โม่ฉือหานโมโหเป็นอย่างยิ่ง "นี่ไม่ใช่ห้องครัวบ้านเจ้า ไม่อาจปล่อยให้เจ้าบังอาจได้เช่นนี้"
"คำพูดนี้ของหลีอ๋องไม่ถูก ห้องครัวของจวนซื่อจื่อดีกว่านี้ตั้งเยอะเลย" หยุนถิงกล่าวอย่างดูถูก
"ฮูหยินของข้าไม่ได้ละเมิดกฎ เกรงว่าคงเป็นเพราะหลีอ๋องอิจฉาที่ข้าได้กินขนมดอกท้อที่ฮูหยินข้าทำ จึงรู้สึกเจ็บใจ" จวินหย่วนโยวตอบกลับอย่างดุดัน
“ข้าไม่อยากกินของที่หยุนถิงทำซะหน่อย” โม่ฉือหานตะโกนด้วยความโกรธ
"เช่นนี้ก็ดีที่สุดแล้ว" หยุนถิงไม่ได้รู้สึกโกรธสักนิดเลย กลับไปตักน้ำแกงดอกท้อและเหล้าดอกท้อมาอีกชาม
นางไม่ได้ให้จวินหย่วนโยวกินเอง แต่เป็นคนป้อนให้เขา จวินหย่วนโยวมองดูสีหน้าที่ผิดหวัง อิจฉา และใจแตกสลายของผู้ชายทุกคนที่อยู่ในนี้ โดยรู้สึกพอใจเป็นอย่างยิ่ง
หยุนถิงกลับไป นำขนมดอกท้อยกไปให้หยุนหลี ตักน้ำแกงดอกท้อในหม้อใหญ่นั้นแล้วแบ่งให้กับหลิงเฟิงและคนอื่นๆ ส่วนเหล้าดอกท้อก็ให้องค์ชายสี่ไป
ทุกคนกินแล้วต่างก็ชมไม่ขาดปาก ดีใจเป็นอย่างยิ่ง
"พี่ใหญ่ ฝีมือของเจ้ายอดเยี่ยมยิ่งนัก นี่เป็นขนมดอกท้อที่อร่อยที่สุดเท้าที่ข้าเคยกินมา" หยุนหลีพูดชมเชย
"พี่ใหญ่ทำได้อร่อยมาก" หยุนซูกล่าว
โม่หลานไม่มีแม้แต่เวลาพูดเลย กินหมดชิ้นหนึ่งก็จะกินอีกชิ้น แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นสีหน้าที่มืดครึ้มของพี่ชายตัวเอง จึงค่อยมอบอีกชิ้นให้พี่ชายอย่างไม่เต็มใจ
องค์ชายสี่ที่อยู่ในตำแหน่งผู้ตัดสินนั้นได้ใจยิ่งนัก คนอื่นไม่มี ให้เพียงเขาผู้เดียว ซึ่งเห็นได้ชัดว่าหยุนถิงยังถือว่ามีน้ำใจอยู่เล็กน้อย
เขาหยิบมันขึ้นมาแล้วดื่มไปสองคำ ก็เห็นหน้าที่มืดครึ้มของเสด็จพี่ และยิ้มอย่างเขินอาย "เสด็จพี่ เหล้าดอกท้อข้าดื่มไปแล้ว หากเจ้าไม่รังเกียจ ข้าเหลือไว้ให้เจ้าหน่อย"
จักรพรรดิเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในแผ่นดิน ปกติแล้วทั้งของกินและของดื่มก็ต้องตรวจพิษและลองกินดูก่อน จะกินของเหลือของคนอื่นได้อย่างไร
“ไม่เป็นไร เจ้าดื่มเองเถอะ” ฝ่าบาททำเสียงเชอะ
องค์ชายสี่ยกขึ้น เงยหน้าดื่มหมดเลยในทีเดียว
หยุนถิงเก็บของกินหนึ่งส่วนไว้โดยเฉพาะ และแบ่งให้กับอู่เสี่ยวหร่านและมู่ซิวหลัน
“คุณหนูหยุน ท่านเอาของกินแบ่งให้พวกข้ากินหมด จะเอาอะไรไปแข่ง?” อู่เสี่ยวหร่านพูดด้วยความเป็นห่วง
“อย่ากังวลไป ข้ามีวิธีอยู่แล้ว รีบกินตอนร้อน เย็นแล้วจะไม่อร่อย” หยุนถิงกล่าว
อู่เสี่ยวหร่านเห็นเช่นนี้ ก็รีบกินทันที "อร่อยยิ่งนัก ข้าไม่เคยกินขนมดอกท้อที่อร่อยเช่นนี้มาก่อนเลย"
คนอื่น ๆ ต่างก็อิจฉายิ่งนัก ต่างก็เริ่มเสียใจในขณะนี้ หยุนถิงอุตส่าห์ทำอาหารรสเลิศมากมายเยี่ยงนี้ แต่พวกเขากลับไม่สามารถลิ้มรสได้ ทำไมเมื่อครู่พวกเขาถึงไม่ช่วยสักหน่อยล่ะ
มู่ซิวหลันกินไปสองสามคำอย่างตื่นเต้น จากนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไป "จบแน่ สิ่งที่ข้าทำนั้นเทียบกับของคุณหนูหยุนแล้ว แตกต่างกันราวกับฟ้ากับดินเลยทีเดียว ข้าคงเข้ารอบก่อนชิงที่หนึ่งไม่ได้แน่เลย"
หยุนถิงเหลือมองน้ำแกงดอกท้อที่มู่ซิวหลันทำ ไม่ว่าจะเป็นสีหรือความเข้มข้นต่างก็ไม่มีอะไรพิเศษ หยิบช้อนขึ้นมาชิมคำหนึ่ง
“คุณหนูหยุน มันแย่มากเลยใช่หรือไม่?” มู่ซิวหลันถามด้วยน้ำเสียงที่เบา
"พูดตามตรง ธรรมดามาก หากอยากผ่านการแข่งขันรอบแรกเกรงว่าคงยากหน่อย" หยุนถิงตอบตามความเป็นจริง
มู่ซิวหลันทำหน้าผิดหวัง "แต่เดิมข้าก็ไม่เก่งเรื่องการทำอาหารอยู่แล้ว ท่านพ่อข้าต่างหากที่บอกให้ข้ามาเข้าร่วม"
หยุนถิงกำลังคิดว่าจะปลอบนางยังไง ก็เห็นไม้แกะสลักที่อยู่ข้างๆ "นี่คืออะไร?"
“ข้าแกะสลักของหลายอย่างไว้เอง และนี่คือหนึ่งในนั้นที่ข้าชอบที่สุด ดังนั้นข้าจึงพกติดตัวไว้” มู่ซิวหลันอธิบาย
“ของข้าเสร็จแล้ว ฝ่าบาทโปรดเชิญลิ้มรส” หยุนถิงตะโกน
โดยไม่รอให้กงกงมาถึง องค์ชายสี่ก็รีบมาช่วยยกไปทันที
ฝ่าบาทมองดูอาหารที่แปลกใหม่นี้ โดยเขาไม่เคยเห็นมาก่อน ซูกงกงอยากลองกินดู แต่ก็ถูกสายตาที่น่ากลัวของเขาห้ามเอาไว้ทันที รีบหยิบช้อนขึ้นมาแล้วกินดูคำหนึ่ง
ความเย็นของน้ำแข็งมาพร้อมกับความหวานของผลไม้ ยังมีกลิ่นหอมของถั่ว และความหวานของน้ำดอกท้อ เย็นสดชื่นยิ่งนัก
ขณะนี้เป็นเวลาเที่ยงพอดี แม้จะมีคนคอยพัดให้ฝ่าบาทก็ตาม แต่ก็ยังร้อนมากนัก แต่เมื่อได้กินของที่เย็นเช่นนี้ ทำให้รู้สึกสดชื่น เย็นสบายยิ่งนัก
“ไม่เลว อร่อยดี” ฝ่าบาทชมโดยไม่ลังเล
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา เหล่าผู้ตัดสินก็ไม่สามารถนั่งนิ่งได้อีกต่อไป ต่างก็ลุกขึ้นวิ่งไป ของกินที่แปลกใหม่เช่นนี้พวกเขาเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อน
หยุนถิงไม่ได้ขี้เหนียว จึงรีบเตรียมชามเอาให้ทุกคนคนละหนึ่งชาม และไม่ลืมให้คนไปส่งให้หลิ่วเฟยกับเหมยเฟยคนละชาม สุดท้ายเหลือไม่กี่ชาม หยุนถิงก็ให้จวินหย่วนโยวไปชามหนึ่ง ที่เหลือก็แบ่งให้คนอื่นๆหมด
“ของกินนี้พิเศษยิ่งนัก เย็นสดชื่น ถ้าในฤดูร้อนได้กินสักชามหนึ่ง คงสบายมากแน่นอน” ผู้ตัดสินคนหนึ่งกล่าว
“ผลไม้ ถั่ว และน้ำดอกท้อ ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน แต่เมื่อกินเข้าปากแล้วกลับหวานแต่ไม่เลี่ยน ไม่เลวจริงๆ”
"ถูกต้อง ข้าได้ลิ้มรสอาหารทั่วทั้งสี่แคว้น แต่ยังไม่เคยกินของเช่นนี้มาก่อนเลย แตกต่างกับสลัดผลไม้ในหอใต้หล้าเล็กน้อย คุณหนูหยุนไม่ทราบว่านี่เรียกว่าอะไร?"
"โจ๊กน้ำแข็งดอกท้อ" หยุนถิงตอบ
นางเพียงแค่นำวิธีการทำโจ๊กเย็นสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ และเพิ่มน้ำดอกท้อแทนน้ำผลไม้ แต่กลับถูกคนเหล่านี้ชมเชยเช่นนี้ ทำเอานางเขินอายไปหมดเลย
"ฝ่าบาท กระหม่อมเสนอแนะโจ๊กน้ำแข็งดอกท้อของคุณหนูหยุนเป็นที่หนึ่งของการแข่งขันในรอบแรก" ขุนนางคนหนึ่งกล่าว คนอื่นๆ ก็พูดเห็นด้วยในทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...