จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 142

“ข้ามีคำถามอยากจะถามเจ้าจริงๆ เหตุใดเจ้าถึงได้หลงรักหยุนถิงเช่นนี้?” ฮ่องเต้มองมาอย่างสอดรู้สอดเห็น

ฮ่องเต้ไม่เข้าใจจริงๆ คนที่มีฐานะและตำแหน่งอย่างจวินหย่วนโยว ถึงแม้จะเป็นคนอายุสั้น แต่ด้วยภูมิหลังครอบครัวของจวนซื่อจื่อ หญิงสาวทั้งสี่แคว้นเขาสามารถเลือกได้ตามใจชอบไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงเลือกหยุนถิงได้

ถึงแม้หยุนถิงจะมีทักษะทางการแพทย์ มีความฉลาดและสติปัญญาเล็กน้อย แต่กิริยาหยาบคาย ไม่มีสมบัติผู้ดีให้พูดถึง การกระทำก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ ชื่อเสียงก็ยิ่งฉาวโฉ่ไปทั่ว ที่สำคัญยังเป็นผู้หญิงที่หลีอ๋องทอดทิ้งอีก สายตาของจวินหย่วนโยวจะแย่ขนาดนี้เลยหรือ?

จวินหย่วนโยวสีหน้าเคร่งขรึม รูม่านตาดำมีความจริงจังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน“เพราะนางเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ไม่กลัวข้า และเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่กล้าแต่งงานกับข้าเช่นกัน”

คำพูดประโยคเดียว ทำให้แม้แต่ฮ่องเต้ก็มีสีหน้าตึงเครียดขึ้นมา

เขารู้ดีกว่าใคร ในสายตาของผู้คนในใต้หล้าจวินหย่วนโยวก็คือพญายมในนรก จอมมารผู้โหดเหี้ยมกระหายเลือด สัตว์ประหลาด ทุกคนต่างก็หลีกเลี่ยงเขา ราวกับเป็นหายนะก็ไม่ปาน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะมีใครต้องการแต่งงานกับเขา

ฐานะและอำนาจของจวนซื่อจื่อน่าดึงดูดมากก็จริง แต่ความวิปลาสผิดเพี้ยนของจวินหย่วนโยว แม้แต่ฮ่องเต้ก็ยังคาดเดาไม่ถูก ไม่กล้าไปยั่วยุโดยพลการ นับประสาอะไรกับผู้หญิงทั่วไป

ถึงแม้จวินหย่วนโยวสามารถใช้กำลังบังคับได้ แต่ว่าแตงที่ฝืนเด็ดจากต้นย่อมไม่หวานอยู่แล้ว

ได้ยินจวินหย่วนโยวกล่าวเช่นนี้ ฮ่องเต้ก็สามารถเข้าใจได้เล็กน้อยแล้ว อาศัยจิตใจที่กล้ากระโดดเข้าไปในกองไฟของหยุนถิง เขายังอดชื่นชมขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้

“กระหม่อมรู้ตัวดีว่าอยู่ได้อีกไม่นาน และไม่เคยคิดจะแต่งงานมีภรรยา ถึงอย่างไรกระหม่อมเป็นเช่นนี้พวกผู้หญิงก็มีเพียงแต่กลัวว่าจะหลีกหนีกันไม่ทัน กระหม่อมก็ไม่อยากทำให้ผู้หญิงเขาเสียเวลา การปรากฏตัวของหยุนถิง ทำให้กระหม่อมรู้ว่าอะไรคือการถูกห่วงใย ใส่ใจ รู้สึกถึงความรักความอบอุ่นที่แท้จริงในโลกมนุษย์”

สำหรับคนธรรมดาทั่วไปแล้วถือเป็นเรื่องปกติมาก แต่สำหรับกระหม่อมแล้วกลับหาได้ยากอย่างยิ่ง ถึงแม้กระหม่อมต้องตายตอนนี้ ก่อนจะตายสามารถสัมผัสได้ถึงความเย็นชาและอบอุ่นของผู้คน ชาตินี้ของกระหม่อมก็คุ้มค่าแล้ว ดังนั้นถึงได้ตามใจนาง ปกป้องนางอย่างสุดความสามารถของกระหม่อม” เสียงที่อ่อนแอของจวินหย่วนโยวดังมา แล้วก็ไอออกมาอีกสองครั้ง

ฮ่องเต้ฟังแล้วรู้สึกเห็นอกเห็นใจอย่างยิ่ง ขณะเดียวกันก็ตำหนิตัวเองที่สงสัยจวินหย่วนโยว

ฮ่องเต้ก็เป็นคนนิสัยตรงไปตรงมา ตอนที่ยังเยาว์วัยก็เคยรักผู้หญิงคนหนึ่งอย่างสุดซึ้งมาก่อน ดังนั้นสำหรับรักแท้ที่หาได้ยากเช่นนี้ ฮ่องเต้ชื่นชมและอิจฉาอย่างยิ่ง

“เมื่อเป็นเช่นนี้ ต่อไปก็ดีต่อหยุนถิงให้มากๆเถอะ” ฮ่องเต้กล่าวอย่างใจเย็น

คนหนึ่งคือถูกพิษร้ายแรงมาตั้งแต่เด็ก เป็นคนป่วยขี้โรคที่ต้องใช้ยายื้อชีวิต อีกคนคือหญิงอัปลักษณ์ที่ยโสโอหัง หยาบคายจองหอง คนเช่นนี้สองคนจะสามารถสร้างเรื่องอะไรขึ้นมาได้ เขาคิดมากไปจริงๆ

“กระหม่อมรับพระบัญชา”

ในเรือน

หยุนถิงฝังเข็มให้กับหลิ่วเฟย สีหน้าเคร่งขรึม ละเอียดอย่างมาก

“คุณหนูหยุน เจ้ากับซื่อจื่อผูกพันแน่นแฟ้น ข้ารู้สึกอิจฉาจริงๆ” หลิ่วเฟยทอดถอนใจ

“เหนียงเหนียงกล่าวเกินไปแล้ว ฝ่าบาทก็มีความรักใคร่เหนียงเหนียงอย่างสุดซึ้งเช่นกัน ข้าดูออก” หยุนถิงกล่าวตอบด้วยความเคารพนบนอบ

มุมปากของหลิ่วเฟยเกี่ยวขึ้นมาเล็กน้อย เหมือนประชดประชัน เหมือนเยาะเย้ย“ฝ่าบาทก็แค่กลัวว่าไทเฮาจะตำหนิเท่านั้นและ วังหลังมีสนมมากมาย ข้าป่วยจนเหมือนกับผี อายุมากและทรุดโทรมไปตามวัย จะเข้าตาของเขาได้อย่างไร”

หยุนถิงตกตะลึง ไม่คิดว่าหลิ่วเฟยจะพูดเช่นนี้ มือที่ถือเข็มเงินเอาไว้ลืมความพอดีไปชั่วขณะ ทำให้หลิ่วเฟยรู้สึกเจ็บ

“เหนียงเหนียงยกโทษให้ด้วย ข้าไม่ได้ตั้งใจ” หยุนถิงยอมรับผิดทันที

“ไม่เป็นไร ร่างกายของข้าจะตายมิตายแหล่เข็มนี้ก็ไม่กระทบอะไรมากหรอก กลับเป็นคุณหนูหยุน จวินซื่อจื่อโปรดปรานเจ้าคนเดียวเช่นนี้ เจ้าได้กลับไปเยี่ยมบ้านแม่บ้างหรือไม่?” หลิ่วเฟยถาม

ต่อมาข้าก็เข้าวัง ในตอนนั้นฝ่าบาทยังไม่ได้แต่งตั้งฮองเฮา และข้าคือตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดในวังหลัง แต่จู่ๆข้าก็หมดสติไป หลังจากนั้นหนึ่งเดือนเต็มๆถึงตื่นขึ้นมา จากนั้นร่างกายก็อ่อนแอลงจากเตียงไม่ได้

ขอถามหน่อย มีแคว้นไหนจะอนุญาตให้มารดาแห่งแผ่นดินคือคนป่วยขี้โรคบ้าง ดังนั้นภายใต้ความจนใจฝ่าบาทเลยแต่งตั้งกุ้ยเฟยเป็นฮองเฮา ซึ่งก็คือฮองเฮาองค์ปัจจุบัน ได้เป็นฮองเฮาหรือไม่ข้าไม่สนใจเลย เห็นหน้าตาที่ประจบประแจงจอมปลอมของคนพวกนี้จนชินตา ข้าไม่สู้อยู่เงียบๆดีกว่า”

หยุนถิงถึงได้เข้าใจ หลิ่วเฟยหมดสติตอนที่เลือกฮองเฮาพอดี ไม่ต้องคิดก็รู้ว่ามีคนวางยาพิษนางแน่นอน และผู้ที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดก็คือฮองเฮาในตอนนี้

เพียงแต่ว่าหลายปีขนาดนี้แล้วพิษนี้ยังไม่มีใครตรวจพบ บรรดาหมอหลวงก็จนปัญญาแก้ไข เป็นเพราะการวางยาพิษของฮองเฮาในตอนนี้เหนือชั้นเกินไป หรือว่าฮ่องเต้อนุญาตโดยปริยาย เมื่อคิดอย่างรอบคอบแล้วก็รู้สึกว่ามันน่ากลัวอย่างมาก หยุนถิงสูดลมหายใจเข้าเฮือกหนึ่งโดยสัญชาตญาณ

โชคดีที่เมื่อครู่นี้นางไม่ได้พูดออกมาต่อหน้าฝ่าบาท ถ้าหากเป็นอย่างที่นางคาดเดาจริงๆ เกรงว่านางคงต้องโชคร้ายสุดๆแล้ว

หลิ่วเฟยเห็นสีหน้าที่ตึงเครียดเล็กน้อยของนาง ถึงได้เอ่ยปากขึ้นมา“คำพูดในวันนี้ ข้าเก็บเอาไว้ในใจมานานหลายปี ได้พูดออกมาก็รู้สึกโล่งไปมากแล้ว คำพูดพวกนี้เจ้าก็ทำเป็นไม่เคยได้ยินมาก่อน สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ลืมไปได้ก็ดี”

หยุนถิงรู้สึกซาบซึ้งใจเล็กน้อย“เพคะ ข้าจะปฏิบัติตามคำสั่ง”

หลิ่วเฟยหวังดีต่อนางด้วยใจจริง มิเช่นนั้นก็คงจะไม่กำชับเช่นนี้หรอก

“หากวันหน้าเจ้าได้พบกับพี่ใหญ่เจ้า ช่วยขอบคุณเขาแทนข้าด้วย บุญคุณที่ช่วยชีวิตข้าก็ไม่รู้ว่ายังจะมีโอกาสได้ตอบแทนหรือไม่” หลิ่วเฟยกล่าวอย่างทอดถอนใจ

หยุนถิงไม่ได้พูดอะไร มองดูหลิ่วเฟยที่โดดเดี่ยวเหงาหงอยเช่นนี้ จู่ๆนางก็รู้สึกเห็นอกเห็นใจนางเล็กน้อย

กำแพงวังลึก ความคับแค้นระทมทุกข์ เรื่องราวมากมายที่ไม่สามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเองและรักที่ไม่สมหวัง ไม่ใช่สิ่งที่นางจะสามารถควบคุมได้

“เช่นนั้นเหนียงเหนียงอยากพบพี่ใหญ่ข้า และขอบคุณเขาด้วยตัวเองหรือไม่?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ