“ออกไปซะ! ออกไป! ฉันไม่อยากเจอหน้านายอีก!”
เมเดลีนผลักชายคนนั้นออกไปในขณะที่ยังงุนงงอยู่และปิดประตูไล่หลังเขา
เธอพิงประตูพลางหายใจเข้าลึก ๆ และก้มต่ำลงมองดูร่างกายของตัวเอง ก่อนจะพบว่าเสื้อของเธอถูกปลดออก
ใครจะรู้ว่า อะไรจะเกิดขึ้นระหว่างพวกเขา ถ้าเธอไม่ได้ตบเขาไปเสียก่อน
ดูเหมือนว่าสติของเธอจะถูกกลืนกินโดยจูบของเขาและการแสดงความขอโทษอย่างสงบเสงี่ยมนั่น
เมเดลีนจับปกเสื้อที่ถูกเปิดออกของตัวเองด้วยความโล่งใจที่เธอไม่ยอมให้ชายคนนั้นทำไปมากกว่านี้อีก
…
เมเดลีนได้พาแจ็คไปที่ชานเมืองเพื่อเที่ยวเล่นในช่วงสุดสัปดาห์ และพบว่าตัวเองสงบลงเมื่อไม่ได้เห็นเจเรมี่ปรากฏตัวต่อหน้าเธออีก
วันนี้อาจจะดูหนาว แต่หัวใจของเธอรู้สึกอบอุ่นเหลือกัน
รอยยิ้มที่ไร้เดียงสาของแจ็คสันทำให้เธอสบายใจ ในขณะที่ยังคงมีบางอย่างทำให้หัวใจของเธอรู้สึกอึดอัดอยู่
ความทรงจำของเธอแทบไม่มีสิ่งใดที่นึกถึงแล้วมีความสุขได้เลย
ความทรงจำเดียวที่เธอมีคือ วันที่เธอแต่งงานกับเจเรมี่ ในคราวนั้นเธอตั้งตารออนาคตและรู้สึกมีความสุขอย่างแท้จริงอยู่ครู่หนึ่ง
“คุณแม่ดูว่าวตัวเล็กของผมสิครับ มันบินสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ เลย” เด็กน้อยร้องเรียกด้วยน้ำเสียงร่าเริง
เมเดลีนหันไปยิ้มอย่างอบอุ่น “ทำได้ดีมาก แจ็ค”
“ถ้าคุณพ่อกลับมาจากทำงานแล้ว เราจะเล่นว่าวตัวใหญ่ได้ไหมครับ คุณแม่?” แจ็คสันถามอย่างมีความหวัง “ทำไมแม่ไม่พูดอะไรเลยล่ะครับ คุณแม่?”
เมเดลีนตอบทันทีว่า “อะไรก็ตามที่ลูกต้องการเลย แจ็ค”
“เย่!” แจ็คปรบมืออย่างร่าเริง
เมเดลีนยิ้ม จากนั้นเธอก็นึกถึงภาพจูบอันบ้าคลั่งของเจเรมี่ในคืนนั้น
จู่ ๆ โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น เมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์โทรจากเอโลอิส เมเดลีนก็รับสายทันที
เมเดลีนถึงกับตกใจมากที่เห็นไดอาน่าอยู่ในศาล และตำรวจศาลคอยดูแลคุ้มกันเธออยู่
ศาลเริ่มดำเนินการขึ้นในไม่ช้า และเมเรดิธก็ถูกนำตัวออกมา ขณะที่ใบหน้าของเธอถูกชำระล้าง ไม่มีการปกปิดใบหน้าที่ซูบซีดและจุดบนใบหน้าของเธอก็ถูกแสดงให้เห็นได้ชัดเจน
ครั้งหนึ่งเธอเคยหยิ่งผยองและสดใส แต่ตอนนี้ความหยิ่งของเธอลดน้อยลง และผิวของเธอก็ดูซีดเซียว
ดวงตาของเมเรดิธจับจ้องไปยังเมเดลีนซึ่งในตอนนี้มีทั้งเอโลอิสและฌอนนั่งอยู่ข้าง ๆ เพื่อปกป้องเธอในทันทีที่เมเรดิธถูกเรียกตัวออกมาในคดีนี้ หล่อนกำหมัด และจ้องมองเมเดลีนอย่างอิจฉาตาร้อน
เมเรดิธมองไปรอบ ๆ ห้อง แล้วก็ตระหนักได้ว่าเจเรมี่ไม่ได้มาอยู่ที่นี่ เธอเริ่มกรีดร้องและตะโกนว่า “ฉันเป็นผู้บริสุทธิ์! ฉันไม่ได้ฆ่าบริทนีย์ มอนต์โกเมอรี! หล่อนต่างหากที่เป็นคนฆ่าบริทนีย์! ผู้หญิงคนนั้น!”
เธอชี้ไปที่เมเดลีน
“ด้วยความเคารพ นี่คือผู้หญิงที่ฆ่าบริทนีย์ มอนต์โกเมอรี บริทนีย์เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน ฉันจะฆ่าเธอได้ยังไง? ฉันถูกใส่ร้าย! ฉันมีหลักฐานว่าเธอคือคนที่ฆ่าบริทนีย์นะ! ฉันมีหลักฐานจริง ๆ!”
เมเรดิธตะโกน ซึ่งนั่นทำให้ไดอาน่าร่วมวงด้วย
“เธอนั่นแหละที่ฆ่าบริทนีย์ของฉัน เมเดลีน ครอว์ฟอร์ด! เธอจะใช้ชีวิตแบบไม่ต้องรับโทษได้ยังไง นังฆาตกร! ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพ่อของฉันยังดูแลเธอเหมือนเธอเป็นหลานสาวของเขาเองได้ นังสารเลว! เอาบริทนีย์ของฉันคืนมา!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ
1...
1...
1...
นางเอกโคตรโง่เลย เชื่อผู้ชายคนนี้ได้ไง ก็รู้อยู่ว่าเขานิสัยไม่ดีและจะแย่งตัวเองมาจากสามี ดันไปเชื่อมัน เอายามาแอบฉีดให้สามีเฉยเลย แทนที่จะปรึกษากันก่อน...
ต่อให้ทำผิดแล้วก็ไม่ควรให้อภัยอ่ะ เพราะมันเลวมาก รู้ว่านังเมอร์ทำชั่ว แต่ก็ช่วยปกปิดสารพัด ขนาดฆ่าคนตาย ยังยึดหลักฐานไป ปล่อย ห้นางเอกรับโทษแทนตั้งสามปี ไม่เคยมาดูดำดูดี พอออกมาได้ก็ยังทุบตีสารพัด ไม่เข้าใจว่านางเอกจะกลับมารักได้ไง...
หวาดเสียวว่านางเอกจะกลับมารักสามีเก่า โอ่ย ไม่ไหวนะ ต้องท่องไว้ว่ามันทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจไว้หนักหนาสาหัส ทำลูกตายด้วยนะ ทำลายหลุมศพปู่กับลูกอีก...
ทำไมไม่เอาหลักฐานให้ลุง ลุงเป็นคนดี ต้องเชื่ออน่นอน มีอำนาจด้วย ช่วยคุยกับตำรวจได้...
อ้าว รีบบอกพ่อแม่สิ จะปล่อยอีชั่วนี่ไว้กับพ่อแม่ได้ไง...
เรื่องนี้อ่านแล้วโคตรโมโห นางเอกน่าจะฆ่าแม่งให้หมดทุกตัวเลย อย่าให้เป็นว่ายกโทษให้สามีนะ...
อย่าได้กลับไปอยู่กับสามีเลย ชั่วช้าขนาดนั้น ต้องแก้แค้นให้สาสม...