หยุนถิงมองวัตถุดิบแวบหนึ่ง นี่บ่ายแล้ว ท่านลั่วต้องกินข้าวแล้วแน่ งั้นทำไก่ทอดแล้วกัน
หยุนถิงจับเนื้อไก่และเนื้อหมูมาสับเป็นชิ้นใหญ่ จากนั้นใช้เครื่องปรุงพอกไว้ จากนั้นหันไปทำผักเล็กน้อย
ท่านลั่วมองอย่างแปลกใจ “เจ้าหนูจวิน เจ้าแน่ใจว่านังหนูนี่จะทำของกินได้รึ?”
“แน่นอนอยู่แล้ว ท่านลั่วรอดูก็พอแล้ว” จวินหย่วนโยวตอบ
“เจ้านี่เข้าข้างเมียเจ้าดีนะ” ท่านลั่วเบ้ปากไม่พูดอะไรอีก
หยุนถิงเตรียมผักเสร็จ เนื้อก็เริ่มได้ที่ละ เธอให้คนไปจุดเตาไฟเติมน้ำมัน และทอดอย่างคุ้นชิน
ไม่นาน ทั้งห้องครัวมีแต่กลิ่นหอมของไก่ทอดเต็มไปหมด ทำเอาหนวดท่านลั่วเริ่มกระดิก
ไอ้โหย กลิ่นนี้ไม่เลวเลยจริงๆ
ไม่นาน ไก่ทอดและผักก็เสร็จแล้ว หยุนถิงยกขึ้นโต๊ะพลางว่า “ท่านลั่ว ท่านลองชิมดูสิ”
“ไม่เลวนี่” ท่านลั่วหยิบตะเกียบคีบคำหนึ่งเข้าปาก ดวงตาเบิกกว้างแทบถลน
“กินได้หรือไม่?”
ท่านลั่วเบ้ปาก “พอได้นะ ก็ธรรมดา” พูดเสร็จ ก็คีบชิ้นใหญ่อีกชิ้นเข้าปาก
หยุนถิงเห็นอย่างนั้น ก็รู้ว่าเขาพอใจละ “ซื่อจื่อท่านก็นั่งลงลองชิมดูสิ”
“ได้” จวินหย่วนโยวนั่งลงทานด้วย ฝีมือทำอาหารของหยุนถิงนั้นไม่เคยทำให้เขาผิดหวังมาก่อน
“พ่อบ้านท่านก็ด้วยสิ” หยุนถิงเอ่ยปาก
“ฮูหยิน จะทำเช่นนั้นได้อย่างไร” พ่อบ้านปากบอกไม่กล้า แต่มือหยิบตะเกียบคีบชิ้นหนึ่งเข้าปากทันที “อร่อย ฮูหยินท่านทำอะไรก็อร่อย นี่เรียกอะไรรึ?”
“ไก่ทอด หมูทอด ยังมีผักเสียบไม้ เรียกรวมว่าของทอด” หยุนถิงตอบ
“เช่นนั้นฮูหยิน ของพวกนี้เอาไปขายที่โรงเตี๊ยมได้หรือไม่ รสชาติไม่เลวเลย ต้องขายได้ราคาดีแน่” พ่อบ้านถามอย่างยินดี
“ไม่ ครั้งนี้ข้าจะเปิดร้านไก่ทอด เป็นร้านขายขนมพวกนั้น พ่อบ้าน ก่อนหน้านี้ที่ข้าให้ท่านช่วยถามร้านค้า เป็นอย่างไรบ้างแล้ว?” หยุนถิงตอบ
“เรื่องนี้ข้าจัดการเรียบร้อยนานแล้ว หลายวันก่อนฮูหยินมิใช่มัวยุ่งเรื่องเรือนหลังรึ ดังนั้นข้าเลยมิได้รบกวนท่าน ข้าจะไปเอามาเดี๋ยวนี้” พ่อบ้านออกไป ตอนกลับมาในมือมีโฉนดที่ดินปึกหนึ่ง
“มากขนาดนี้?”
“ฮูหยินให้ข้าคอยสังเกต เอาแค่ที่มีที่ตั้งที่ดี ร้านไม่ใหญ่ พื้นที่ราวสิบกว่าตารางเมตร ก็มีสิบกว่าเจ้าแล้ว ราคาก็ถูก ข้าเลยตัดสินใจซื้อเก็บไว้เลย” พ่อบ้านตอบ
“ไม่เลว พ่อบ้านทำงานดีมาก เช่นนั้นซื่อจื่อท่านคืนเงินที่ซื้อร้านให้พ่อบ้านด้วยนะ พรุ่งนี้ให้คนพาข้าไปดูหน่อย” หยุนถิงเอ่ยปาก
“ขอรับ ฮูหยิน” จวินหย่วนโยวเห็นด้วย
.......
จวนหลีอ๋อง
หลังจากโม่ฉือหานกลับไปก็ขังตนเองอยู่ในห้องหนังสือ ไล่ทุกคนออกไป และไม่ยอมให้ใครเข้ามารบกวนทั้งนั้น
ในห้องที่โอ่โถง เงียบยิ่งนัก โม่ฉือหานหวนคิดถึงเรื่องทั้งหมดหลังจากหยุนถิงแต่งเข้ามา และตั้งใจวิเคราะห์ดูรอบหนึ่ง
เหมือนเรื่องทั้งหมดจะเริ่มต้นขึ้นจากคืนแรงในการแต่งงานคืนนั้น
เริ่มจากตนไร้อารมณ์ พลันไม่รู้สึกอะไรกับสตรี ต่อมาถึงพบว่านกเขาไม่ขัน หนังสือหย่าร้างที่เขาให้หยุนถิงก็โดนคนเอาไปแปะไว้ที่หน้าประตูหอใต้หล้า จากนั้นก็มีเรื่องต่อมาเรื่อยๆ
“นั่นแน่นอนอยู่แล้ว จวนซื่อจื่อสามารถมีทุกอย่างในวันนี้ได้ ความชอบครึ่งหนึ่งเป็นของพ่อบ้าน พูดสักคำอย่างไม่เคารพ พ่อบ้านเท่ากับเป็นพ่อครึ่งหนึ่งของซื่อจื่อ อีกครึ่งคือหมอยมบาล หากมิใช่สองคนนี้ จวนซื่อจื่อกับซื่อจื่อของเราก็คงไม่มีนานแล้ว” หลงเอ้อร์พูดพลางถอนหายใจ
“เป็นเช่นนั้นจริงๆ จริงสิพวกเจ้าสองคนไปหาคนทำงานตกแต่งร้านมา พวกเราต้องเร่งความเร็วละ” หยุนถิงพึ่งพูดจบ องค์ชายสี่ก็ปรากฏตัวขึ้น
“หยุนถิง เจ้าจะหาคนทำงานตกแต่ง ทำไมไม่หาข้าล่ะ ลูกน้องข้ามีผู้เชี่ยวชาญด้านนี้” องค์ชายสี่โม่ฉือชิงพูดอย่างภูมิใจ
หยุนถิงหันมองเขา “องค์ชายสี่พูดจริงรึ?”
“แน่นอนล่ะ ข้าต้องหลอกเจ้าด้วยรึ หากมิใช่เพราะข้าอยากทำการค้าร่วมกับเจ้า ข้าไม่สนใจเจ้าดอก แต่จะว่าไป เมื่อวานเจ้าทำร้ายโม่ชิวหยีต่อหน้าธารกำนัล มันช่างสาแก่ใจจริงๆ ข้าเห็นแล้วยังสะใจเลย” โม่ฉือชิงชื่นชมอย่างไม่ปิดบังเลย
“เมื่อวานข้าฟาดแส้องค์หญิงเจ็ด ท่านเห็นด้วย? หายากนักที่ท่านไม่ได้ไปใส่สีตีไข่จ่อหน้าพระพักตร์ฝ่าบาท มันดูไม่เหมือนท่านเลย?” หยุนถิงเลิกคิ้วถาม
“เชอะ ข้ามิใช่คนชั่วสักหน่อย ทำไมต้องไปใส่สีตีไข่ด้วย นังเด็กโม่ชิวหยีน่ะปกติเย่อหยิ่งจองหองจนเคยชิน เพราะเสด็จพี่กับพี่รองตามใจน่ะแหละ นางไม่เคยเห็นพี่สี่อย่างข้าอยู่ในสายตาเลย ทำไมข้าต้องเป็นพยานเท็จให้นางด้วย” โม่ฉือชิงแค่นเสียงหยัน
หยุนถิงไม่คิดเลยว่าองค์ชายสี่จะพูดเช่นนี้ นางพลันรู้สึกว่า โม่ฉือชิงที่ปกติน่ารังเกียจ ดูจะชอบหน้าขึ้นมาหน่อย
“เห็นแก่ที่ท่านยังพอมีศีลธรรมต่อข้าอยู่บ้าง ข้ารับปากร่วมมือกับท่าน” หยุนถิงพูดเนิบช้า
โม่ฉือชิงตะลึง “จริงรึ เจ้าจะร่วมมือกับข้าจริงรึ?”
“ใช่” หยุนถิงตอบ
“ทำไม ก่อนหน้านี้เจ้าดูถูกข้ามาตลอดมิใช่รึ?” โม่ฉือชิงไม่เข้าใจ
“เมื่อก่อนท่านน่ะเอาแต่เล่นสนุก ไม่เห็นผู้ใดในสายตา เหิมเกริมเย่อหยิ่ง ไร้สมอง ข้าย่อมดูถูกท่านอยู่แล้ว แต่ท่านไม่ได้ไปเป็นพยานเท็จให้องค์หญิงเจ็ดเพราะว่าไม่ชอบหน้าข้า ก็ทำให้ข้าต้องมองท่านใหม่อยู่บ้าง ดังนั้นข้าเลยตกลงจะร่วมมือกับท่าน” หยุนถิงอธิบาย
โม่ฉือชิงที่เดิมตื่นเต้นพลันหน้าทะมึนลง “หยุนถิง ในสายตาเจ้าข้าแย่เพียงนี้?”
“เมื่อก่อนใช่ ตอนนี้รึ ก็ใช่” หยุนถิงหัวเราะขัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...