ไม่มีใครตอบ ทุกคนพากันเงียบ
นี่เป็นสิ่งที่พวกนางคาดหวังที่สุด และก็เป็นความเชื่อและเป้าหมายของพวกนางทั้งหมด แต่คุณหนูใหญ่จะทำได้จริงหรือไม่ ไม่มีใครรู้
แต่วันนี้จวินซื่อจื่อพูดอย่างนี้ ทำให้ทุกคนที่เดิมผิดหวังกับหยุนถิง เริ่มเกิดประกายคาดหวังและรอคอยขึ้นใจอย่างน่าประหลาด
ระยะนี้หยุนถิงสะท้านสะเทือนไปทั้งเมืองหลายครั้ง ข่าวลือเกี่ยวกับนางไม่เคยหายไป ทุกคนก็เคยได้ยินเช่นกัน
เพียงแต่ไม่มีใครเชื่อว่า คุณหนูใหญ่ผู้เย่อหยิ่งที่ไร้ค่า เอาแต่ใจจองหองจะเปลี่ยนเป็นคุณหนูที่มากด้วยฝีมือความสามารถได้ ไม่ว่าใครที่ไหนก็ไม่มีทางเชื่อดอก ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นคนที่เคยถูกนางกแกล้งลบหลู่ทรมานมาก่อนด้วย
แต่หลังจากวันนี้ ทุกคนเริ่มรอคอย เพราะคุณหนูใหญ่เป็นลูกสาวของฮูหยิน บางทีนางอาจจะทำได้จริงก็เป็นได้
ทางนี้ พวกจวินหย่วนโยวนั่งรถม้ากลับไปยังจวนซือจื่อ และได้เห็นหยุนถิงที่กลับมาแล้ว
“ซื่อจื่อ พวกท่านไปไหนกันมารึ?” หยุนถิงถาม
“ข้าพาซีหลิ่วออกไปเดินเล่น และไปซื้อของกินให้นางด้วย” จวินหย่วนโยวตอบ ไม่ได้พูดเรื่องที่ไปเยี่ยมเยือนกองทัพขนหงส์เลยสักนิด
“คุณหนูใหญ่ ซื่อจื่อเอื้ออาทรใจกว้าง เสนอว่าจะพาพวกเราออกไป” ซูหลินตอบ
พวกรั่วจิ่งยืนกอดห่อผ้าไว้ และยังของกินมากมายเข้าไป หยุนถิงมองดูแล้วไม่ได้คิดอะไรมาก “ซื่อจื่อช่างใจดีเสียจริง กลายเป็นข้าละเลยไปเสียได้ ซีหลิ่วกำลังโต ของพวกนั้นไม่ต้องแล้ว เปลี่ยนเป็นของใหม่ ต้องการอะไรเจ้าบอกกับพ่อบ้านก็ได้แล้ว”
“ขอบพระคุณคุณหนูใหญ่ งั้นข้าพาซีหลิ่วเข้าไปก่อนนะเจ้าคะ” ซูหลินจูงซีหลิ่วเข้าไป
จวินหย่วนโยวเดินเข้ามา “กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่รึ วันนี้ออกไปเหนื่อยแล้วกระมัง”
หยุนถิงยื่นมือไปดึงมือจวินหย่วนโยว “พึ่งกลับมาได้ไม่นาน ยังดีอยู่ แต่วันนี้ข้าเจอหลีอ๋องกับฟู่อี้เฉินที่ค่ายทหาร จากนั้นก็เอาฟู่อี้เฉินมาเป็นตัวทดลอง สอนทุกคนรู้จักจุดชีพจร ฟู่อี้เฉินบอกว่าจะไม่ละเว้นข้าแน่”
“ไม่ต้องกลัว หากเขากล้าแตะต้องเจ้า ข้าจะให้เขาเสียใจที่ได้เกิดมาบนโลกนี้” จวินหย่วนโยวปกป้องภรรยาอย่างองอาจ
หยุนถิงซาบซึ้งใจยิ่งนัก “ข้ารู้ว่าซื่อจื่อรักข้าที่สุดเลย ร่างกายของท่านเป็นอย่างไรบ้าง พึ่งแช่น้ำยามาพักผ่อนก่อนเถอะ อย่าเอาแต่ออกไปข้างนอก หากต้องการทำอะไรก็ให้พวกหลิงเฟิงเขาไปจัดการ”
“ได้” จวินหย่วนโยวพยักหน้า
ทั้งสองคนจับมือกันเดินเข้าไป พ่อบ้านได้ตระเตรียมอาหารไว้แล้ว ซูหลินกับซีหลิ่วก็มาร่วมทานอาหารโต๊ะเดียวกันด้วย
“ร่างกายซีหลิ่วเป็นอย่างไรบ้าง?” หยุนถิงมองมาอย่างเป็นห่วง
“พี่สาว ข้าหายดีแล้วล่ะ” ซีหลิ่วตอบ
“ขอบพระคุณยาของคุณหนูใหญ่ ซีหลิ่วไม่เป็นอะไรแล้ว ยานี้ใช้ดียิ่ง” ซูหลินตอบอย่างซาบซึ้ง
“ใช้ดีก็ดีแล้ว ข้ากับซื่อจื่อคิดจะไปเทศกาลดอกท้อวันพรุ่งนี้ พวกเจ้าอยากไปด้วยกันหรือไม่?” หยุนถิงถาม
“ไม่ต้องหรอกคุณหนูใหญ่ ซีหลิ่วพึ่งหายดี ข้าอยากให้นางพักผ่อนสักหลายวัน อีกอย่างนั่นสำหรับผู้ใหญ่ไป เด็กไม่มีอะไรเล่นดอก และผู้คนมากมายนัก ให้นางอยู่บ้านข้าจะสบายใจกว่า” ซูหลินตอบ
“พี่สาว ข้าจะเรียนเขียนหนังสืออยู่ที่บ้าน จะออกจากบ้านไปเล่นไม่ได้ ข้าจะเร่งรีบทำให้ตนเองกล้าแกร่งขึ้นมา” ซีหลิ่วสีหน้าตึงเครียด จริงจังมาก
หยุนถิงถูกท่าทางนางทำขบขัน “ดีนี่ งั้นฟังซีหลิ่วละกัน”
กินข้าวเสร็จ หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวกลับไปที่ห้อง “ซื่อจื่อท่านนอนลงพักผ่อนก่อนเถอะ ล่าช้ามาหลายวันแล้ว อาศัยที่ฤทธิ์ยายังไม่หายไป พรุ่งนี้ค่อยไปแล้วกัน”
หยุนถิงกำลังจะผลักเขาออก จวินหย่วนโยวผละออกอย่างรู้ทัน “นอน เจ้าตื่นเช้ามาก และยังยุ่งจนถึงตอนนี้ พรุ่งนี้ยังต้องเร่งเดินทาง อาศัยโอกาสนี้พักผ่อนให้มากหน่อยเถิด”
หยุนถิงคิดๆก็จริง เธอหลับตาเอนตัวพิงอ้อมกอดของจวินหย่วนโยว อาจเพราะเหนื่อยเกินไป หยุนถิงไม่นานก็หลับไป
จวินหย่วนโยวฟังเสียงลมหายใจสม่ำเสมอของนาง แล้วถึงลืมตาขึ้น เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าดำเมี่ยมในอ้อมกอด ประกายขบขันในแววตาเขายิ่งมากขึ้น และหลับตาลงเช่นเดิม จากนั้นหลับไป
ในห้องที่กว้างขวาง เหลือเพียงเสียงลมหายใจแผ่วเบาของคนสองคน ช่างอบอุ่นยิ่งนัก
.......
พระราชวัง
หลังจากหลิ่วเฟยกลับไป ก็ให้ห้องเครื่องตุ๋นน้ำแกง จากนั้นก็พาสาวใช้และน้ำแกงไปเข้าเฝ้าฝ่าบาท
นี่เป็นครั้งแรกที่หลิ่วเฟยออกจากตำหนัก ปกตินางมักจะอยู่ในตำหนักตนไม่ใคร่จะยอมออกมา ดังนั้นพอฝ่าบาทได้ยินซูกงกงมากราบทูลว่า หลิ่วเฟยขอเข้าเฝ้า ก็ประหลาดใจมาก รีบให้นางเข้ามาทันที
พอเห็นชุดเสื้อสีอ่อนของหลิ่วเฟย ดูเรียบง่ายสง่า ฮ่องเต้มีแววเป็นห่วง “สนมข้าวันนี้มาได้อย่างไรกัน ออกไปข้างนอกมาเหตุใดไม่พักผ่อนให้มากๆ?”
“หม่อมฉันถวายบังคมฝ่าบาท หม่อมฉันออกไปครั้งนี้ถึงได้รู้ว่า ที่แท้เหล่าทหารลำบากยิ่งนัก พอมาเทียบกับการกล่าวโทษตนเองของหม่อมฉันแล้ว กลายเป็นหม่อมฉันใจแคบไปแล้ว ดังนั้นหม่อมฉันจึงตั้งใจตุ๋นน้ำแกงมาขอบพระทัยฝ่าบาท ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ให้หม่อมฉันออกจากวังครั้งนี้ หม่อมฉันจิตใจใสกระจ่างเปิดโลกขึ้นมาก และได้เรียนรู้อะไรมากมาย” หลิ่วเฟยถวายบังคมอย่างเคารพ
ฮ่องเต้ดีใจนัก เมื่อก่อนหลิ่วเฟยเป็นคนมีนิสัยไม่แย่งไม่ยุ่ง ปล่อยไปตามสบาย เขาเคยคิดหาหนทางมากมายมาทำให้นางพอใจ แต่ไม่ว่าเขาใช้วิธีใดก็ตาม ก็ไม่อาจแลกรอยยิ้มของหลิ่วเฟยมาได้ วันนี้นางทำเช่นนี้มันทำให้ฮ่องเต้ประหลาดใจนัก
“สนมข้าออกไปครั้งนี้ดูจะร่าเริงขึ้นมากนัก หรือว่าเกิดเรื่องสนุกอะไรขึ้นรึ?” ฮ่องเต้ถาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...