เจเรมี่วิ่งตามไป เขารู้สึกได้ว่าเมเดลีนกำลังอารมณ์ไม่ดี
เมื่อมองย้อนกลับไปยังหกเดือนนั้น มันไม่ใช่ความทรงจำที่เขาต้องการจะนึกถึงสักเท่าไหร่
เมเดลีนยืนอยู่ตรงชายหาดข้างโรงแรมพลางถอดหน้ากากออก ใบหน้าสวยปล่อยให้สายลมยามค่ำคืนปะทะอยู่อย่างนั้น ในขณะที่กำลังเดินไปข้างหน้าโดยไม่มีจุดหมายในใจ
“ลินนี่”
เสียงของเจเรมี่ดังขึ้นจากด้านหลัง ฝีเท้าของเมเดลีนจึงค่อย ๆ หยุดลง
เธอไม่ต้องการทะเลาะกันกับเขา แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนความจริงที่ว่าเธอกำลังอารมณ์เสียไปได้เช่นกัน
เจเรมี่เดินไปยืนตรงหน้าเมเดลีน ลมทะเลพัดโชยผมสั้นของเธอให้ปลิวไหว ภายใต้โคมไฟถนนสีเหลือง ใบหน้าเล็ก ๆ ดูเศร้าหมองนั้นคือสิ่งเดียวที่เจเรมี่เห็นอย่างชัดเจน
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันแน่นอย่างนึกอยากจะขอโทษ ขณะเดียวกันเขาก็ดึงเธอเข้ามาไว้ในอ้อมกอดแน่น
“มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะลินนี่” เขากอดเธอไว้แน่น เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยอย่างอ่อนโยนดังอยู่ข้างหู “เราเป็นแค่เพื่อนกัน”
เมเดลีนมองไปยังทะเลอันกว้างใหญ่ไร้ขอบเขตเงียบ ๆ ก่อนที่ริมฝีปากสีชมพูจะพูดว่า “เธอจำคุณได้แม้ว่าคุณจะสวมหน้ากาก เธอเรียกคุณว่าเจเรมี่อย่างสนิทสนมด้วยนะ”
“ลินนี่” เจเรมี่คลายมือทั้งสองข้างมาจับแก้มของเธอแทน ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มเล็กน้อย “คุณหึงเหรอ?”
เมเดลีนยังคงเงียบและไม่ได้ปฏิเสธ
เจเรมี่จึงขยับมุมปาก ลักษณะที่น่าดึงดูดใจของเขาถูกแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มยินดี
“คุณดูน่ารักเวลาหึงนะ มันทำให้ผมมีความสุขมากเลย”
เธอผละตัวเองออกจากอ้อมกอดเบา ๆ แล้วสบตาคู่สวยที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า “คุณบอกฉันได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?”
เจเรมี่รู้ว่าเธอเป็นห่วงและหัวใจของเธอก็คงจะเจ็บปวดเช่นกัน เขาไม่คิดว่าจะอยากทำให้ผู้หญิงคนนี้ต้องเป็นกังวลอีก
เขาจึงยิ้มและจับมือเธอเดินไปตามชายหาด
“หลังจากที่ผมแอบเห็นคุณครั้งสุดท้ายในวันนั้น ผมก็ตัดสินใจว่าจะต้องจากไป ผมคิดว่าอย่างน้อยถ้าผมต้องไปจริง ๆ ผมจะต้องจากไปโดยที่คุณจะยังคิดว่าผมยังมีชีวิตอยู่ ผมอยากจะทำแบบนั้นแทนการที่ต้องปล่อยให้ร่างกายตัวเองเน่าเปื่อยและตายลงต่อหน้าต่อตาของคุณเพราะยาพิษในร่างกาย”
ทันใดนั้นเองฝีเท้าของเมเดลีนก็หยุดชะงัก
ราวกับมีมีดนับพันทิ่มแทงเข้ามาที่อก แม้จะรู้ว่าเจเรมี่กำลังฟื้นตัว แต่เธอก็ไม่สามารถเพิกเฉยต่อความเจ็บปวดที่ค่อย ๆ แพร่กระจายจากหัวใจของเธอไปยังทุกส่วนของร่างกาย เมื่อจินตนาการไปถึงสภาพจิตใจและร่างกายของเจเรมี่ในตอนนั้น
เจเรมี่เองก็หยุดเดิน เขาพอจะเดาได้ว่าเมเดลีนกำลังคิดอะไรอยู่จากสีหน้าของเธอ เขายิ้มอย่างมั่นใจเพื่อปลอบโยนอีกฝ่าย “ตราบเท่าที่ผมกลับไปหาคุณได้ การอดทนต่อความเจ็บปวดที่เลวร้ายพวกนี้ก็คุ้มค่าแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ
1...
1...
1...
นางเอกโคตรโง่เลย เชื่อผู้ชายคนนี้ได้ไง ก็รู้อยู่ว่าเขานิสัยไม่ดีและจะแย่งตัวเองมาจากสามี ดันไปเชื่อมัน เอายามาแอบฉีดให้สามีเฉยเลย แทนที่จะปรึกษากันก่อน...
ต่อให้ทำผิดแล้วก็ไม่ควรให้อภัยอ่ะ เพราะมันเลวมาก รู้ว่านังเมอร์ทำชั่ว แต่ก็ช่วยปกปิดสารพัด ขนาดฆ่าคนตาย ยังยึดหลักฐานไป ปล่อย ห้นางเอกรับโทษแทนตั้งสามปี ไม่เคยมาดูดำดูดี พอออกมาได้ก็ยังทุบตีสารพัด ไม่เข้าใจว่านางเอกจะกลับมารักได้ไง...
หวาดเสียวว่านางเอกจะกลับมารักสามีเก่า โอ่ย ไม่ไหวนะ ต้องท่องไว้ว่ามันทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจไว้หนักหนาสาหัส ทำลูกตายด้วยนะ ทำลายหลุมศพปู่กับลูกอีก...
ทำไมไม่เอาหลักฐานให้ลุง ลุงเป็นคนดี ต้องเชื่ออน่นอน มีอำนาจด้วย ช่วยคุยกับตำรวจได้...
อ้าว รีบบอกพ่อแม่สิ จะปล่อยอีชั่วนี่ไว้กับพ่อแม่ได้ไง...
เรื่องนี้อ่านแล้วโคตรโมโห นางเอกน่าจะฆ่าแม่งให้หมดทุกตัวเลย อย่าให้เป็นว่ายกโทษให้สามีนะ...
อย่าได้กลับไปอยู่กับสามีเลย ชั่วช้าขนาดนั้น ต้องแก้แค้นให้สาสม...