จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 117

ณ จวนหยุน

หลังจากที่นางจ้าวกลับไปแล้วก็ได้เรียกหยุนเสี่ยวลิ่วมาที่ลานบ้าน “จากนี้ไปแม่มิอนุญาตให้เจ้าเดินทางไปยังจวนซื่อจื่ออีก เจ้าอย่าได้ทำตัวสนิทสนมกับหยุนถิงนัก เข้าใจหรือไม่?”

หยุนเสี่ยวลิ่วเอ่ยถามด้วยความงุนงงว่า “ท่านแม่ เพราะเหตุใดกัน?”

“เรื่องในวันนี้หยุนถิงเป็นคนวางแผนทั้งหมด นางต้องการทำร้ายเจ้า โชคดีเหลือเกินที่พ่อและแม่ไปอย่างรวดเร็วทันเวลา นางจึงยังมิทันได้ลงมือ” นางจ้าวอธิบาย

“ท่านแม่ ท่านมิสบายหรืออย่างไรกัน เหตุใดจึงได้เอ่ยวาจาไร้สาระ หยุนถิงจะมิทำร้ายลูกอย่างแน่นอน แม้ว่าแต่เล็กจนโตนางจะเป็นปรปักษ์กับลูก แต่อย่างมากก็เพียงแค่ตีลูกครั้งหนึ่ง ท่านแม่คิดมากไปเอง”หยุนเสี่ยวลิ่วโต้กลับ

“หุบปากเสีย เจ้าเป็นเพียงแค่เด็กจะไปรู้เรื่องใด เจ้าเปรียบเหมือนชีวิตของแม่ บัดนี้เจ้ามิฟังคำแม่แล้วหรือ ต่อจากนี้จงอยู่ให้ห่างจากหยุนถิงเข้าไว้ นางคือตัวซวย!” นางจ้าวตะคอกด้วยความโมโหโกรธจัด

หยุนเสี่ยวลิ่วรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา “ท่านแม่ หยุนถิงมิใช่ตัวซวย แม้ว่าก่อนหน้านี้นางมักจะทำเรื่องอับอายขายหน้าเป็นประจำ แต่ข้ารู้สึกว่านางมิเหมือนเมื่อก่อน นางสามารถชนะและได้รางวัลการแต่งกวีวาดภาพของซื่อจื่อได้ นั่นหมายความว่านางมีความสามารถเก่งกาจ”

แน่นอนว่าประโยคนี้หยุนเสี่ยวลิ่วจะมิกล่าวต่อหน้าหยุนถิง มิอย่างนั้นนางคงจะเชิดหน้าหยิ่งผยอง

“เก่งกาจอะไรเล่า เจ้ามันก็เป็นเพียงแค่เด็กที่หลอกง่าย นางให้อาหารแก่เจ้ากินก็สามารถซื้อใจเจ้าได้แล้ว จงไปที่ศาลเจ้าบรรพบุรุษแล้วไตร่ตรองการกระทำของตน เหตุใดข้าจึงได้ให้กำเนิดลูกที่ไร้ความคิดอย่างเจ้าได้กันนะ!” นางจ้าวพูดด้วยความโมโห

“ต่อให้ท่านแม่สั่งให้ข้าไปนั่งไตร่ตรอง ข้าก็ยังยืนกรานว่าหยุนถิงมิใช่ตัวซวย” หยุนเสี่ยวลิ่ววิ่งหนีไปด้วยความโมโห

ทำเอาเสียนางจ้าวหงุดหงิดหน้าอกกระเพื่อมอย่างแรง ใบหน้าดูมิน่ามอง “เจ้าเด็กคนนี้ เหตุใดจึงปกป้องคนนอก ช่างน่าโมโหเหลือเกิน!”

“ฮูหยินเจ้าคะ คุณชายน้อยยังเด็กนัก ค่อยๆ สั่งสอนไปเถิดเจ้าค่ะ” มามาเอ่ยปลอบโยน

“หากข้ามิสั่งสอนให้เขามองเห็นตัวตนแท้จริงของหยุนถิง เกรงว่าต่อให้ตายเขาก็คงมิมีวันรู้

“ฮูหยินเจ้าคะ คุณหนูใหญ่นี่ก็จริงๆ เชียว ก่อนหน้านี้มักจะทะเลาะเบาะแว้งกับคุณชายน้อยเป็นประจำ เหตุใดจู่ๆ จึงได้เดินทางมารับไป ทั้งยังกล่าวว่าคิดถึงคุณชายน้อย ถึงอย่างไรบ่าวก็มิเชื่อ” มามาพูดด้วยความงุนงง

หลังจากความโมโหค่อยๆ จางลงนางจ้าวก็ได้ใจเย็นลงเช่นกัน นางคิดทบทวนเรื่องในวันนี้อีกหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประโยคสุดท้ายที่หยุนถิงกล่าวว่าจะเรียกตัวหยุนซูไปด้วย ทำให้นางจ้าว แสดงท่าทีหงุดหงิดโมโหออกมาอีกครั้ง

“ให้ตายสิ เรื่องในวันนี้หยุนถิงต้องการที่จะบอกกับข้าว่าหากข้ากล้าแตะต้องซูอี๋เหนียงนางก็จะลงมือกับเสี่ยวลิ่ว นังเด็กคนนี้กล้าข่มขู่ข้า!”

มามาเองก็แปลกใจมากเช่นกัน “ฮูหยินเจ้าคะ แล้วพวกเราจะจัดการกับซูอี๋เหนียงต่อหรือไม่?”

“หยุดเอาไว้ก่อน ก็เพียงแค่ขยะกองหนึ่ง ถึงอย่างไรนางก็โบยบินขึ้นฟ้ามิได้ นางมิมีค่าเท่ากับเสี่ยวลิ่วของข้าเลย อีกอย่างจงส่งคนไปคุ้มกันคุณชายน้อยให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างทางที่เดินทางกลับจากโรงเรียน เรื่องในวันนี้ข้าจะมิอนุญาตให้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สอง”นางจ้าวออกคำสั่ง

“เจ้าค่ะฮูหยิน”

หยุนหลีตามหาไปทั่วแต่กลับหามิเจอ ดังนั้นจึงได้เดินทางกลับจวนเพื่อต้องดูว่าเสี่ยวลิ่วกลับมาแล้วหรือไม่ แต่เมื่อเปิดประตูเข้ามาก็พบกับบิดาของตน

“ท่านพ่อ เสี่ยวลิ่วกลับมาแล้วหรือยัง ลูกออกไปตามหาทั่วเลยแต่กลับมิพบ” หยุนหลีเอ่ยถาม

หยุนเฉิงเซี่ยงทำสีหน้าเย็นชาตอบว่า “หาพบแล้ว เขาไปที่จวนซื่อจื่อ พี่ใหญ่ของเจ้าคิดถึงเขาจึงเชิญให้เข้าไปกินอาหารอร่อย”

“ว่าอย่างไรนะ พี่ใหญ่ให้เขากินอาหารอร่อยแต่กลับมิให้ลูกกิน พี่ใหญ่ช่างลำเอียงเหลือเกิน!”หยุนหลีรู้สึกมิพอใจเล็กน้อย

“เรื่องในวันนี้ข้าครุ่นคิดมิรอบคอบ ข้าสับสนเอง แต่ถึงกระนั้นก็เป็นเพราะข้ากังวลเป็นห่วงเสี่ยวลิ่ว หากถิงเอ๋อร์ต้องการจะให้เสี่ยวลิ่วไปยังจวนซื่อจื่อ เพียงให้ส่งคนมาบอกก็พอ การที่นางพาตัวเขาไปเช่นนี้โดยมิบอกมิกล่าวจึงทำให้ข้าหวาดกลัวเป็นห่วง”

“นายท่าน ข้าผิดไปแล้ว ข้ารู้ตัวแล้วว่าผิดไปจริงๆ เรื่องในวันนี้ข้ามิได้คิดให้รอบคอบ จึงได้เดินทางไปตามบุตรชายที่จวนซื่อจื่อ แต่ว่านายท่านเสี่ยวลิ่วเป็นลูกของข้า เป็นก้อนเนื้อที่ออกมาจากข้า จะมิให้ข้าเป็นห่วงกังวลเขาได้อย่างไร นายท่าน จะดุด่าทุบตีข้าอย่างไรก็ได้แต่อย่าโมโหเสียทำให้สุขภาพร่างกายต้องอ่อนแอ” นางจ้าวคุกเข่าร้องขอความเมตตา

“ท่านแม่ ท่านไปหาเรื่องโวยวายที่จวนซื่อจื่อ และยังกล่าวว่าพี่ใหญ่ฆ่าน้องหก นี่มันเป็นไปได้อย่างไร ท่านมิสบายงั้นหรือ!” หยุนหลีถามด้วยความตกตะลึง

นางจ้าวหันไปจ้องมองนาง เจ้าลูกคนนี้เจตนากล่าวหรืออย่างไร มิเห็นหรือว่าตนกำลังสารภาพผิดต่อนายท่านอยู่ นางยังจะเอ่ยถามอีก ต้องการจะให้ตนผิดให้ได้งั้นหรือ เหตุใดนางจึงกำเนิดบุตรสาวที่โง่เขลาเช่นนี้!

สีหน้าของหยุนเฉิงเซี่ยงดูเยือกเย็นมืดมนขึ้นเรื่อยเรื่อย “จงนำตัวฮูหยินไปที่ศาลเจ้าบรรพบุรุษ หันเข้าหากำแพงเพื่อไตร่ตรองครุ่นคิด หากมิมีคำสั่งจากข้ามิอนุญาตให้นางออกมาทั้งสิ้น!”

“ขอรับนายท่าน” ผู้คุ้มกันในจวนพากันตรงเข้ามา

นางจ้าวรู้สึกเศร้าหัวใจสลาย ครั้งนี้จบสิ้นแล้วแน่ๆ นางถูกผู้คุ้มกันพาไปยังศาลเจ้าบรรพบุรุษ

“ท่านพ่อ เรื่องนี้เข้าใจกันผิดหรือเปล่า ท่านแม่ทำเรื่องเช่นนี้ออกมาได้อย่างไร?” หยุนหลียังคงมิเชื่อ

“มิมีอะไรเข้าใจผิดกันหรอก ข้าเห็นกับตาว่านางไปเห่าหอนอยู่ที่จวนซื่อจื่อ โชคดีเหลือเกินที่ซื่อจื่อมิได้ติดใจเอาความ มิอย่างนั้นแม้แต่ข้าก็อยากที่จะกลับมาได้ เอาล่ะ เจ้าทำอะไรอยู่ก็ไปทำสิ่งนั้นต่อเถิด อย่ามารบกวนข้า” หยุนเฉิงเซี่ยงกล่าวด้วยความไร้ความอดทน

“นายท่าน ซื่อจื่อส่งคนมาให้สองคนเจ้าค่ะ” บ่าวรับใช้รีบเข้ามารายงาน

หยุนเฉิงเซี่ยงเอ่ยถามด้วยความงุนงง “คนเช่นไร?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ