จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 184

อู่เสี่ยวหร่านรีบคารวะทันที "คารวะซื่อจื่อ เหล้าดอกท้อของข้าทำให้ผู้ตัดสินตกตะลึง ทำเอาฝ่าบาทตกตะลึงไปด้วย ฝ่าบาทให้ข้ามาหาคุณหนูหยุน"

จากนั้นหยุนถิงจึงค่อยลืมตาขึ้น ในดวงตามีความมั่นใจแวบผ่านไป ตามที่คาดเอาไว้ ฝ่าบาทจะเรียกพบตัวเองแล้ว สิ่งที่นางรอก็คือเวลานี้แหละ

“ข้าจไปกับเจ้า” หยุนถิงลุกขึ้นยืน

จวินหย่วนโยวก็ลุกขึ้นยืน เอื้อมมือไปจับมือของหยุนถิง "ไปด้วยกัน"

"อืม"

อู่เสี่ยวหร่านเห็นซื่อจื่อกับหยุนถิงรักกันเช่นนี้ ก็รู้สึกเหมือนได้กินอาหารหมาเต็มท้องในทันทีเลย

หยุนถิงและจวินหย่วนโยวเดินเข้าไปที่สนามแข่ง ก็ถูกซูกงกงบอกว่า ฝ่าบาทกลับไปยังลานของตนเองแล้ว ซูกงกงก็พาพวกเขาไปในลานที่ฝ่าบาทประทับอยู่ด้วยตัวเอง

ในห้อง ฝ่าบาทบอกให้ทุกคนถ่อยออกไปหมด ซูกงกงพาพวกเขาไปถึงหน้าประตู "จวินซื่อจื่อ ฝ่าบาททรงต้องการเรียกให้คุณหนูหยุนเข้าพบเท่านั้น โปรดจวินซื่อจื่อรอไว้ที่ด้านนอก"

หยุนถิงมองดูจวินหย่วนโยวที่อยู่ข้างๆ "ซื่อจื่อ ท่านรออยู่ที่นี่เถอะ"

“อืม” จวินหย่วนโยวพูดด้วยความเป็นห่วง

หยุนถิงเดินเข้าไปในห้อง ซูกงกงก็ปิดประตู

ในห้องขนาดใหญ่ ฝ่าบาทกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ พร้อมกับหนังสือในมือ เมื่อเห็นหยุนถิงเข้ามา ฝ่าบาทก็วางหนังสือลง

“หม่อมฉันคารวะฝ่าบาท” หยุนถิงคารวะทันที

“ลุกขึ้นเถอะ ข้าได้ยินมาว่าเจ้าใส่บางอย่างลงในเหล้าของอู่เสี่ยวหร่าน ถึงได้ทำให้รสชาติของเหล้ากลมกล่อมเช่นนี้ นั่นคือสิ่งใด?” ฝ่าบาทพูดตรงไปตรงมา

“ทูลฝ่าบาท นั่นคือผงยาที่หม่อมฉันปรุ่งขึ้นเอง เพื่อใช้ในการกระตุ้นและหมัก หม่อมฉันก็ได้ทำการทดลองมานานกว่าครึ่งปี ล้มเหลวมานับหลายครั้ง นี่เป็นครั้งแรกที่หยิบมันออกมา ฟังจากความหมายของฝ่าบาทมันสำเร็จแล้วหรือ?" หยุนถิงมองมา

มุมปากของฝ่าบาทกระตุก "ในเมื่อนี่เป็นครั้งแรก หากผลไม่ดีล่ะ?"

"เดิมทีเหล้าดอกท้อที่อู่เสี่ยวหร่านทำก็ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว เหมือนดั่งน้ำ ยังไงก็ต้องถูกคัดออกอยู่แล้ว จึงลองอีกสักตั้งเป็นครั้งสุดท้าย ดังนั้นหม่อมฉันจึงใช้เหล้าดอกท้อของเขาลองดู" หยุนถิงตอบ

ทำเอาฝ่าบาทถึงกับขมวดคิ้ว เจ้าช่างกล้ายิ่งนัก กล้าเอาการแข่งขันมาทดลอง แต่โชคดีที่สำเร็จแล้ว

“ผงยานั้นคืออะไร?” ฝ่าบาทถาม

"ในผงยานั้นมีเครื่องยามากกว่าสิบชนิด มีเครื่องยากี่ชนิดหายากมาก ข้าพบมันในเครื่องยาที่ซื่อจื่อค้นหาและรวบรวมไว้ ขั้นตอนการทำค่อนข้างยุ่งยาก เช่นการปรับยา อุณหภูมิสภาพอากาศ และการกลั่นให้บริสุทธิ์------นี่คือสิ่งที่หม่อมฉันทดลองไปนับหลายร้อยครั้ง และใช้เวลาในการทำนานกว่าครึ่งปี" หยุนถิงพูดให้มันยุ่งยาก

ฝ่าบาทฉลาดเพียงใด จะดูไม่ออกได้อย่างไรว่าหยุนถิงกำลังจงใจพูดอ้อม

"ข้าอยากยึดผงยานี้ของเจ้ามาใช้เพื่อประโยชน์ของแคว้น เจ้าอยากได้รางวัลอะไรก็ว่ามาเถอะ?" ฝ่าบาทรู้ว่าหยุนถิงเจ้าเล่ห์ดั่งสุนัขจิ้งจอก หากไม่ให้รางวัลแก่นางสักหน่อย คงไม่ยอมเอาออกมาแน่นอน

หากเป็นคนอื่น ฝ่าบาทสามารถเก็บรวบรวมไว้อย่างกระด้างกระเดื่องได้ แต่หยุนถิงเป็นคนที่จวินหย่วนโยวใส่ใจ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงใช้วิธีที่อ่อนโยนเท่านั้น

“ฝ่าบาทไม่จำเป็นเกรงใจเยี่ยงนี้ การรับใช้แคว้นเป็นหน้าที่ของหม่อมฉันอยู่แล้ว หม่อมฉันยินดีถวายผงยาแด่ฝ่าบาท แต่ผงยานั้นล้ำค่ายิ่งนัก กระบวนการผลิตยุ่งยาก และขั้นตอนก็ซับซ้อน ดังนั้นสิ่งที่หม่อมฉันเสนอให้นั้นจะไม่มากนัก แต่รับรองว่าการที่จะทำให้รายได้ของเหล้าขาวแห่งแคว้นต้าเยียนเพิ่มขึ้นเป็นหลายสิบเท่าไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน”

“นี่เป็นสูตรเฉพาะของหม่อมฉัน ฝ่าบาทโปรดให้ให้อภัย หม่อมฉันไม่สามารถสอนให้คนภายนอกได้ เพราะสอนลูกศิษย์เป็นแล้วอาจารย์ก็จะอดตาย อีกอย่างฝ่าบาทสามารถรับรองได้หรือว่าคนอื่นจะจงรักภักดีชั่วชีวิต และจะไม่มีวันทรยศ”

“หากมีคนใดทรยศแล้วสอนให้กับอีกสามแคว้น เกรงว่าคงจะส่งผลร้ายแรงต่อเศรษฐกิจของแคว้นต้าเยียน ส่วนหม่อมฉันก็เป็นคนต้าเยียน ครอบครัวและญาติพี่น้องก็ล้วนอยู่ในแคว้นต้าเยียน ท่านพ่อและสามีของหม่อมฉันต่างก็จงรักภักดีต่อฝ่าบาท ดังนั้นหม่อมฉันเองก็ต้องซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ของตัวเองอยู่แล้ว“

“หากฝ่าบาทอยากให้รางวัลแก่หม่อมฉันจริง เช่นนั้นก็ให้รางวัลท่านพ่อหม่อมฉันเถิด ท่านพ่อรับใช้แว่นแคว้นมาทั้งชีวิต ทุ่มเทสติปัญญาเเละความสามารถ ตราบจนชีวิตหาไม่ ตอนนี้แก่แล้ว ขอให้ฝ่าบาทโปรดอย่างให้ท่านพ่อได้ทำงานหนักเกินไป ตราบใดที่ท่านพ่อยังเป็นเฉิงเซี่ยงของฝ่าบาทวันหนึ่ง หม่อมฉันก็จะซาบซึ้งฝ่าบาทถึงวันนั้น และทุ่มเทสติปัญญาเเละความสามารถ ตราบจนชีวิตหาไม่" ทุกคำและทุกประโยคที่หยุนถิงกล่าวมา ล้วนเต็มไปด้วยความเคารพ

ฝ่าบาทมองนางอย่างลึกซึ้ง เขาคิดไม่ถึงว่าหยุนถิงจะมีความคิดเห็นเช่นนี้

แม้จะไม่สามารถรับประกันได้ว่าผู้จงรรักภักดีที่อยู่ต่อหน้านี้ จะยังคงจงรักภักดีต่อไปในอนาคตได้หรือไม่ แต่เขากลับลืมว่ายังมีคำพูดที่ว่าทรยศนี้ไป

"อืม ข้าจะเตรียมตัวดีๆแน่นอน"

หยุนถิงและคนอื่นๆจากไป องค์ชายสี่ที่แอบฟังอยู่ที่มุมกำแพงก็เดินเข้ามาทันที "ข้ามีเรื่องจะหาเสด็จพี่"

“ฝ่าบาททรงสั่งไว้แล้ว องค์ชายสี่เชิญเข้าพ่ะย่ะค่ะ” ซูกงกงช่วยเปิดประตู

องค์ชายสี่รีบเข้าไปทันที "วันนี้ซูกงกงทำได้ดีมาก ไม่เลว"

เมื่อหยุนถิงและจวินหย่วนโยวกลับมาที่ลานของตัวเอง ก็เห็นหยุนหลีกับหยุนซูรออยู่ตรงนั้น

“พวกเจ้ามาได้อย่างไร?” หยุนถิงถาม

"พี่ใหญ่ พี่เป็นที่หนึ่งในการแข่งขันรอบแรกนะ คืนนี้พวกข้ามาฉลองกันดีๆเถอะ พี่เก่งยิ่งนัก" หยุนหลีตั้งหน้าตั้งตารอ

“ได้สิ แล้วเจ้าอยากฉลองยังไงล่ะ?”

“แน่นอนว่าก็ต้องกินเนื้อและดื่ม เช่นนี้ช่างดียิ่งนัก” หยุนหลีกล่าว

“พรุ่งนี้พี่ใหญ่ยังต้องแข่ง ดื่มเหล้าไม่ได้ อย่าทำให้เสียเวลาการแข่งขันไปเลย” หยุนซูไม่เห็นด้วย

“งั้นก็กินเนื้อ พี่ใหญ่เจ้าอยากกินอะไร ข้าให้คนไปทำ?”

หยุนถิงคิดแล้ว ก็รู้สึกว่าทุกคนยังไม่เคยนั่งทานอาหารด้วยกันเลย "ก็ได้ คืนนี้ไปกินหม้อไฟกัน คืนนี้ข้าจะโชให้พวกเจ้าดู หยุนหลีเจ้าไปเตรียมผักที่หลังครัว ซูเอ๋อร์เจ้าไปแจ้งให้คนอื่น”

หยุนถิงบอกผักและบุคคลที่จะเชิญออกมา หยุนหลีและหยุนซูก็รีบไปทำทันที

"อะไรคือหม้อไฟ?" จวินหย่วนโยวถาม

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ