จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 1021

เมื่อหยุนถิงกับจวินหย่วนโยวกลับไปถึงบ้าน ก็เรียกระดมทุกคนมาและเล่าเรื่องที่พ่อบ้านเป็นสายลับออกมาทันที ทุกคนได้ยินก็พากันตกตะลึง หากซื่อจื่อไม่ได้เป็นคนพูดออกมาด้วยตัวเอง ให้ตายอย่างไรพวกเขาก็ไม่เชื่อ

หยุนถิงตั้งใจจับชีพจรให้ลูกๆทั้งสองอย่างละเอียดและระมัดระวัง แน่ใจว่าร่างกายของพวกเขาไม่ได้มีความผิดปกติอะไร ถึงได้แอบโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง

ในเวลาปกติเสี่ยวเหยียนกับเสี่ยวเทียนชอบเล่นกับพ่อบ้านที่สุด หากเขาลงมือกับเด็กทั้งสองคนจริงๆ มันก็ยากที่จะป้องกันได้

องครักษ์เงามังกรตรวจสอบบ่าวรับใช้ทั้งหมดของจวนซื่อจื่อใหม่อีกครั้ง จะได้ไม่มีเหตุการณ์เช่นพ่อบ้านปรากฏขึ้นมาอีก

“ซื่อจื่อเฟย แคว้นเป่ยลี่ส่งจดหมายมาให้ท่าน” รั่วจิ่งถือจดหมายเข้ามาหนึ่งฉบับ

หยุนถิงรับจดหมายมา เมื่อเห็นเนื้อหาที่อยู่บนจดหมายก็ขมวดคิ้วขึ้นมา “เริ่นเซวียนเอ๋อร์ผู้นี้ช่างหาเรื่องให้ข้าเก่งจริงๆ เป่ยหมิงฉี่ถามเรื่องบอลลูนกับข้า”

“ไม่นานก่อนหน้านี้เป่ยหมิงฉี่ถูกเป่ยเย่เหอวางแผนทำร้าย เริ่นเซวียนเอ๋อร์ผ่านไปที่แคว้นเป่ยลี่พอดี เลยถือโอกาสช่วยเป่ยหมิงฉี่เอาไว้ คิดว่าเป่ยหมิงฉี่คงจะเห็นบอลลูนที่เจ้ามอบให้กับเริ่นเซวียนเอ๋อร์” จวินหย่วนโยวอธิบาย

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง เจ้าหมอนี่ก็เป็นคนฉลาดคนหนึ่งเลยนี่นา แต่ว่าข้าไม่ให้เขาหรอก ถ้าหากวันหน้าเขามีความคิดอะไรขึ้นมา จะไม่เป็นการขุดหลุมให้ตัวเองหรอกหรือ” หยุนถิงกล่าววิเคราะห์

“เช่นนั้นก็ไม่ต้องสนใจเขา”

“ตกลง”

“หยุนถิงพวกเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ได้รับบาดเจ็บหรือไม่?” กู้ซินฉีถามด้วยความเป็นห่วง ได้ยินว่าหยุนถิงกับจวินซื่อจื่อกลับมาแล้ว นางรีบมาทันที

“วางใจ ข้ากับท่านพี่ปลอดภัยดี แต่คนของตระกูลเวินถูกฆ่าตายหมดแล้ว” หยุนถิงตอบ

“เช่นนั้นก็ดี เพียงแต่ข้าไม่ได้ฆ่าเวินหานเทียนด้วยตัวเอง เขาทำร้ายคนของเผ่าเลือดไปมากมายขนาดนั้น ข้าจะต้องสับเขาเป็นหมื่นๆชิ้นให้ได้” กู้ซินฉีกล่าวอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

“ตอนนี้เขาถูกฝ่าบาทขังอยู่ในคุกหลวง ฝ่าบาทย่อมทรงตัดสินพระทัยเอง วางใจเถอะ ฝ่าบาทไม่ปล่อยเขาไปหรอก” หยุนถิงกล่าวปลอบโยน

อาศัยแค่เรื่องที่เวินหานเทียนสมคบคิดกับพ่อบ้านวางยาฝ่าบาท ฝ่าบาทก็ต้องป่นกระดูกเขาให้กลายเป็นเถ้าถ่านอย่างแน่นอน

“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น” กู้ซินฉีเอ่ยปาก

“เช่นนั้นเจ้าวางแผนจะทำอะไรต่อไป?” หยุนถิงมองมา

“ข้าอยากฟื้นฟูเผ่าเลือดขึ้นมา ตอนนั้นคนของเผ่าเลือดถูกเซียวหรูซื่อไล่ล่าล้างเผ่าพันธุ์ หนีออกมาได้หลายสิบคนอย่างยากเย็น แต่แล้วหลายปีมานี้ก็ถูกบรรพจารย์ตระกูลเวินจับตัวไปบ้าง สังหารบ้าง ตอนนี้ก็เหลือเพียงข้ากับเนี่ยนเจิน และอีกไม่กี่คนเท่านั้น เป็นเพราะข้าไร้ความสามารถ ไม่ได้ปกป้องทุกคนให้ดี” ใบหน้าของกู้ซินฉีเต็มไปด้วยการตำหนิตนเองและรู้สึกผิด

หยุนถิงมองด้วยความปวดใจอย่างยิ่ง “เรื่องนี้จะโทษเจ้าได้อย่างไร เป็นเพราะบรรพจารย์ตระกูลเวินโหดเหี้ยมเกินไป เจ้าสามารถมีชีวิตรอดได้ก็ดีมากแล้ว มีชีวิตอยู่ก็มีความหวัง ในเมื่อข้าก็มีเลือดของคนเผ่าเลือดครึ่งตัว ข้าจะช่วยเจ้าเอง”

ในใจของกู้ซินฉีเต็มไปด้วยความตื้นตันใจ “ขอบคุณเจ้ามากหยุนถิง”

“กับข้าจะเกรงใจทำไม พวกเราคือครอบครัวเดียวกัน แต่ว่าต้องการฟื้นฟูเผ่าเลือด ไม่ใช่เรื่องที่สามารถทำได้ในชั่วข้ามคืน ยิ่งไปว่านั้นเลือดของคนเผ่าเลือดมีความพิเศษ อย่าใครรับรู้เด็ดขาด มิเช่นนั้นมีแต่จะนำมาซึ่งหายนะเท่านั้น” หยุนถิงกำชับ

“อืม ข้าก็คิดถึงข้อนี้เช่นกัน ดังนั้นข้าวางแผนจะตามหาทุกคนที่พลัดพรากกันไปกลับมาให้หมด แล้วค่อยวางแผนขั้นตอนต่อไป” กู้ซินฉีตอบ

“ตกลง เจ้าวาดภาพเหมือนของคนที่จะตามหาออกมา ข้าส่งคนไปตามหา”

“ขอบคุณมาก”

…………………..

พระราชวัง คุกหลวง

เวินฉิงที่เดิมทีก็ถูกโม่เหลิ่งเหยียนขังเอาไว้ในคุกหลวงอยู่แล้ว เห็นท่านพ่อที่ปรากฏตัวขึ้นมากะทันหัน คนทั้งคนตะลึงงันไป

“มิน่าคนทั้งโลกต่างก็ว่ากันว่าซวนอ๋องเย็นชาไร้ความปรานี แม้แต่ผู้หญิงและเด็กเจ้าก็ไม่ละเว้น เจ้ายังคู่ควรเป็นผู้ชายอีกหรือ?” เวินฉิงคำรามด้วยความโกรธ

“ข้าจะทำงานอย่างไร เจ้ายังไม่มีสิทธิ์มาชี้นิ้ววิจารณ์ ฝ่าบาทมีคำสั่ง เวินหานเทียนวางแผนก่อกบฏ หลักแห่งสวรรค์ไม่อนุญาต ตัดแขนและขาของเขาซะ!” เสียงที่เย็นยะเยือกของโม่เหลิ่งเหยียน น่าเกรงขามแสดงอำนาจ ไม่อนุญาตให้มีข้อกังขา

“ขอรับ!” กองทัพหลวงที่อยู่ด้านหลังเดินเข้ามา ชักกระบี่ออกมาก็จะลงมือทันที

เวินฉิงตื่นตระหนกอย่างสิ้นเชิง รีบห้ามทันที “ไม่ อย่า ซวนอ๋องขอร้องท่านโปรดปล่อยพ่อข้าไปเถอะ ขอร้องล่ะ หากเจ้าจะฆ่าก็ฆ่าข้า อย่าฆ่าเขาเลย!”

โม่เหลิ่งเหยียนไม่มองนางด้วยซ้ำ

เวินหานเทียนในเวลานี้ถูกตัดเส้นเอ็นข้อมือและเท้า คนทั้งคนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ราวกับลูกแกะที่กำลังจะถูกเชือด

ผ่านเหตุการณ์ในคืนนี้ กองทัพหลวงเกลียดชังเวินหานเทียนกับคนตระกูลเวินเข้ากระดูกดำมากยิ่งขึ้น ซวนอ๋องออกคำสั่งแล้ว พวกเขาตัดแขนและขาทั้งคู่ของเวินหานเทียนอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย

“อ๊าก!” เวินหานเทียนกรีดร้องออกมา ดังก้องไปทั้งคุกหลวง เสียงร้องที่น่าอนาถนั่น ทำให้คนรู้สึกสั่นสะท้าน

“ไม่ อย่า พวกเจ้าห้ามตัดแขนขาพ่อข้านะ!” เวินฉิงตะโกนด้วยความโกรธ

แต่นางถูกขังอยู่ที่อีกด้านของคุกหลวง อาวุธลับกับอาวุธที่อยู่บนตัวก็ถูกโม่เหลิ่งเหยียนยึดไปหมดแล้ว กรงขังของคุกหลวงก็ทำมาจากเหล็กดำชั้นดี นางทำอะไรไม่ได้เลย

มองดูพ่อโหยหวนด้วยความเจ็บปวด เวินฉิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ยกมือขึ้นมาก็โจมตีไปทางโม่เหลิ่งเหยียนอย่างดุเดือด

โม่เหลิ่งเหยียนยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อนเลยด้วยซ้ำ พลิกมือโจมตีกลับมาหนึ่งฝ่ามือ เขาไม่เป็นอะไร แต่เวินฉิงกลับถูกฝ่ามือนั่นของโม่เหลิ่งเหยียนโจมตี คนทั้งคนถอยหลังไปหลายเมตรและชนเข้ากับกรงเหล็กอย่างแรง อวัยวะภายในราวกับจะแตกเป็นเสี่ยงๆ นางเจ็บจนกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง

“โม่เหลิ่งเหยียนขอเพียงข้าไม่ตาย ข้าจะต้องสับเจ้าเป็นหมื่นๆชิ้น แก้แค้นให้คนในครอบครัวของข้าให้ได้!” เวินฉิงกล่าวอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ