จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 158

หยุนไห่เทียนมองดูชุดหรูหรา การประทินโฉมงดงามของหลิ่วเฟย เทียบกับเมื่อหลายปีก่อนแล้ว นางดูจะมีความมั่นคงและสุขุมมากขึ้น

“เหนียงเหนียงกล่าวเกินไปแล้ว ตอนนั้นกระหม่อมกับหลิวเฉิงอวิ่นออกไปปราบกบฏ ไม่คิดว่าจะพบเหนียงเหนียงปลอมองค์เป็นทหาร เรื่องสมควรแล้ว เหนียงเหนียงมิจำเป็นต้องใส่ใจดอก” หยุนไห่เทียนตอบ

“สำหรับแม่ทัพหยุนอาจเป็นเรื่องสมควรแล้ว แต่สำหรับข้ามันคือบุญคุณที่ช่วยชีวิต ถ้าหลังจากนี้ท่านแม่ทัพต้องการความช่วยเหลืออันใด ขอเพียงเอ่ยปาก ข้าจะมิอิดเอื้อนอย่างแน่นอน” หลิ่วเฟยพูดด้วยสีหน้าขึงขัง

“กระหม่อมขอบพระทัยเหนียงเหนียง” หยุนไห่เทียนถวายบังคมอย่างนอบน้อม

ทางด้านโม่ฉือหานก็ไม่คิดมาก่อนเลยว่า หยุนถิงจะรู้มากขนาดนี้ เขาเป็นคนฝึกยุทธ์ เข้าใจเรื่องจุดชีพจรมาแต่เล็ก จุดนี้ยังฟังจนเหม่อลอย

หยุนถิงเหล่มองโม่ฉือหานที่ยืนฟังนิ่งอย่างประหลาดใจหนักขึ้น หมอนี่ไม่เพียงไม่ห้ามปรามเธอ ยังฟังอย่างตั้งใจอีก ถ้าไม่ใช่เพื่อทหารเหล่านี้ หยุนถิงไม่สอนหรอก หลีอ๋องนี่กลับแอบเรียนขึ้นมาซะงั้น

ไม่เป็นไร เห็นแก่หน้าทหารเหล่านี้ หยุนถิงขี้เกียจถือสาเขา ขอแค่เขาไม่รบกวนก็พอแล้ว

แต่ฟู่อี้เฉินกลับกัดฟันกรอดค่อนแคะ บ่นนั่นนี่ไม่หยุด ทำเอาหยุนถิงรำคาญหนักมาก

“หยุนถิง นี่เจ้าไหวหรือเปล่านี่ พูดจริงรึ ข้าฟังแล้วดูไม่น่าเชื่อเลย?” ฟู่อี้เฉินสงสัย

หยุนถิงมองท่าทางเย่อหยิ่งชี้นิ้วสั่งของเขาแล้ว เข้าไปลากตัวฟู่อี้เฉินมา “ในเมื่อฟู่ซื่อจื่อไม่เชื่อ งั้นให้ท่านมาทดลองดูสักหน่อยแล้วกันว่า ที่ข้าพูดน่ะถูกต้องหรือไม่?”

หยุนถิงไม่ให้โอกาสเขาเถียงสักนิด เธอโจมตีไปที่จุดชีพจรบางจุดของเขาทันที

“อ๊าก!” ได้ยินเพียงเสียงฟู่อี้เฉินร้องด้วยความเจ็บปวด ขยับตัวไม่ได้เลย ล้มลงพื้นอย่างแรง

หยุนถิงไม่คิดจะพยุงเขาเลยสักนิด “ทุกคนเห็นแล้วกระมัง นี่เป็นความร้ายกาจของจุดชีพจร หากซัดโดนจุดจุดชีพจรนี้ของศัตรู ศัตรูก็ไม่อาจขยับตัวได้แล้ว”

“หยุนถิง เจ้ากล้าลอบโจมตีข้า ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่” ฟู่อี้เฉินถลึงตาใส่อย่างเดือดดาล

“ซื่อจื่อพูดเช่นนี้ก็ไม่ถูก ท่านสงสัยข้ามิใช่รึ ข้าย่อมต้องสอนด้วยตัวเองสิ และในเมื่อฟู่ซื่อจื่อเป็นลูกผู้น้องของฝ่าบาท รับเงินเดือนมากมายขนาดนั้นทุกปี ย่อมต้องเสียสละเพื่อแคว้นต้าเยียนสักเล็กน้อยกระมัง ไม่เช่นนั้นจะสมกับฐานะซื่อจื่อของท่านได้อย่างไร” หยุนถิงย้อน

ฟู่อี้เฉินโกรธจนหน้าทะมึน “หยุนถิง เจ้าอย่ามาเปลี่ยนเรื่อง ข้ามิต้องการสักนิด รีบทำให้ข้ายืนขึ้นซะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ละเว้นเจ้าแน่”

หยุนถิงไม่สนใจเลยสักนิด เหล่มองเหล่าทหาร “หากมีใครพูดจาพล่ามไร้สาระ ฟังแล้วหนวกหู พวกเจ้าก็จี้จุดชีพจรนี้ของเขา” ระหว่างพูด ก็จี้จุดใบ้ของฟู่อี้เฉิน

ฟู่อี้เฉินที่เดิมอาละวาดด่าไม่หยุดพลันพูดอะไรไม่ออก ขยับก็ไม่ได้ ถลึงตาใส่หยุนถิงอย่างเดือดดาล หากสายตาสามารถฆ่าคนได้ หยุนถิงคงจะโดนฆ่าไปแปดร้อยครั้งแล้ว

แต่หยุนถิงไม่แยแสเลยสักนิด ยังคงเอาฟู่อี้เฉินสอนต่อ และสอนจุดจุดชีพจรทั้งหมดที่สอนทหารไปเมื่อครู่กับฟู่อี้เฉินครบทั้งหมด

ฟู่อี้เฉินที่เดิมโกรธจัดระคนอับอายคราวนี้สีหน้าเคียดแค้น เดือดดาล ทรมาน บิดเบี้ยว---ทุกสีหน้า ทำเอาทุกคนอดเห็นใจไม่ได้ สุดท้ายกลายเป็นหายใจรวยริน

หยุนถิงถึงยกมือกลับ “ขอบคุณความช่วยเหลือในวันนี้ของฟู่ซื่อจื่อมาก ข้าขอขอบคุณท่านแทนทหารทั้งหลาย” พูดเสร็จ ก็คลายจุดให้เขา

“หยุนถิง ข้าจำเจ้าไว้แน่ รอก่อนเถอะ” แม้แต่แรงจะด่าคน ฟู่อี้เฉินก็ไม่เหลือแล้ว

“ขอรับ” เหลยถิงรีบเปิดมู่ลี่รถ ลากตัวฟู่อี้เฉินลงมา

“โม่ฉือหาน ไอ้เลว เจ้ากล้าทิ้งข้าไว้ที่นี่ น่าตายนัก เจ้าจำไว้เลย ไม่ช้าก็เร็วเจ้าต้องเจอดีแน่!” ฟู่อี้เฉินด่ากราด

ค่ายทหารชานเมืองทิศตะวันออกอยู่นอกเมืองหลวง สถานที่รกร้างเช่นนี้อย่าว่าแต่คนเลย ต่อให้รถสักคันก็ไม่มีผ่าน ฟู่อี้เฉินแค้นนัก เขาเจ็บปวดไปทั้งตัว ถ้าเดินกลับไปก็ต้องเดินสี่ชั่วยาม เขาสุขสบายแต่เด็ก ไหนเลยจะเคยเดินทางไกลได้ขนาดนั้น

และยังโดนหยุนถิงฝังเข็มมั่วไปหมด ฟู่อี้เฉินโกรธจัด สุดท้ายได้แต่ย้อนกลับไปทางเดิม ทำหน้าหนาไปหาหยุนไห่เทียนที่ค่ายทหาร

อีกทางหนึ่ง หยุนถิงส่งหลิ่วเฟยถึงหน้าพระราชวังเสร็จแล้วถึงจากไป และไม่รู้ว่าซื่อจื่อกลับมาแล้วหรือไม่ หยุนถิงคิดในใจ ก่อนเร่งฝีเท้ามากขึ้น

รถม้ามุ่งตรงไปจวนซือจื่อ ระหว่างทางหยุนถิงให้คนไปซื้อขนมพุทราน้ำผึ้งมาหนึ่งชิ้น และขนมประเภทเค้ก ขนม น้ำตาลอีกมากมาย อย่าพูดไปเหนื่อยมาทั้งวัน เธอหิวแล้วจริงๆ

รถม้าของหยุนถิงแล่นไปทางจวนซือจื่อ ส่วนรถม้าของจวินหย่วนโยวแล่นไปทางทิศตะวันตกของเมือง ด้านหลังยังมีของอีกหลายคันรถ ทั้งสองคนค่อยๆห่างกันไปเรื่อยๆ

ในเรือนหนึ่งของทิศตะวันตกของเมือง สตรีหลายสิบคนรวมตัวกัน บางคนเด็ดผัก บางคนซักผ้า บางคนฝึกยุทธ์ บางคนฝึกหมัดมวย เรือนที่ไม่ใหญ่อยู่แล้วดูจะแออัดไปสักหน่อย

“ข้าได้ยินว่าลูกของซูหลินป่วยหนัก สามีสารเลวของนางไม่อยากช่วยลูก กลับจะไปพนัน สุดท้ายเจอคุณหนูใหญ่ โดนคุณหนูใหญ่เตะกระเด็น” สตรีผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น

“ข้าเองก็ได้ยินมาว่า คุณหนูใหญ่ช่วยซูหลินและลูกสาวของนาง ยังพาพวกเขากลับไปจวนซือจื่อด้วย”

“พวกเจ้าคงมิได้ซี้ซั้วพูดกระมัง คุณหนูใหญ่คนนั้นของพวกเรานิสัยอย่างไร ทุกคนมิรู้รึ ยังไงซะข้าก็ไม่เชื่อ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ