จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 118

“เป็นสตรีสองคน กล่าวว่าส่งมาที่นี่เพื่อดูแลซูอี๋เหนียงเจ้าค่ะ” บ่าวรับใช้ตอบ

หยุนเฉิงเซี่ยงถึงได้คิดนึกขึ้นได้ว่าดูเหมือนเขามิได้เจอซูอี๋เหนียงมันเนิ่นนานแล้ว “ข้าจะไปดูสักหน่อย ส่งพวกนางไปที่เรือนของซูอี๋เหนียงเถอะ”

“เจ้าค่ะ”

หยุนเฉิงเซี่ยงตรงไปยังเรือนของซูอี๋เหนียงจึงได้รู้ว่าเรือนั้นช่างเรียบง่าย แม้แต่ดอกไม้หรือต้นไม้สักต้นก็มิมี อีกทั้งยังดูเยือกเย็น

บนชั้นไม้ที่ลานด้านนอกยังมีหัวไชเท้าแห้งและผักดองหั่นฝอยตากเอาไว้ ทำให้หยุนเฉิงเซี่ยงรู้สึกประหลาดใจยิ่งนัก จวนเฉิงเซี่ยงมิอาจทำให้นางกินอิ่มได้งั้นหรือ?

หยุนเฉิงเซี่ยงเดินตรงเข้าไปและพบว่าหยุนซูกำลังป้อนยาให้ซูอี๋เหนียงเขาขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย “มิสบายตรงไหนงั้นหรือ?”

เมื่อเห็นผู้ที่เดินทางมาอย่างกะทันหัน ซูอี๋เหนียงก็ตกใจสำลักด้วยความตื่นเต้น

“ท่านพ่อ เหตุใดท่านจึงมาที่นี่ได้เล่า?” หยุนซูมองไปด้วยความประหลาดใจ

หยุนเฉิงเซี่ยงเดินตรงเข้ามาแล้วยื่นมือออกไปลูบหลังของซูอี๋เหนียงเบาๆ “มิมีอะไรหรอก ข้าเพียงแค่เดินทางมาเยี่ยม”

ดวงตาของซูอี๋เหนียงแดงเรื่อด้วยความตื้นตันใจ “ท่านพี่ ท่านมีตัวตนที่สูงส่ง เหตุใดท่านจึงเดินทางมาที่เรือนของข้าน้อยเช่นนี้ ข้ามิเป็นไร สบายดี”

“เหตุใดสีหน้าเจ้าจึงย่ำแย่นัก เจ้าป่วยใช่หรือไม่ เชิญหมอมาแล้วหรือยัง เจ้ามิสบายตรงไหน?” หยุนเฉิงเซี่ยงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

เมื่อมองไปยังซูอี๋เหนียงที่อยู่ตรงหน้า สีหน้าของนางดูซีดมิมีเส้นเลือดฝาดแม้แต่น้อย เบ้าตาโบ๋ลึกลงไป นางดูผอมซีดมาก ผิวหนังเหลืองแห้ง ดูก็รู้ว่าขาดสารอาหาร

“มิเป็นไรอะไรหรอกท่าน เป็นโรคที่มาจากก่อนหน้านี้” ซูอี๋เหนียงตอบ

หยุนซูคุกเข่าลงสู่พื้น “ท่านพ่อ ได้โปรดคืนความยุติธรรมให้ท่านแม่ด้วย ฮูหยินทำให้ท่านแม่เป็นเช่นนี้”

ใบหน้าของหยุนเฉิงเซี่ยงมืดมน “เกิดเรื่องอะไรขึ้นกัน?”

“ซูเอ๋อร์อย่าได้เอ่ยวาจาไร้สาระ นายท่านเจ้าคะ อย่าได้ฟัง ข้ามิเป็นไร” ซูอี๋เหนียงพยายามรั้งนางเอาไว้

“ซูเอ๋อร์จงบอกกับพ่อว่าเกิดเรื่องใดขึ้น” หยุนเฉิงเซี่ยงถาม

“หลายปีมานี้ ท่านพ่อมิเดินทางมาไต่ถามใส่ใจท่านแม่ ดังนั้นคนในจวนเฉิงเซี่ยงจึงคิดว่าท่านพ่อมิอยากเจอท่านแม่แล้ว ด้วยเหตุนี้ฮูหยินจึงได้หักค่าใช้จ่ายรายเดือนของท่านแม่และลูก แม้แต่บ่าวรับใช้ก็รังแกพวกเรา”

“ตามปกติแล้วสิ่งที่พวกเรากินเข้าไปมิต่างอันใดกับของบ่าวรับใช้เลย ในบางครั้งยังสู้พวกเขามิได้เสียด้วยซ้ำ ก่อนหน้านี้มินานท่านแม่ป่วยหนัก ลูกไปร้องขอฮูหยินให้ช่วยเหลือ แต่กลับถูกฮูหยินขับไล่ออกมา”

“นางยังบอกอีกว่าท่านพ่อมิใส่ใจว่าท่านแม่จะเป็นหรือตาย ให้นางยอมรับชะตาชีวิตของตนเอง ดังนั้นจึงมิได้เชิญหมอมาดูอาการท่านแม่ ข้าจึงเดินทางออกไปตามหมอ แต่ข้ามิมีเงิน ต่อให้คุกเข่าก้มศีรษะคารวะเสียจนเลือดออกก็มิมีหมอคนใดเดินทางมารักษาท่านแม่”

“ต่อมามิใช่เรื่องง่ายเลยกว่าท่านแม่จะรอดพ้นจากความเจ็บป่วยในครั้งนั้น แต่ก็มีโรคเรื้อรังตลอดมา ร่างกายของท่านแม่อ่อนแอ มีอาการไอตลอดเวลา เมื่อมิกี่วันก่อนหลังจากพี่ใหญ่กลับไปแล้ว เห็นว่าเราสองแม่ลูกช่างน่าสงสารจึงได้มอบอำนาจในการดูแลบ้านให้ท่านแม่”

“แต่ฮูหยินมิพอใจนัก นางมิยินดี จงใจให้คนนำดอกไม้มาให้ท่านแม้กระถางหนึ่ง กล่าวว่าเป็นการขอโทษ แต่เมื่อสองวันก่อนจู่ๆ ท่านแม่ก็เป็นลมหมดสติไป”

“ข้ารู้สึกรีบร้อนใจยิ่งนักจึงได้เดินทางไปหาพี่ใหญ่ ขอร้องให้นางมาดูอาการท่านแม่ จึงได้รู้ว่าท่านแม่ถูกพิษ และฆาตกรก็คือกระถางดอกไม้ที่ฮูหยินนำมาให้ท่านแม่”

“ทักษะทางการรักษาของพี่ใหญ่เก่งกาจ จึงสามารถช่วยท่านแม่เอาไว้ได้และยังให้ยาถอนพิษ สั่งให้นางกินเข้าไปทุกวันก็จะดีขึ้น ท่านพ่อได้โปรดเถิดช่วยท่านแม่ด้วย ข้าและท่านแม่มิขอสิทธิอำนาจใดทั้งสิ้น เรามิต้องการทรัพย์สินเงินทอง พวกเราเพียงอยากใช้ชีวิตอย่างสงบ”

“ทุกอย่างที่ลูกกล่าวมานั้นล้วนเป็นความจริง ท่านพ่อสามารถไปถามแม่บ้านและบ่าวรับใช้ในจวนได้ หากซูเอ๋อร์โกหกแม้แต่คำเดียวขอให้ฟ้าดินลงโทษ และขอให้ฟ้าผ่าตาย” หยุนซูร้องไห้พลางกล่าวออกมา

เมื่อได้ยินดังนั้นสีหน้าของหยุนเฉิงเซี่ยงก็มืดมนลงทันใด เขาโมโหสุดขีด รัศมีรอบตัวแผ่ซ่านไปทั่วทั้งห้อง มันช่างเยือกเย็นและดูเป็นอันตราย

“ในเมื่อเป็นความประสงค์ของถิงเอ๋อร์ เจ้าก็จงรับพวกนางไว้เถิด ข้าจะไปสั่งให้คนทำความสะอาดห้อง เจ้ารักษาตัวให้ดี” หยุนเฉิงเซี่ยงเอ่ยกำชับสองสามคำก่อนจะจากไป

มินานต่อมา พ่อบ้านก็ได้นำสิ่งของมากมายโยกย้ายเข้ามาอาทิเช่น เสื้อผ้า เครื่องนอน โต๊ะเก้าอี้ เตียงนอน ของประดับตกแต่ง รูปภาพ ดอกไม้......

หยุนซูขมวดคิ้วเข้าหากัน “ท่านพ่อบ้าน สิ่งเหล่านี้คืออะไรกัน?”

“ขอแสดงความยินดีด้วยคุณหนูสามด้วย นายท่านสั่งให้เลื่อนตำแหน่งซูอี๋เหนียงเป็นฮูหยิน และต่อจากนี้ ค่าตอบแทนในทุกเดือนก็จะได้รับตามตำแหน่งฮูหยิน สิ่งเหล่านี้นายท่านเป็นคนคัดเลือกด้วยตนเองและนำสั่งให้คนนำเอามาให้ นายท่านกล่าวว่าเรือนอาศัยของอี๋เหนียงนั้นช่างเรียบง่ายเหลือเกิน ควรที่จะประดับตกแต่งสักหน่อย” พ่อบ้านกล่าวด้วยท่าทางนอบน้อม

“ขอบคุณท่านพ่อบ้านเป็นยิ่งนัก” หยุนซูรู้สึกดีใจมาก ในครั้งนี้สองแม่ลูกนางมิจำเป็นต้องถูกคนอื่นรังแกอีกแล้ว

หลังจากนั้นมินาน หยุนซูก็ได้ยินบ่าวรับใช้ในส่วนสนทนากัน กล่าวว่าได้ยินเสียงโหยหวนอันน่าสังเวชดังมาจากศาลเจ้าบรรพบุรุษ มิต้องเดาก็รู้ว่าท่านพ่อของนางกำลังจัดการกับนางจ้าว ในที่สุดแรงกดดันที่หยุนซูเก็บไว้ในใจก็ถูกระบายออกมาสักที

......

ณ จวนซื่อจื่อ

จวินหย่วนโยวเดินตรงเข้ามาเห็นผ้าสองสามชิ้นอยู่ในมือของหยุนถิง เขาก็ยิ้มขึ้นอย่างมีเลศนัยแล้วเอ่ยถามว่า “นี่คืออะไร?”

“ซื่อจื่อ สิ่งนี้เรียกว่าบิกินี่ ข้าตั้งใจจะใส่ยามไปเฉลิมฉลองเทศกาลดอกท้อ ได้ยินหลงเอ้อกล่าวว่ามีบ่อน้ำพุร้อนที่นั่นอยู่ข้างงานเทศกาลดอกท้อ ข้าจะได้ใส่มันพอดี เจ้าว่าสีแดงหรือสีเขียวงามกว่ากัน?” หยุนถิงถาม

สีหน้าของจวินหย่วนโยวมืดมนลงทันที “เจ้าจะสวมชุดนี้หรือ?”

“ใช่น่ะสิ แปลกมากงั้นหรือ แต่นี่เป็นสิ่งที่ข้าเพิ่งทำออกมา คาดว่าบุรุษทั้งหลายคงจะต้องหันมามองข้าแน่นอน” หยุนถิงนึกถึงฉากนั้นแล้วหัวเราะอย่างตื่นเต้น

“ข้ามิให้เจ้าสวมมัน!” จวินหย่วนโยวตะคอกอย่างเย็นชา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ