“ยังไงซะขอเพียงเจ้ายินดีร่วมมือกับข้าก็พอแล้ว พูดมาเถอะ จะร่วมมืออย่างไร?” โม่ฉือชิงรีบถามประเด็นสำคัญ
“ข้าซื้อร้านค้าสิบกว่าร้านเอาไว้ พวกนี้คือโฉนด ท่านให้คนไปตกแต่งให้ดี รูปแบบการตกแต่งให้ไปในแนวเดียวกัน ข้าคิดจะเปิดร้านขนมต่อเนื่อง ข้าจะออกสูตรอาหารให้ ท่านออกกำลังคน ทรัพย์สิน ส่วนเรื่องการขาย กำไรที่หาได้พวกเราแบ่งกันครึ่งต่อครึ่ง สิ่งสำคัญที่สุดในการขายของกินคือสัมผัสในการกินและรสชาติ ดังนั้นคนในห้องครัวต้องคัดเลือกให้ดี ให้น่าเชื่อถือ” หยุนถิงกำชับ
“แบ่งกันครึ่งต่อครึ่ง หยุนถิงเจ้าจะแบ่งกันครึ่งๆกับข้าจริงรึ?” โม่ฉือหานแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ก่อนหน้านี้เขาเสนอแบ่งกันสามเจ็ด หยุนถิงยังไม่ยอมเลย
“อาศัยที่ท่านไม่ได้ช่วยเป็นพยานให้องค์หญิงเจ็ด นิสัยท่านดูจะพอเชื่อถือได้อยู่ ข้าแบ่งกับท่านครึ่งต่อครึ่ง” หยุนถิงตอบ
โม่ฉือชิงพลันซาบซึ้งยิ่งรัก ถ้ารู้แต่แรกว่าหยุนถิงพูดจาดีเช่นนี้ เขาคงแสดงนิสัยออกมานานแล้ว แต่ตอนนี้ก็ไม่สาย วินาทีนี้โม่ฉือชิงพลันรู้สึกว่าหยุนถิงร่าเริงและพูดง่ายมาก
“งั้นเจ้าอยากขายอะไรเล่า?”
“ไก่ทอด ผักเสียบไม้ทอด ต่อไปทุกๆสองสามเดือนจะออกรายการของกินใหม่ ราคาอย่าแพงเกินไป ให้เป็นอย่างที่ชาวบ้านทั้งหมดสามารถซื้อได้ก็พอ” หยุนถิงอธิบาย
“อาหารที่เจ้าทำทั่วทั้งแคว้นต้าเยียนก็หาไม่เจอจานที่สอง ต่อให้ขายแพงมากก็มีคนซื้อนะ?” โม่ฉือชิงไม่เข้าใจ
“คนมีเงินในเมืองหลวงมีมากก็จริง ของขายราคาแพงก็มีคนขาย แต่คนมีเงินพอกินมากไปก็เลี่ยนแล้ว ต่อไปช่องทางการขายก็จะน้อยลง กำไรก็จะน้อยลงมากด้วย
แต่ชาวบ้านไม่เหมือนกัน ถึงจะราคาไม่แพง พอเปิดช่องทางการขายแล้ว ทุกคนรู้สึกว่าอร่อย ก็จะพูดกันปากต่อไป ของอร่อยใครๆก็อยากลอง
ถึงเวลานั้นทั่วทั้งแคว้นต้าเยียนรวมถึงอีกสี่ประเทศยังชอบกิน นั่นถึงจะเรียกว่าขายดีทุกวันที่แท้จริง อีกอย่างของกินไม่เหมือนเสื้อผ้าและเครื่องประดับ กินหมดแล้วยังกินได้อีก ดังนั้นต้องมองการณ์ไกลหน่อยดีกว่า”
โม่ฉือชิงตะลึงอึ้งไปเลย เมื่อก่อนเขาแค่รู้สึกว่าหยุนถิงมีความคิดมาก ร่วมมือกับนางอย่างมากก็คือหาเงินได้นิดหน่อย แต่ตอนนี้พอได้ยินหยุนถิงอธิบายว่า โม่ฉือชิงก็เลื่อมใสนางสุดหัวใจทันที
“หยุนถิง เจ้าช่างเก่งกาจจริงๆ เมื่อก่อนข้าตาถั่วเอง ต่อไปข้าจะเชื่อฟังเจ้าทั้งหมดเลย” โม่ฉือชิงเลื่อมใสยิ่งนัก
“องค์ชายสี่เกรงใจไปแล้ว” หยุนถิงพูดเรื่องรูปแบบการตกแต่งกับเขาอย่างง่ายๆ องค์ชายสี่ก็เข้าใจได้ทันที รีบกลับไปหาคนมาทำทันที
หยุนถิงไม่คิดเลยว่า องค์ชายสี่ที่เล่นสนุกไปวันๆกลับเข้าใจได้ในทันที ทำให้เธออดมองเขาใหม่ไม่ได้
“พวกเจ้าได้ยินข่าวหรือยัง คุณชายใหญ่ตระกูลโจวนกเขาไม่ขันแล้ว เชิญท่านหมอมาเท่าไหร่ก็ไม่มีประโยชน์ ดูท่าสายเลือดของตระกูลโจวคงสิ้นแล้ว” ชาวบ้านที่ผ่านไปข้างๆเอ่ยปากบอก
“ข้าเองก็ได้ยินมาเหมือนกัน นายท่านโจวร้อนใจจะตายแล้ว ตั้งรางวัลหนึ่งหมื่นตำลึงทองเพื่อหาท่านหมอมารักษา”
“นายท่านโจวพูดแล้ว หนึ่งหมื่นตำลึงทองเป็นเพียงแค่ของขวัญเมื่อพบหน้า หากรักษาลูกชายเขาได้จริงๆ ต่อให้ต้องการจวนก็ไม่เป็นปัญหา”
ได้ฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของชาวบ้านรอบตัว หยุนถิงพลันสนใจขึ้นมา “หลงเอ้อร์ ไปจวนตระกูลโจวกัน”
“ขอรับ”
ครั้งนี้ทั้งสองคนไม่ได้ปลอมแปลงใบหน้า แต่เดินเข้าไปตรงๆเลย
หลงเอ้อร์นำทาง เดินไปได้สองถนน พวกเขาก็เห็นจวนใหญ่ของจวนตระกูลโจว หน้าประตูมีสิงโตหินสองตัว ท่าทางองอาจน่าเกรงขาม ยังทำเลี่ยมทองอีก เห็นได้ชัดว่าจวนตระกูลโจวรวยมาก
“ฮูหยิน พวกเราจะเข้าไปอย่างนี้จริงรึ ปลอมแปลงการแต่งกายสักหน่อยดีหรือไม่?” หลงเอ้อร์ถาม
“ไม่ต้อง ลองตรวจสอบดูจริงเท็จก่อนค่อยว่ากัน” หยุนถิงตอบ
ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยได้ยินว่าคุณชายใหญ่ตระกูลโจวนกเขาไม่ขันเลย จู่ๆชาวบ้านก็ลือกันไปทั่ว รู้สึกว่าเรื่องมันบังเอิญไปหน่อย
“ขอรับ”
หยุนถิงพาหลงเอ้อร์เข้าไป “ข้าคือหยุนถิง พอรู้วิชาแพทย์บ้าง ได้ยินว่าคุณชายใหญ่ของเจ้านกเขาไม่ขัน เลยแวะมาดูหน่อย”
“ท่านแม่ คำพูดนี้ท่านพูดมาสามร้อยครั้งแล้ว ข้าไม่ฟัง หากชาตินี้ข้าต้องเป็นเช่นนี้ ข้ามิถือเป็นบุรุษด้วยซ้ำ มิสู้ตายไปเสียเลยดีกว่า” คุณชายใหญ่ตระกูลโจวพูดอย่างเดือดดาลอ่อนแรง
“บัดซบ ข้ากับแม่เจ้าเลี้ยงเจ้ามาเติบใหญ่ป่านนี้เพื่อให้เจ้ามาหมดอาลัยตายอยากเช่นนั้นรึ อยู่นิ่งๆเดี๋ยวนี้” นายท่านโจวตะคอกดัง
คุณชายใหญ่ตระกูลโจวหยุดลงฉับพลัน ยืนนิ่งไม่กล้าขยับ และไม่กล้าพูดอะไรอยู่
“ทำขายหน้าต่อหน้าคุณหนูหยุนเสียแล้ว เชิญด้านใน” นายท่านโจวพูดอย่างนอบน้อม
“ขอบคุณ” หยุนถิงเดินเข้ามา และได้เห็นชายหนุ่มอายุราวสิบหกสิบเจ็ด รูปร่างท้วมเล็กน้อย ใบหน้ามีแต่เนื้อ สีหน้าซีดเผือด ขอบตาดำคล้ำลึกโบ๋ แค่ดูก็รู้ว่าไม่ได้หลับมาสักพักแล้ว
คุณชายใหญ่ตระกูลโจวเห็นหยุนถิงเช่นกัน ตกใจสะดุ้ง “ท่านพ่อท่านแม่ พวกท่านไปหาหญิงอัปลักษณ์เช่นนี้มาจากไหนกัน ดำหยั่งกับถ่าน น่าเกลียดยิ่ง ข้าไม่ให้นางรักษาข้า พวกท่านรีบให้เขาไป----“
คุณชายใหญ่ตระกูลโจวพูดยังไม่ทันจบ เข็มเงินในมือหยุนถิงลอยออกไปแล้ว พริบตาเดียวคุณชายใหญ่ตระกูลโจวก็พูดอะไรไม่ออก
“ลูกพ่อ เจ้าเป็นอะไรไป?” ฮูหยินโจวเป็นห่วง
“ฮูหยินวางใจเถิด ข้าเพียงแค่จี้จุดใบ้ของคุณชายใหญ่เอาไว้ อีกครู่ดึงเข็มกลับมาก็จะหาย เขาหนวกหูยิ่ง กระทบการตรวจของข้า” หยุนถิงอธิบาย เดินเข้ามาจับชีพจรเขา
คุณชายใหญ่ตระกูลโจวมองหยุนถิงอย่างอึ้งๆ ไม่กล้าเกเรอีก
เขาไม่เห็นเลยว่าหญิงอัปลักษณ์ผู้นี้ลงมืออย่างไร ตนเองก็พูดอะไรไม่ออกแล้ว ถ้าเกิดนางมือสั่น เขาคงตายแน่
ผ่านไปครู่หนึ่ง หยุนถิงดึงมือกลับ “คุณชายใหญ่ตระกูลโจวชีพจรสับสน ความโกรธพุ่งแทงหัวใจ ตับแห้งร้อนเกินไป ล้วนส่งผลกระทบต่อสิ่งนั้น ที่สำคัญที่สุด เขาโดนคนวางยาพิษ ถึงทำให้นกเขาไม่ขัน”
“อะไรนะ ลูกชายข้าถูกวางยาพิษ?” ฮูหยินโจวถามอย่างตกตะลึง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...