“เธอดูโทรมลงไปนะ”
เมื่อมาเดลีนได้ยินเฟลิเป้พูดดังนั้น เธอสัมผัสใบหน้าของเธออย่างเชื่องช้าอย่างอดไม่ได้
เธอกำลังป่วยร่างกายของเธอแย่ลงเรื่อยๆ แน่นอนว่าเธอจะดูอ่อนแอเล็กน้อย
“เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?” เขาถามอย่างห่วงใย
“ขอบคุณสำหรับการใส่ใจ คุณวิทแมน แต่ฉันสบายดี”
มาเดลีนขอบคุณเขาอย่างรวดเร็วก่อนจะลุกขึ้นจากไป
เธอนึกขึ้นได้ว่าเธอและเขามีส่วนเกี่ยวข้องกันในทางไหนเขาเป็นลุงของเจเรมี่สามีของเธอนั่นทำให้เธอรู้สึกเสียใจมาก
“เธอหยุดเรียกผมว่าคุณวิทแมนได้เมื่อไม่มีใครอยู่”
มาเดลีนลังเลแล้วเธอก็พูดว่า “ฉันจะไปแล้วนะคะ คุณลุง”
“ที่จริง ผมอายุมากกว่าเจเรมี่แค่สามปี ผมไม่ชอบถูกเรียกว่าลุง ดังนั้นเธอสามารถเรียกผมด้วยชื่อของผมได้”
มาเดลีนถึงกับผงะ จากนั้น เธอก็พยักหน้า “ฉันจะกลับไปทำงานต่อแล้วนะคะ คุณวิทแมน”
เฟลิเป้มองไปที่มาเดลีนแล้วยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น “ไปเถอะ”
…
มาเดลีนทุ่มเทให้ความสำคัญกับงานของเธออย่างมาก เธอทำได้เพียงลืมเรื่องต่างๆและผู้คนที่ทำให้เธอไม่มีความสุขด้วยการทำเช่นนี้
โปรเจคที่มีระยะเวลาหนึ่งเดือนของพวกเขาดำเนินไปได้ครึ่งทางแล้ว มาเดลีนค่อนข้างพอใจกับส่วนที่เธอรับผิดชอบ
ตามคำสั่งซื้อของลูกค้า หลังจากมาเดลีนออกแบบเสร็จเธอก็ใช้อีเมลของบริษัทเพื่อส่งให้อลิซาเบธที่กำลังเดินทางไปทำธุระนอกสถานที่ หลังจากนั้น เธอก็หยิบกระเป๋าเงินของเธอก่อนที่จะไปที่โรงอาหาร
เมื่อเธอเข้ามาในลิฟท์ เธอวิ่งเข้าไปโดยมีเฟลิเป้อยู่ข้างในโดยบังเอิญ เมื่อเขาเห็นเธอพร้อมกระเป๋าเงินใบน้อยของเธอ เขายิ้มและเอ่ยปากชวนเธอ “ผมจะไปทานอาหารกลางวันเหมือนกัน ทำไมเธอไม่มากับผมล่ะ?”
มีพนักงานคนอื่นๆในลิฟท์ พวกเขาทั้งหมดมองมาเดลีนด้วยสายตาแปลกๆ สิ่งนี้ทำให้มาเดลีน ไม่แน่ใจในสิ่งที่เธอควรทำ
“เธอจะทำให้ผมผิดหวังหรือไง หลานสะใภ้?” เฟลิเป้พยายามบรรเทาความอึดอัดด้วยน้ำเสียงที่ขี้เล่น
ภาพที่เห็นเมเรดิธจับแขนของเจเรมี่อย่างแนบชิดกันแค่ไหน ทำให้เธอรู้สึกว่าน้ำผลไม้ในปากของเธอเปลี่ยนไปเป็นรสขมทันที
เธอมองไปที่เจเรมี่ก่อนจะพบว่าเขาเองกำลังมองมาที่เธอเช่นกัน แต่ยังไงก็ตาม การจ้องมองของเขามีสายตารุนแรงราวกับว่ากำลังจะเจาะเธอ
ในขณะนี้ เมเรดิธแสดงรอยยิ้มที่ขอโทษและอบอุ่นให้เฟลิเป้ “ฉันขอโทษค่ะ คุณลุง ที่ฉันสติหลุดในวันนั้น แต่ว่าฉันไม่มีทางเลือก ฉันถูกบังคับโดยแมดดี้ เธอมีประวัติการลอกเลียนแบบและยังฆ่าลูกของพวกเราด้วย นั่นคือเหตุผลที่ฉันทำในสิ่งที่ทำในวันนั้น ฉันไม่คิดว่าจะทำร้ายคุณโดยบังเอิญ”
เธอพบข้อแก้ตัวสำหรับตัวตนที่แท้จริงของเธอที่ถูกเปิดโปงและผลักไสความผิดพลาดทั้งหมดให้กับมาเดลีน
เฟลิเป้มองเมเรดิธอย่างไม่แยแส “ผมเชื่อในสิ่งที่เห็น ผมเคยเห็นข้อกล่าวหาที่คุณพูดเกี่ยวกับ แมดดี้ แต่ผมยังเห็นว่าเธอกลั่นแกล้งพนักงานของผมที่ด้านหน้าบริษัทอย่างปากร้ายเหลือเชื่อ นอกจากนี้ คุณยังทำร้ายแมดดี้อีกด้วย”
"... " รอยยิ้มฝืนๆของเมเรดิธดูอึดอัดเล็กน้อย “คุณลุง…”
“ผมไม่ใช่ลุงของเธอ อย่าเรียกผมอย่างนั้น”
"... " เมเรดิธกระอักอีกครั้ง เธอเข้าซบเจเรมี่ด้วยความเสียใจ “เจเรมี่…”
“เธอไม่ได้บอกว่าเธอหิวเหรอ? ไปกินข้าวก่อนค่อยคุยกัน “เจเรมี่พูดกับเมเรดิธเบาๆ จากนั้น เขาก็เงยหน้าขึ้นมองเฟลิเป้ “นี่คุณลุง จะเป็นไรไหมหากพวกเราจะนั่งร่วมโต๊ะด้วย?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ
1...
1...
1...
นางเอกโคตรโง่เลย เชื่อผู้ชายคนนี้ได้ไง ก็รู้อยู่ว่าเขานิสัยไม่ดีและจะแย่งตัวเองมาจากสามี ดันไปเชื่อมัน เอายามาแอบฉีดให้สามีเฉยเลย แทนที่จะปรึกษากันก่อน...
ต่อให้ทำผิดแล้วก็ไม่ควรให้อภัยอ่ะ เพราะมันเลวมาก รู้ว่านังเมอร์ทำชั่ว แต่ก็ช่วยปกปิดสารพัด ขนาดฆ่าคนตาย ยังยึดหลักฐานไป ปล่อย ห้นางเอกรับโทษแทนตั้งสามปี ไม่เคยมาดูดำดูดี พอออกมาได้ก็ยังทุบตีสารพัด ไม่เข้าใจว่านางเอกจะกลับมารักได้ไง...
หวาดเสียวว่านางเอกจะกลับมารักสามีเก่า โอ่ย ไม่ไหวนะ ต้องท่องไว้ว่ามันทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจไว้หนักหนาสาหัส ทำลูกตายด้วยนะ ทำลายหลุมศพปู่กับลูกอีก...
ทำไมไม่เอาหลักฐานให้ลุง ลุงเป็นคนดี ต้องเชื่ออน่นอน มีอำนาจด้วย ช่วยคุยกับตำรวจได้...
อ้าว รีบบอกพ่อแม่สิ จะปล่อยอีชั่วนี่ไว้กับพ่อแม่ได้ไง...
เรื่องนี้อ่านแล้วโคตรโมโห นางเอกน่าจะฆ่าแม่งให้หมดทุกตัวเลย อย่าให้เป็นว่ายกโทษให้สามีนะ...
อย่าได้กลับไปอยู่กับสามีเลย ชั่วช้าขนาดนั้น ต้องแก้แค้นให้สาสม...