ร้านค้าที่เขาเปิดดำเนินการในหลายปีมานี้ครอบคลุมทั้งสี่แคว้นจริงๆ แต่ก็มีบางแห่งที่ได้กำไรน้อย หรือไม่ก็ไม่ค่อยกำไรเท่าไหร่ ถึงขั้นขาดทุนก็มี หากให้หยุนถิงเข้าร่วมกับร้านค้าพวกนี้หรือไม่ก็ขายให้นาง เพียงแค่มีคนเพิ่มขึ้นมาไม่กี่คน ยังสามารถเก็บเงินได้ครึ่งหนึ่ง ถึงเวลาก็แบ่งเงินปันผลให้นางนิดหน่อย ดูเหมือนตัวเองยังกำไรอยู่
เมื่อคิดเช่นนี้ โม่ฉือชิงก็ยังอดรู้สึกชื่นชมความฉลาดของตัวเองในใจไม่ได้
เขาจงใจปั้นหน้าจริงจัง กระแอมไอสองเสียง“หาได้ยากที่เจ้าจะขอร้องข้าสักครั้ง ข้ารับปากเจ้าแล้วกัน แต่ว่าข้าบอกเอาไว้ก่อน ร้านค้าคฤหาสน์เจ้าไม่สามารถเลือกเอง ข้าต้องกลับไปคำนวณดูก่อน จะให้เจ้าส่วนไหนบ้าง ถึงเวลาเจ้าเตรียมเงินเอาไว้ก็พอ ต้องการจะจัดคนเข้าไปก็แจ้งล่วงหน้าคำหนึ่งก็พอ”
“ได้ ขอบคุณองค์ชายสี่มาก” หยุนถิงกล่าวขอบคุณ
“ไม่ต้องเกรงใจ เรื่องใหญ่แค่ไหนเชียว เช่นนั้นข้าขอตัวกลับไปก่อน” โม่ฉือชิงเดินออกไปอย่างวางมาด คราวนี้เขาทำกำไรได้มากมายแล้ว
ปกตินังหนูหยุนถิงคนนี้เฉลียวฉลาดอย่างกับจิ้งจอก หาได้ยากที่นางจะขอร้องตัวเอง จะต้องหากำไรให้มากๆให้ได้
หยุนถิงกลับเข้าไปในลาน ก็เห็นจวินหย่วนโยวยังถือพัดเคี่ยวยาอยู่ เดินเข้าไปนั่งอยู่ข้างกายของเขา“ข้าบอกกับองค์ชายสี่ว่าจะซื้อร้านค้าของเขาหรือไม่ก็ร่วมหุ้นในกิจการของเขา”
ใบหน้าของจวินหย่วนโยวเต็มไปด้วยความรังเกียจ“เช่นนั้นเกรงว่าเจ้าจะขาดทุนแล้ว”
“ไม่เป็นไร ข้าก็แค่ต้องการจะให้ทุกคนมีสถานที่ลงหลักปักฐาน ทำกำไรหรือไม่ก็ไม่เป็นไร อีกอย่างร้านค้าทำกำไรหรือไม่ก็อยู่ที่คนดูแลจัดการ ไม่แน่ว่าข้าอาจจะสามารถพลิกสถานการณ์ก็เป็นได้” หยุนถิงกล่าวอย่างได้ใจ
“ข้าเชื่อว่าเจ้ามีความสามารถนี้” สำหรับความสามารถของหยุนถิง จวินหย่วนโยวไม่เคยสงสัยมาก่อน
“ว้าว ซื่อจื่อท่านช่างตาแหลมจริงๆ ได้แต่งงานกับข้าก็แอบดีใจเถอะ”
“ฮ่าๆ ไม่ต้องแอบดีใจหรอก ดีใจอย่างเปิดเผยเลย” จวินหย่วนโยวหัวเราะเสียงดัง
หยุนถิงก็ถูกเขาหยอกจนยิ้มออกมาเช่นกัน เสียงของซื่อจื่อนุ่มนวล ทุ้มต่ำ แฝงความแหบแห้งและแรงดึงดูดเล็กน้อย ราวกับทำให้คนหลงใหลลุ่มหลง ไพเราะติดหู น่าฟังอย่างมาก
และตอนที่เขายิ้มขึ้นมา ไม่ได้เย็นชา ห่างเหิน ปฏิเสธคนไม่ให้ใครเข้าใกล้เหมือนในเวลาปกติ ตรงกันข้ามกลับเบิกบาน เป็นกันเอง ใกล้ชิดเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย ทำให้อยากจะเข้าใกล้อย่างอธิบายไม่ถูก
หยุนถิงเดินเข้ามา ยื่นมือไปกอดแขนของจวินหย่วนโยว“ซื่อจื่อ ตอนท่านยิ้มดูดีมากจริงๆ ต่อไปยิ้มเยอะๆหน่อยนะ”
“ได้ ฟังคำของเจ้า”
พ่อบ้านที่อยู่ไม่ไกลออกไปกำลังพาบ่าวรับใช้ยกอาหารเข้ามา ได้ยินเสียงหัวเราะที่เบิกบานของซื่อจื่อดังมาแต่ไกล คนทั้งคนรู้สึกตื่นเต้นสุดขีด
คิดไม่ถึงว่าซื่อจื่อจะหัวเราะออกมา หัวเราะออกมาจริงๆ แถมยังหัวเราะเสียงดังขนาดนั้น ช่างดีจริงๆ นี่ล้วนเป็นความดีความชอบของฮูหยินทั้งนั้น
เขาอยู่ในจวนซื่อจื่อมาสิบกว่าปี ตั้งแต่ท่านแม่ทัพกับฮูหยินเสียไป ซื่อจื่อก็ไม่เคยหัวเราะอีก แต่ตั้งแต่ฮูหยินแต่งงานเข้ามา รอยยิ้มบนใบหน้าของซื่อจื่อก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ เสียงหัวเราะที่ปราศจากความยำเกรงเช่นนี้ของเขา พ่อบ้านทั้งปลื้มใจและรู้สึกเอ็นดูสงสาร
มีเพียงแต่ฮูหยินเท่านั้น ที่สามารถทำให้ซื่อจื่อเป็นเช่นนี้ได้
พ่อบ้านรออยู่ครู่หนึ่ง ถึงได้พาคนเดินเข้าไป“บ่าวคำนับซื่อจื่อ ฮูหยิน นี่คืออาหารที่ส่งมาให้แม่นางซู”
“รบกวนพ่อบ้านแล้ว ยกเข้าไปเถอะ” หยุนถิงเอ่ยปาก
“ฮูหยินเกรงใจไปแล้ว” พ่อบ้านให้คนยกเข้าไปทันที วางอาหารลงแล้ว เขาก็พาบ่าวรับใช้จากไปทันที ไม่กล้ารบกวนซื่อจื่อกับฮูหยิน
“ซื่อจื่อ พรุ่งนี้เช้าข้าจะฝังเข็มอังความร้อนให้ท่านก่อน จากนั้นท่านต้องแช่ตัวในอ่างยาสมุนไพรหนึ่งวัน ถึงเวลาข้ากับหลิ่วเฟยไปค่ายทหารท่านก็ไม่ต้องไปแล้ว อีกสองวันจัดการเรื่องทางนี้เสร็จ เราก็ควรต้องเคลื่อนไหวแล้ว” หยุนถิงเอ่ยปาก
จวินหย่วนโยวอยากจะตามไปจริงๆ แต่เมื่อนึกถึงสุขภาพของตัวเอง เลยเลือกที่จะฟังหยุนถิง“ตกลง ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของฮูหยิน”
ซูหลินพยักหน้าอย่างแรง“ใช่แล้ว นางนี่แหละ ครั้งนี้ที่เจ้าป่วยโชคดีที่ได้คุณหนูใหญ่ช่วยรักษาให้เจ้า ไม่อย่างนั้นแม่ก็ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรแล้ว?”
หยุนถิงรู้สึกปวดใจอย่างยิ่ง เด็กไม่พูดโกหก ซูหลินต้องเคยพูดต่อหน้าเด็กบ่อยๆแน่นอน ซีหลิ่วถึงได้จำเอาไว้
ใบหน้าเล็กของซีหลิ่วตึงเครียด“ขอบคุณคุณหนูใหญ่มากสำหรับบุญคุณที่ช่วยชีวิต รอข้าโตขึ้นจะต้องตอบแทนบุญคุณของท่านแน่นอน”
“ซีหลิ่วเป็นเด็กดีจริงๆ ข้าไม่ต้องการให้เจ้าตอบแทน เจ้าดูแลร่างกายให้ดี สุขภาพแข็งแรงก็เป็นการตอบแทนที่ดีที่สุดสำหรับข้าแล้ว” หยุนถิงตอบ
“ขอบคุณคุณหนูใหญ่มากสำหรับบุญคุณที่ช่วยชีวิต วันหน้าขอเพียงคุณหนูใหญ่เอ่ยปากไม่ว่าจะเป็นวัวเป็นม้า หรือว่าบุกน้ำลุยไฟ ข้าก็จะไม่ปฏิเสธ ตอนนี้ซีหลิ่วไข้ลดแล้ว พรุ่งนี้ข้าก็จะพาซีหลิ่วจากไป”
“ไม่เอาท่านแม่ ข้าไม่อยากจะกลับไป ท่านพ่อเอาแต่ตีข้าตลอด ท่านย่าก็มักจะด่าว่าข้ายังไม่ให้ข้ากินข้าวด้วย ข้าไม่อยากให้ท่านแม่ไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะข้า” ซีหลิ่วร้องไห้ตะโกนออกมา
ซูหลินกระอักกระอ่วนอย่างยิ่ง“ให้คุณหนูใหญ่หัวเราะเยาะแล้ว เด็กๆพูดจาไปเรื่อยน่ะ”
หยุนถิงเห็นอกเห็นใจและเอ็นดูสงสารอย่างยิ่ง เดินเข้ามาแล้วมองไปทางซีหลิ่ว“ซีหลิ่วไม่ต้องกลัวนะ เจ้าบอกข้ามาว่าท่านพ่อกับท่านย่าของเจ้าปฏิบัติต่อเจ้าและท่านแม่อย่างไร?”
“ท่านพ่อมักจะเฆี่ยนตีข้ากับท่านแม่ หากว่าข้าวิ่งหนี เขาก็ไล่ตีข้า ทุกครั้งที่ท่านพ่อเสียพนันกลับมาก็จะระบายความโกรธกับท่านแม่ ท่านย่าก็นั่งดูอยู่ด้านข้าง ด่าว่าท่านแม่ด้วยกัน
ทุกครั้งที่ท่านแม่ออกไปทำงาน ท่านย่าก็จะด่าว่าทุบตีข้า ยังแย่งโมโมที่ท่านแม่เก็บเอาไว้ให้ข้าไปกินอีกด้วย บอกว่าข้าคือตัวขาดทุนกินไปก็ไม่มีประโยชน์ หากข้าบอกท่านแม่ นางก็จะให้ท่านพ่อตีข้า
คุณหนูใหญ่ขอร้องท่านได้โปรดช่วยข้ากับท่านแม่ด้วยเถอะ ข้าไม่อยากกลับไปอีกแล้ว มิเช่นนั้นข้ากับท่านแม่ต้องถูกตีตายแน่ ข้ารู้ว่าที่ท่านแม่ทนมาตลอดหลายปีมานี้ก็เพื่อข้า แต่ว่าข้าไม่อยากให้ท่านแม่ถูกตีแล้ว” ซีหลิ่วร้องไห้ปรับทุกข์ น้ำตาไหลอาบหน้า
เบ้าตาของซูหลินก็แดงก่ำเช่นกัน อดกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมา ไม่อยากจะแสดงความอ่อนแอออกมาต่อหน้าลูก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...