ขอทานน้อยคนหนึ่งยังยินดีจะพยายามเพื่อเปลี่ยนชะตาชีวิตตนเอง แต่เขาล่ะ เหมือนจะไม่มีความเชื่อของตนเองเลย สำมะเลเทเมาไปวันๆมาสิบกว่าปี
วินาทีนี้ มองดูขอทานน้อยตรงหน้า บนใบหน้าโม่ฉือชิงมีความเคร่งเครียด จริงจัง เงียบขรึมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ห่างไปไม่ไกล หยุนเสี่ยวลิ่วที่ถูกหลิงเฟิงพาตัวมาเห็นฉากนี้ทั้งหมด ใบหน้าน้อยๆเย็นชานั้นพลันมีประกายสงสัยและตกตะลึง
เขาไม่ชอบหน้าหยุนถิงมาตลอด เมื่อก่อนหยุนถิงเป็นหญิงอัปลักษณ์ที่เลื่องชื่อในแคว้นต้าเยียน อัปลักษณ์ก็อัปลักษณ์เถอะ ยังไม่สงบเสงี่ยม วันๆก่อแต่เรื่อง ไม่หยุดไม่หย่อน หยุนเสี่ยวลิ่วมักรู้สึกว่าพี่หญิงใหญ่แบบนี้ช่างน่าขายหน้านัก ดังนั้นเลยไม่ชอบหน้าหยุนถิงมาตลอด
ในเวลานี้พอมาได้ยินขอทานน้อยพูดเช่นนี้ หยุนเสี่ยวลิ่วก็สงสัยขึ้นมาว่าเจ้าหนูนี่คงมิใช่ถูกจ้างมาหรอกนะ ไม่เช่นนั้น ด้วยนิสัยปัญญาอ่อนโง่งมอย่างนั้นของหยุนถิง มีหรือจะพูดจาเช่นนี้ออกมาได้
ถึงเขาจะเคยได้ยินมาว่า หยุนถิงเอาชนะฟู่ซื่อจื่อในงานเลี้ยงวันเกิดของฮูหยินเฒ่าฟู่มาได้ แต่เขาคิดว่าต้องเป็นจวินซื่อจื่อแน่ที่ช่วยนาง นางต้องเล่นตุกติกแน่ ตีให้ตายยังไงหยุนเสี่ยวลิ่วก็ไม่เชื่อ
“เอาล่ะ ลุกขึ้นเถอะ หยุนถิงกำลังยุ่งอยู่ รอนางเสร็จธุระแล้วก็จะมา อย่ารบกวนนาง” จวินหย่วนโยวแค่นเสียงเรียบ
“ขอรับ ขอบคุณซื่อจื่อ” เสี่ยวลิ่วจื่อยืนขึ้นทันทีอย่างเชื่อฟัง และยืนรออยู่ข้างๆเงียบเชียบ
“ซื่อจื่อ พาตัวคุณชายหกตระกูลหยุน มาแล้วขอรับ” หลิงเฟิงรายงาน
จวินหย่วนโยวเหล่มองหยุนเสี่ยวลิ่ว “พาเขาไปเรือนข้าง”
“ขอรับ” หลิงเฟิงจะพาตัวไป
“ข้าไม่ไป พวกท่านพาข้ามาทำอะไร?” หยุนเสี่ยวลิ่วถามหน้าตึง
พอเขาเลิกเรียน ก็ถูกหลิงเฟิงพาตัวมาเลย ยังไม่ทันได้พูดอะไรกับคนรับใช้ของจวนตระกูลหยุนเลยด้วยซ้ำ หยุนเสี่ยวลิ่วสังหรณ์ว่าเรื่องมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
จวินหย่วนโยวเหล่มองเขาอย่างเย็นชา “เจอข้า เจ้ากลับไม่คารวะ อยากให้คนหักขาเจ้าใช่ไหม?”
น้ำเสียงเย็นเยียบ ดุดัน กดดันเต็มขั้น
หยุนเสี่ยวลิ่วตกใจเข่าอ่อนคุกเข่าลงกับพื้นทันที “คารวะซื่อจื่อ”
“เอาล่ะ ลุกขึ้นเถอะ พี่หญิงใหญ่ของเจ้าคิดถึงเจ้าแล้ว ดังนั้นเลยให้คนพาตัวเจ้ามา” จวินหย่วนโยวตอบเสียงเรียบ
“พี่หญิงใหญ่คิดถึงข้า เป็นไปได้อย่างไรกัน?” ต่อให้โดนตีตายหยุนเสี่ยวลิ่วก็ไม่เชื่อ
เขาไม่ถูกกับหยุนโยวตั้งแต่เล็ก ทั้งคู่เจอหน้ากันทีไรเป็นต้องต่อปากต่อคำ ทะเลาะกัน เพราะเขาอายุยังน้อย ท่านพ่อก็ลำเอียงรักใคร่หยุนถิง ดังนั้นหยุนเสี่ยวลิ่วเลยโดนหยุนถิงอัดมาไม่น้อยตั้งแต่เล็ก บอกว่านางคิดถึงตน หยุนเสี่ยวลิ่วรู้สึกราวกับโดนผีหลอกเลย
“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้?” จวินหย่วนย้อนถามกลับ
หยุนเสี่ยวลิ่วเห็นออร่าและราศีแข็งกล้าของเขา เลยไม่กล้าพูดตามจริง “ไม่มีอะไร ข้าแค่แปลกใจเกินไป ข้าไม่อยากไปเรือนข้าง ข้าดูอยู่ที่นี่ได้หรือไม่?”
“ได้ แต่ห้ามส่งเสียงรบกวนหยุนถิง” จวินหย่วนโยวพูดหน้าเย็นชา
“ขอรับ” หยุนเสี่ยวลิ่วนั่งลงอย่างนอบน้อม
เขาไม่อยากไปเรือนข้างอะไรนั่นหรอก ไม่สนุกเลย พวกหยุนถิงกำลังทำของอร่อยกัน ถ้าเกิดเขาออกไป พวกนางไม่ให้เขากินล่ะ
ในห้องครัว
หยุนถิงทอดชิ้นไก่เสร็จสิบกว่าชิ้นแล้ว และให้ทุกคนหั่นชิ้นเล็กๆชิมดู จากนั้นหยุนถิงถือสองถาดใหญ่เดินออกมา
“ซื่อจื่อ พวกท่านก็ลองชิมดูสิ” หยุนถิงบอก และเห็นเสี่ยวลิ่วจื่อที่ยืนอยู่ข้างๆ
“เจ้าอย่ามาพูดเหลวไหล อาหารมื้อเดียวของข้าจะเป็นอาหารหนึ่งปีของเขาได้อย่างไรกัน?” หยุนเสี่ยวลิ่วต้องไม่เชื่ออยู่แล้ว
“เสี่ยวลิ่วจื่อ เจ้าบอกเขาสิ” หยุนถิงเอ่ยปาก
เสี่ยวลิ่วจื่อที่กำลังกินเนื้อไก่ ตอบอย่างไม่ชัดเจน “ขอรับคุณหนูหยุน บ้านข้าจน มักจะอดมื้อกินมื้อ บางครั้งทั้งวันได้กินแค่หมั่นโถวลูกเดียว บางครั้งก็เคยไปขอทาน กินอาหารเหลือทิ้งขว้างของคนอื่น หรืออาหารเสียหรือที่คนอื่นไม่ต้องการแล้ว บางครั้งหากขอหมั่นโถวอาหารเหลือไม่ได้ เพื่อนบ้านเห็นข้าน่าสงสารนักก็จะช่วยเหลือข้า ไม่อย่างนั้นข้าอดตายไปนานแล้ว”
หยุนเสี่ยวลิ่วไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า จะมีคนที่ทั้งวันได้กินหมั่นโถวแค่ลูกเดียว บางทียังต้องกินอาหารเหลือทิ้งขว้างอีก พอคิดถึงว่า ทุกมื้อตนได้กินอาหารเต็มโต๊ะ หมูเห็ดเป็ดไก่มาเต็ม เขาพลันรู้สึกสลดมาก
พอมองดูเสี่ยวลิ่วจื่อสวาปามกินไก่ทอดคำโตอย่างกับผีอดอยาก ใบหน้าตึงของหยุนเสี่ยวลิ่วพลันมีประกายเห็นใจ เดินเข้ามาหยิบไก่ทอดชิ้นหนึ่งยื่นให้เขา “เช่นนั้นเจ้าก็กินมากหน่อยละกัน”
เสี่ยวลิ่วจื่อหันมองหยุนถิง เห็นหยุนถิงพยักหน้า เขาถึงรับมา “ขอบคุณ”
“ขอบคุณข้าทำอะไร ข้าไม่ได้ทำสักหน่อย และไม่ใช่ของบ้านข้าด้วย” หยุนเสี่ยวลิ่วพูดอย่างเย่อหยิ่ง
หยุนถิงยื่นเนื้อไก่ชิ้นหนึ่งมาให้ “เจ้าก็กินด้วย นี่เป็นอาหารที่ข้าทำขึ้นใหม่ อีกไม่กี่วันข้าร่วมมือกับองค์ชายสี่ทำร้านไก่ทอด ถ้าเจ้าไปกิน ข้าจะบอกองค์ชายสี่เอาไว้ว่า ให้เจ้ากินได้ไม่คิดเงินตลอดชีวิต”
หยุนเสี่ยวลิ่วรับมาอย่างกระปอดกระแปด “เชอะ ใครสนใจกินไม่เสียเงินของเจ้ากัน ข้าไม่ใช่ว่าไม่มีเงินเสียหน่อย” พูดจบก็กัดกินไปหนึ่งคำ
“รสชาติเป็นอย่างไร?”
“ก็งั้นๆ พอกินได้” หยุนเสี่ยวลิ่วเบ้ปาก แต่กัดกินเร็วขึ้นอีก เขากินหมดหนึ่งชิ้นก็คว้ากินอีกหนึ่งชิ้น
หยุนถิงหัวเราะอย่างหน่ายใจ ให้คนรับใช้ไปเอาชานมและสลัดผลไม้มาด้วย
หยุนเสี่ยวลิ่วกินดะเลย เขาไม่มีทางยอมบอกหยุนถิงหรอกว่า เมื่อครู่เขาแอบให้คนรับใช้ของจวนตระกูลหยุนไปซื้อชานมและสลัดผลไม้ที่หอใต้หล้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...