ่อแม่ได้ไง...
เรื่องนี้อ่านแล้วโคตรโมโห นางเอกน่าจะฆ่าแม่งให้หมดทุกตัวเลย อย่าให้เป็นว่ายกโทษให้สามีนะ...
อย่าได้กลับไปอยู่กับสามีเลย ชั่วช้าขนาดนั้น ต้องแก้แค้นให้สาสม...