จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 1010

ตระกูลหยุน

หยุนซูนั่งอยู่หน้าคันฉ่อง และมองดูตนเองในคันฉ่อง ดวงตานางแดงเรื่อเล็กน้อย

วันนี้เป็นวันมงคลของนาง และยังเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของนาง และเป็นวันที่นางไปจากตระกูลหยุน ต่อไปนางคือฮูหยินของซูนฟั่ง

“ซูเอ๋อร์งดงามนัก แม่วาดฝันถึงวันนี้มานานมากนัก ในที่สุดเจ้าก็ออกเรือน ต่อไปต้องอยู่กับซูนฟั่งอย่างดีมีความสุขนะ” ซูอี๋เหนียงน้ำตาไหลพรากอย่างดีใจสุดขีด

“วางใจเถอะท่านแม่ ข้าต้องมีความสุขแน่” หยุนซูบอกอย่างเป็นห่วงแม่

“หากซูนฟั่งกล้ารังแกเจ้า ก็บอกข้านะ ข้าจะไม่ปล่อยเขาไว้แน่” หยุนถิงบอกอย่างเป็นห่วง

“ขอบคุณพี่หญิงใหญ่” หยุนซูซาบซึ้งยิ่งนัก

“เกรงใจข้าทำไมกัน นี่ดีนะมาทันงานมงคลของเจ้าน่ะ มา ข้าหวีผมให้เจ้านะ!” หยุนถิงหยิบหวีมาเริ่มหวี

หยุนซูน้ำตาไหลอาบแก้มทันที “พี่หญิงใหญ่ มีท่านนี่ดียิ่งนัก ชาติหน้าข้าจะเป็นน้องสาวท่านอีก”

เป็นพี่หญิงใหญ่ที่สอนให้นางเข้มแข็ง กล้าหาญ และสอนว่าเป็นสตรีก็สามารถมีชีวิตที่สุขสกาวสดใสในแบบตนเองได้เช่นกัน พี่หญิงใหญ่ยังสนับสนุนนาง ให้นางไม่ได้ทำเหมือนสตรีอื่นทั่วไปที่แต่งงานมีลูกเท่านั้น แต่ยังให้นางดูแลร้านเนื้อย่าง ได้แสดงความสามารถที่ตนถนัด

“เด็กโง่ มันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วสิ” หยุนถิงยินดีนัก หวีผมแต่งตัวให้นางด้วยตัวเอง

“พี่หญิงใหญ่ ชาติหน้าให้ข้าเป็นพี่สาวท่านได้ไหม แบบนี้ถึงเวลานั้นข้าก็สามารถสั่งสอนท่านได้ละ” หยุนหลีที่เดินเข้ามาพอได้ยินหยุนซูพูดอย่างนั้น ก็โพล่งออกมาแบบนั้น

ภาพที่อบอุ่นซาบซึ้งนั้นโดนทำให้หัวเราะฮาครืนกับคำพูดนี้ของนาง

“นังหนูเจ้าคันยุบยิบรึ คิดอยากสั่งสอนข้า?” หยุนถิงแกล้งถลึงตาใส่

หยุนหลีตกใจจนตัวสั่น “พี่หญิงใหญ่ ข้าล้อเล่นน่ะ ท่านอย่าตีข้าอีกเลย วันนี้เป็นวันมงคลของพี่หญิงสามนะ หากข้าโดนท่านอัดมิขายหน้าคนแย่รึ”

“เจ้ายังรู้ว่าจะขายหน้ารึ?”

“แน่นอนสิ หากให้ท่านอามาเห็นข้าโดนตีก้น คงหัวเราะเยาะข้าตายแน่เลย” หยุนหลีบ่น

“ข้าไม่หัวเราะเยาะเจ้าหรอก” เสวี่ยเชียนโฉวที่เดินตามนางเข้ามาพูดขึ้น

หยุนหลีทำหน้าแหย “ท่านอา ท่านจะทำเป็นไม่ได้ยินไม่ได้รึ?”

“ได้ ข้าไม่ได้ยินนะ” เสวี่ยเชียนโฉวให้ความร่วมมือโดยดี

หยุนถิงใบ้กิน ไม่สนใจเขาหรอก

มีเสียงประทัดดังขึ้นที่ด้านนอก คนรับใช้เข้ามารายงาน “คุณหนูใหญ่ คุณหนูสาม คุณหนูสี่ เจ้าบ่าวมาแล้ว พวกเรารีบออกไปเถอะ”

“ได้!” หยุนถิงช่วยคลุมผ้าคลุมหน้าให้หยุนซูทันที

หยุนซูออกไปท่ามกลางการพยุงของทุกคน หยุนเสี่ยวลิ่วรออยู่ด้านนอกนานแล้ว เขาย่อตัวลง “พี่หญิงสาม ข้าแบกท่านออกไปนะ”

“ได้” หยุนซูปีนขึ้นหลังเขาอย่างซาบซึ้ง

หยุนเสี่ยวลิ่วแบกนางขึ้นหลัง กัดฟันบอก “พี่หญิงสาม ท่านหนักเกินไปแล้วนะ ต่อไปกินให้น้อยลงหน่อย”

“เจ้าเด็กบ้า อย่าพูดอย่างนี้นะ ต่อไปจะแบกเจ้าสาวตนเองไหวได้ยังไงกัน” หยุนถิงเย้า

“ใครบอกว่าต่อไปข้าจะแบกนาง ไม่แน่ถึงเวลานั้นนางอาจจะแบกข้าก็ได้” หยุนเสี่ยวลิ่วเบ้ปากบอก และแบกหยุนซูเดินออกไป

“เจ้าหนูนี่กล้าคิดนะ ระวังคนอื่นได้ยินคำนี้ไปแล้วจะไม่มีแม่นางคนไหนกล้าแต่งกับเจ้า” หยุนหลีกระเซ้าเขา

“ไม่แต่งก็ไม่แต่ง ข้าไม่สนใจดอก”

พี่น้องพูดคุยหยอกล้อกัน เดินไปถึงห้องโถงด้านหน้า ทุกคนพากันยืนแสดงความยินดีอยู่สองข้างทาง หยุนเฉิงเซี่ยงพอใจมาก มอบหยุนซูให้กับซูนฟั่งด้วยตัวเอง ถึงได้วางใจ

“ต่อไปดีต่อซูเอ๋อร์ให้มากนะ หากทำให้นางเสียใจ ข้าไม่ละเว้นเจ้าแน่!” หยุนเฉิงเซี่ยงบบอกอย่างจริงจัง

“ท่านพ่อตาวางใจเถอะ ซูเอ๋อร์น่ะสำคัญกับข้ายิ่งกว่าชีวิตข้าอีก ข้าต้องดีกับนางแน่” ซูนฟั่งรับประกัน

มือของหยุนเฉิงเซี่ยงที่ถือจอกเหล้าอยู่พลันสั่นขึ้นมา จอกเหล้าหล่นลงพื้นทันที “ไอ้โหย ทำไมจู่ๆข้าก็มึนหัวล่ะนี่”

“หยุนเฉิงเซี่ยง ท่านคงมิได้ดื่มมากไปกระมัง ไอ้โหย ข้าก็มึนหัวเหมือนกัน” ขุนนางใหญ่คนหนึ่งพูดยังไม่ถึงสองประโยค พลันสลบฟุบหน้าลงโต๊ะอาหารทันที

คนอื่นพากันตกใจ พากันมองมา กำลังจะอ้าปากถามว่าเกิดอะไรขึ้น ก็พากันสลบไปตามๆกัน

จวินหย่วนโยวสีหน้าเย็นชาฉับพลัน “ไม่ได้การ ทหาร!” พูดจบจะลุกขึ้น หากร่างกายกลับยืนไม่อยู่ เอามือจับโต๊ะพยุงตัวไว้ทันที สุดท้ายนั่งกลับลงที่เดิม

“ท่านพี่ เป็นอย่างไรบ้าง” หยุนถิงรีบจับชีพจรให้จวินหย่วนโยวทันที

“เกิดอะไรขึ้น หรือว่าในอาหารมีพิษ?” โม่หลานตะคอกดัง รีบโยนเนื้อติดกระดูกชิ้นใหญ่ในมือทิ้งไปทันที

“อย่ากลัวไปเลย ข้าคุ้มครองเจ้า...” เฉินอ๋องพูดยังไม่ทันจบ ก็สลบไปเลย

“เฉินอ๋องเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?” เนื้อติดกระดูกชิ้นใหญ่สีหน้าเย็นชาพลันสลบตามไปอีกคน

ในเรือนที่กว้างใหญ่ หลายร้อยคนไม่รู้ทำไม พร้อมกันสลบฟุบลงโต๊ะอาหารหรือไม่ก็พื้น

ส่วนคนรับใช้เหล่านั้นที่เดิมคอยรับใช้ข้างๆ พอเห็นทุกคนสลบหมด ยกเว้นจวินหย่วนโยวและหยุนถิงยังพยายามฝืนตนไม่สลบตามไป พวกเขาพลันสีหน้าเปลี่ยน และควักเอามีดสั้นที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อออกมา

ดวงตาจวินหย่วนโยวฉายแววเหี้ยมเกรียมและโหดเหี้ยม “อาศัยแค่พวกเจ้าก็คิดอยากกำจัดข้า ฝันไปเถอะ!”

ทันใดนั้นท่ามกลางแขกเหรื่อ ชายผู้หนึ่งพลันลุกขึ้น “อาศัยแค่พวกเขาไม่มีทางแน่ ดังนั้นพวกเราเลยวางยาลงในอาหาร!”

“เจ้าคือลูกชายของนายสนองกรมพิธีการ?” จวินหย่วนโยวถลึงตาใส่อย่างเดือดดาล

“ผิด ข้าแค่ยืมใบหน้าเขามาเท่านั้นเอง” ชายผู้นั้นบอกอย่างไม่แยแส และดึงหน้ากากหนังมนุษย์บนหน้าออก เผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริง

“เจ้าคือพ่อบ้านของเวินหานเทียน!” หยุนถิงจำเขาได้ในทันที

“ใช่ ซื่อจื่อเฟยตาดียิ่ง น่าเสียดายที่วันนั้นในห้องลับพวกท่านรอดไปได้ วันนี้จะเป็นวันตายของพวกท่านละ” พ่อบ้านบอก และควักกระบี่อ่อนที่เอวฟาดฟันออกไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ