จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 179

หยุนถิงตื่นนอนก็สายมากแล้ว ร่างกายของนางปวดระบมราวกับถูกรถทับ พอนึกได้ว่าตนเองถูกจวินหย่วนโยวทรมานทั้งคืน หยุนถิงก็เบะปากทันที

“หรือฮูหยินจะไม่พอใจการแสดงของข้าเมื่อคืนนี้ เรามาทำอีกสักรอบดีหรือไม่” เสียงแหบพร่าของจวินหย่วนโยวดังขึ้น เขาจงใจเป่าลมใส่หูของหยุนถิง

มันอุ่นๆ และคันมาก ทำให้หยุนถิงหน้าแดงก่ำทันที “ซื่อจื่ออย่าอาละวาด”

“ข้าไม่ได้อาละวาด แต่ข้าจริงจัง”

“หยุดเลยนะ ข้ายังต้องไปเข้าร่วมการแข่งขัน” หยุนถิงพูดอย่างภาคภูมิใจ

“มันก็แค่การแข่งขัน ไม่มีประโยชน์อะไร หรือว่าวันนี้เราจะไม่ออกไปข้างนอกดี” จวินหย่วนโยวยื่นนิ้วเรียวยาวของเขาออกมาม้วนผมของหยุนถิงเล่น

“ซื่อจื่อที่ข้าสนใจไม่ใช่ชนะแพ้ แต่คือการเอาชนะโม่ฉือหาน เขาไม่มีทางอยากให้ข้าชนะการแข่งขันแน่นอน”

“ตกลง” จวินหย่วนโยวต้องยอมลุกขึ้นอย่างไม่เต็มใจ ก่อนจะหยิบชุดของบุรุษเปลี่ยนให้หยุนถิง

“ซื่อจื่อ ทำไมวันนี้ข้าต้องใส่ชุดบุรุษด้วย”

“วันนี้เจ้ามีการแข่งขัน ต้องแข่งทำอาหาร ใส่ชุดของบุรุษจะสะดวกกว่า” จวินหย่วนโยวตอบกลับ

เมื่อคืนนางในชุดหญิงสาวงดงามมาก และสายตาของผู้ชายเหล่านั้นก็เพ่งมองมาที่นาง ถ้าให้นางสวมชุดของหญิงสาวออกไป คงทำให้ทุกคนหลงใหล จวินหย่วนโยวไม่อยากให้คนเหล่านั้นจ้องมองผู้หญิงของเขาด้วยสายตากระหาย

หยุนถิงคิดดูแล้วรู้สึกว่าที่เขาพูดมาก็มีเหตุผลจริงๆ ดังนั้นนางจึงไม่คัดค้านอะไร

ทั้งสองลุกขึ้นมา ก่อนจะทานอาหารกลางวัน และไปที่สถานที่จัดงานแข่งขัน

ช่วงบ่ายเป็นการแข่งขันสุดท้ายของรอบคัดเลือก ผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดมาถึงสนามแข่งก่อนเวลา เพื่อทำการตรวจวัตถุดิบ อุปกรณ์เครื่องใช้ และเตรียมทุกอย่างให้พร้อม

ทันทีที่หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวปรากฏตัวบนเวที พวกเขาก็ดึงดูดความสนใจของทุกคนไปทันที

วันนี้หยุนถิงไม่ได้ทาใบหน้าของนางจนดำแล้ว แต่ทำการมัดผมของนางขึ้น สวมชุดของบุรุษสีขาวไข่มุก ท่าทางสง่างามและทะมัดทะแมง เหมือนคุณชายผู้โดดเดี่ยวและมีอิสรภาพ

หยุนถิงยกยิ้มมุมปาก เป็นรอยยิ้มเจ้าเสน่ห์ ทำให้หญิงสาวทุกคนในงานต่างพากันกรีดร้องกรีดร้องอย่างตื่นเต้นและดีใจทันที

นางเป็นได้ทั้งฝ่ายดีและฝ่ายร้าย เป็นได้ทั้งปีศาจและมารร้าย บุคลิกของผู้ชายและผู้หญิงเปลี่ยนไปมาได้ตามที่ต้องการ ทั้งซับซ้อนและไร้เดียงสา ทำให้ผู้คนไม่สามารถละสายตาไปจากนางได้

ห่างออกไปไม่ไกล ตอนที่โม่ฉือหาน เห็นหยุนถิงในชุดนี้ ดวงตาสีดำสนิทของเขาก็ฉายแววดีใจ และในขณะเดียวกันในใจก็ยิ่งโมโหมากขึ้น เขาก็อยากจะคอยดูว่าวันนี้หยุนถิงจะยังหยิ่งผยองได้หรือไม่

“พี่หญิงใหญ่ การแข่งขันในตอนบ่ายพยายามเข้า พวกเราจะได้เข้ารอบรองชนะเลิศไปด้วยกัน” หยุนหลิงเดินเข้ามา และพูดด้วยท่าทางเป็นห่วงเป็นใย

หยุนถิงเหลือบตามองนาง“เจ้ามาที่นี่เพื่อโอ้อวดข้าว่าเจ้าผ่านรอบแรกไปได้แล้วเช่นนั้นหรือ”

หยุนหลิงตีหน้าเศร้า “พี่หญิงใหญ่ พี่พูดเช่นนั้นได้อย่างไรกัน ข้าแค่หวังว่าพี่จะสามารถเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้”

“ไม่ต้องห่วง ข้าเข้ารอบรองชนะเลิศได้อย่างแน่นอน เพราะข้ามาเพื่อเป็นที่หนึ่ง”

อวดดี หยิ่งผยอง แต่กลับทั้งมุ่งมั่นและตั้งใจ ผู้ชายทุกคนที่อยู่ตรงนั้นเห็นแล้วยิ่งรู้สึกลุ่มหลงเข้าไปอีก

“พี่หญิงใหญ่ ข้าเชื่อว่าพี่จะต้องผ่านเข้ารอบได้สบายๆ แน่นอน” หยุนหลีเดินเข้ามาแล้วพูด

“พี่หญิงใหญ่ พวกเราเชื่อในทักษะการทำอาหารของพี่” หยุนซูเอ่ยพูด

“วางใจได้” หยุนถิงกล่าวอย่างได้ใจ

พอหยุนหลิงเห็นท่าทีของหยุนถิงที่มีต่อหยุนหลีกับหยุนซูแล้ว นางก็รู้สึกอิจฉามาก นางรีบหันหลังกลับและเดินจากไปด้วยความโกรธ

หลังจากองค์ฮ่องเต้ หลิ่วเฟยกับเหมยเฟยนั่งลง ทุกคนถึงได้นั่งลงตาม และบรรยากาศภายในงานจึงเริ่มตึงเครียด

เขาเป็นคนรับผิดชอบจัดการแข่งขันในครั้งนี้ พวกช้อนส้อมและหม้อของหยุนถิงมีปัญหาทุกชิ้น ดังนั้นต้องมีคนจงใจกลั่นแกล้งแน่ๆ

โม่ฉือหานสัมผัสได้ถึงสายตาที่มองมาที่เขา สีหน้าของเขาเรียบนิ่งเหมือนปกติ ไม่มีท่าทีร้อนตัวใดๆ

ทั้งสองสบตากัน ความเย็นชาและความเกลียดชังที่มองไม่เห็นของทั้งสองสะท้อนไปมาระหว่างคนทั้งสองคนแอบต่อสู้กันลับๆ

“ฝ่าบาท อุปกรณ์ที่คุณหนูหยุนใช้ในการแข่งขันมีปัญหาแทบจะทุกชิ้น เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะมีคนสับเปลี่ยนของนางเพคะ” หลิ่วเฟยเอ่ยถามด้วยท่าทางตกใจ

“หลีอ๋องเป็นคนดูแลจัดงานทั้งหมด ถึงแม้หลีอ๋องจะมีเรื่องบาดหมางกับคุณหนูหยุน แต่เขาก็คงไม่ทำเรื่องแบบนั้นออกมา” เหมยเฟยพูดเสียงเบา

คำพูดเหล่านี้ดูเหมือนจะพยายามพูดแก้ตัวให้หลีอ๋อง แต่ที่จริงกลับเป็นการชี้ให้เห็นความน่าสงสัยของหลีอ๋อง องค์ฮ่องเต้เองก็สงสัย ดังนั้นเขาจึงมองเห็นความผิดปกติในนั้นทันที

แต่ฮ่องเต้กลับไม่หันไปมองทางหยุนถิง ใครใช้ให้ก่อนหน้านี้นางเข้าพบเขาด้วยสีหน้าอัปลักษณ์ ถือเป็นการให้บทเรียนนางก็แล้วกัน

“ในเมื่อเป็นการแข่งขัน ก็ต้องปฏิบัติตามกฎของการแข่งขัน หยุนถิงมีแนวคิดใหม่ๆ และมีไหวพริบดีแก้ไขพลิกแพลงสถานการณ์ได้แน่นอน” ฮ่องเต้กล่าวเสียงเรียบ

หลิ่วเฟยกับเหมยเฟยไม่พูดอะไรอีก แต่พวกนางต่างก็แอบหลั่งเหงื่อเย็นแทนหยุนถิง

ในทางตรงกันข้าม หยุนถิงกลับไม่ร้อนรน นางหยิบเชือกที่ขาดบนพื้นขึ้นมาดู ก่อนที่ลงมือต่อ

หยุนถิงชำเลืองมองไปที่เหล้าหวาน ครั้งนี้นางไม่ได้เตรียมการล่วงหน้า ก่อนหน้านี้ทั้งสองครั้งต่างก็เกิดปัญหาดังนั้นในเหล้าหวานเองก็คงมีปัญหาเช่นกัน หยุนถิงหยิบช้อนขึ้นมา แล้วเทเหล้าหวานลงบนช้อน

ก้อนจะเห็นว่ามีแมลงสีดำอยู่ในเหล้าหวานด้วย ดูไปแล้วน่าขยะแขยงเอามากๆ เลย

หยุนถิงรีบโยนช้อนทิ้งทันที “ฝ่าบาท มีคนใส่แมลงในเหล้าหวานของหม่อมฉันเพคะ”

“หยุนถิง กฎของการแข่งขันได้ระบุไว้อย่างชัดเจนแล้ว หากมีอะไรผิดพลาด ให้หาวิธีแก้ไขด้วยตัวเอง เป็นความผิดของเจ้าเองที่ไม่ตรวจสอบวัตถุดิบอุปกรณ์ล่วงหน้า ตอนนี้จะขอให้เปลี่ยนวัตถุดิบอุปกรณ์ให้เจ้าใหม่ ถือเป็นการฝ่าฝืนกฎ เจ้าจะโทษได้เพียงตัวเองเท่านั้น” โม่ฉือหานตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ