จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 198

หยุนถิงผู้สมควรตาย ต้องโทษนางที่เข้ามายุ่งมิเข้าเรื่อง หากมิใช่เพราะหลงเอ้อ ลู่เอ๋อร์คงได้หนีไปแล้ว ซ่างกวนหรูสาบานกับตนเองในใจ มิช้าก็เร็วสักวันหนึ่งนางจะมิปล่อยให้หยุนถิงตายดีแน่

จู่ๆ ก็มีน้ำเสียงดังขึ้นจากด้านนอกประตู

“ซวนอ๋อง ซื่อจื่อของข้าได้พบเจ้ากับเบาะแสใหม่ บางทีลู่เอ๋อร์อาจมิใช่ฆาตกรตัวจริง รบกวนท่านช่วยไปดูสักหน่อย”

ซ่างกวนหรูที่นั่งอยู่ภายในห้องแววตาเย็นยะเยือก สายตาของนางจับจ้องมองไปยังปากประตูห้องโดยมิรู้ตัว

นางได้ยินเสียงจากโม่เหลิ่งเหยียนที่ดังขึ้นจากข้างนอกว่า “เบาะแสอะไรกัน?”

“ข้าได้ยินซื่อจื่อกล่าว ดูเหมือนภายในห้องของเป่ยหมิงฉี่จะพบผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่ง ผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นเป็นผ้าไหมที่ทำจากหอหนีซ่าง บ่าวรับใช้ธรรมดามิสามารถซื้อหาใช้ได้ บางทีฆาตกรที่วางยาเป่ยหมิงไท่จื่ออาจจะเป็นคนอื่น และคือเจ้าของของผ้าเช็ดหน้านี้ ด้วยเหตุนี้เองซื่อจื่อของข้าจึงสงสัยว่าลู่เอ๋อร์จะเป็นเพียงแค่แพะรับบาป” หยุนถิงอธิบาย

“ได้ ข้าจะตามไปดูพร้อมกับเจ้า” เสียงฝีเท้าดังไกลออกไป

ภายในห้อง ซ่างกวนหรูลุกขึ้นนั่งแล้วเดินไปดูผ้าเช็ดหน้าของตนเอง ผ้าเช็ดหน้าที่นางใช้เป็นผ้าไหมจากหอหนีซ่าง แต่นางจำนำจำนวนมันมิได้แล้ว

หรือหยุนถิงตั้งใจกล่าวเช่นนี้เพื่อให้นางหลงกล ทว่าหยุนถิงน่าจะมิกล้าหาญพอที่จะหลอกซวนอ๋อง เพราะว่าซวนอ๋องนั้นขึ้นชื่อเรื่องของความโหดเหี้ยมจริงจัง

เมื่อคิดได้ดังนี้ ซ่างกวนหรูก็อยู่มิติด แต่หากเมื่อครู่นางเพิ่งจะเป็นลมล้มไปและออกไปจากห้องเสียตอนนี้ คงจะถูกคนสังเกตสงสัย คงทำได้เพียงรอให้มืดก่อนแล้วค่อยไป

อีกด้านหนึ่ง ซวนอ๋องเดินตามหยุนถิงไปยังห้องเป่ยหมิงฉี่ เขามองเห็นจวินหย่วนโยวกำลังนั่งดื่มชาอยู่ในห้อง

“ผ้าเช็ดหน้าเล่า?” โม่เหลิ่งเหยียนถาม

“มิมี” จวินหย่วนโยวตอบด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

“หมายความว่าอย่างไร?” โม่เหลิ่งเหยียนเลิกคิ้วถามแล้วมองไปทางหยุนถิงตามสัญชาตญาณ

หยุนถิงหัวเราะออกมาเล็กน้อย “ซวนอ๋องอย่าได้โมโหไป แท้จริงแล้วมิได้มีผ้าเช็ดหน้าอะไรหรอก ข้าเพียงสงสัยว่าผู้ที่วางยาพิษเป่ยหมิงไท่จื่อจะเป็นคนอื่น ดังนั้นจึงได้จงใจกล่าวเช่นนี้”

โม่เหลิ่งเหยียนทำสีหน้าดูมืดมน “หมายความว่าเจ้ากำลังหลอกข้างั้นหรือ?”

“มิใช่ พวกเราเพียงช่วยซวนอ๋องจับตัวคนร้าย บ่าวรับใช้ธรรมดาเพียงคนหนึ่งจะมียาพิษร้ายแรงเช่นนี้ได้อย่างไร อีกทั้งพิษนี้คือชนิดเดียวกันกับที่ซื่อจื่อของข้าได้รับมา”

“ด้วยเหตุนี้เองข้าจึงสงสัยว่าบ่าวรับใช้เป็นเพียงแค่แพะรับบาป ส่วนฆาตกรตัวจริงยังคงอยู่ในความมืด คนที่วางยาซื่อจื่อของข้าสามารถปิดซ่อนตัวตนได้เป็นเวลาหลายปี มิใช่สิ่งที่บ่าวรับใช้ธรรมดาคนหนึ่งจะทำได้แน่”

“เรื่องนี้คงจะมีปลาใหญ่ซ่อนอยู่ ข้าหวังว่าซวนอ๋องจะให้ความร่วมมือ ท่านได้จับฆาตกรตัวจริง ส่วนพวกเราจะได้รู้ถึงคนที่วางยาพิษนี้ พวกเราล้วนได้ประโยชน์” หยุนถิงอธิบาย

โม่เหลิ่งเหยียนรู้ว่าจวินหย่วนโยวโดนวางยาพิษมาตั้งแต่เด็ก มีพิษอยู่ในร่างกายเสมอมาและได้รับความเจ็บปวดจากพิษนี้ “เขาจะเป็นหรือตายเกี่ยวอันใดกับข้า?”

“ชีวิตข้านั้นมิได้เกี่ยวข้องกับเจ้า แต่เจ้ามิได้อยากจับผู้ร้ายตัวจริงหรือ? หรือเป็นเพราะเจ้าซวนอ๋องมิอยากเข้าไปข้องเกี่ยวกับเรื่องราวซับซ้อนเหล่านี้ จึงปฏิเสธด้วยความกลัว?” จวินหย่วนโยวเอ่ยขึ้นอย่างเหยียดหยาม

เพียงประโยคเดียวนี้ทำให้โม่เหลิ่งเหยียนโมโหสุดขีด “ข้ามิเคยเกรงกลัวอำนาจใดทั้งสิ้น วิธีการกระตุ้นข้าให้โมโหเช่นนี้มิได้ผลหรอก เจ้าจวินหย่วนโยวต้องการจับคนร้ายให้ได้ แต่อย่าคิดเอาข้าเข้าไปเป็นเครื่องมือ”

“ซวนอ๋องช่างฉลาดหลักแหลมยิ่งนัก บัดนี้ฝ่าบาทให้เจ้าเป็นคนสืบสวนเรื่องนี้ แต่หากซวนอ๋องจับฆาตกรมิได้ ซวนอ๋องจะยอมพ่ายแพ้เช่นนี้หรือ?” จวินหย่วนโยวเอ่ยถามประโยคนี้

โม่เหลิ่งเหยียนกำมือที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อแน่น เขาเกลียดการโกหกเป็นที่สุด ดังนั้นเขามิยินดีที่จะให้ใครมาหยามเขาเช่นนี้”

“ครั้งนี้ข้าจะร่วมมือกับพวกเจ้าในการแสดง เพียงครั้งนี้เท่านั้น” โม่เหลิ่งเหยียนทิ้งท้ายไว้แล้วหันหลังจากไป

“ขอบใจซวนอ๋อง” หยุนถิงเอ่ยปาก

ผ่านไปไม่ถึงหนึ่งเล่มธูป คนในเทศกาลดอกท้อก็ได้พากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องผ้าเช็ดหน้ากันทั่ว ดังนั้นตอนกลางคืนที่ซ่างกวนหรูเดินทางออกมาข้างนอก นางจึงได้ยิน

ท่ามกลางความมืดมิด ที่โรงเตี๊ยมเงียบสงบ ซ่างกวนหรูเห็นว่าบัดนี้ดึกเพียงพอ นางจึงเปิดหน้าต่างออกเงียบๆ ที่หน้าต่างนั้นวางดอกกุหลาบไว้ถาดหนึ่ง

เพียงแต่เขาคิดมิถึงว่าจู่ๆ ร่างของตนก็ไร้สิ้นเรี่ยวแรง เลือดพลุ่งพล่านไปทั่วร่างกายจนมิอาจยืนตรงได้

“เจ้าทำสิ่งใดต่อข้า?”

“ในเมื่อเจ้าเตรียมแผนการเดินทางมา ข้าเองก็เตรียมรับมือเจ้าไว้เช่นกัน มิเช่นนั้นเจ้าคงจะมาเสียเปล่านะสิ” หยุนถิงตอบ

“นังสตรีผู้นี้ร้ายยิ่งกว่าพิษใด รนหาที่ตาย” ชายผู้นั้นจับดาบพุ่งตรงเข้าไป

หยุนถิงคิดมิถึงว่าเขาถูกพิษกระดูกอ่อนแรงของนางแล้วยังมีแรงลงมือขยับเขยื้อนได้ ทั้งยังสามารถหยิบดาบขึ้นต่อสู้

ซึ่งหากนางถูกเขาฟันเข้าเมื่อครู่ เกรงว่าร่างจะขาดเป็นสองท่อน

หยุนถิงกำลังจะหลบ ที่ประตูก็มีร่างหนึ่งพุ่งเข้ามา ปัดดาบเล่มนั้นลอยออกไปทันทีแล้วถีบเขาเข้าอย่างจังจนกระเด็น

หยุนถิงมองไปด้วยความตกตะลึง คิดมิถึงว่าซวนอ๋องจะเก่งกาจเพียงนี้เชียว

ด้านนอกมีองครักษ์สิบกว่านายวิ่งตรงเข้ามาแล้วจับคนผู้นั้นไป

จวินหย่วนโยวเดินเข้ามาจากด้านนอก แววตาของเขามองไปทางชายชุดดำอย่างเยือกเย็น หลิงเฟิงเข้ามาฉีกหน้ากากชายชุดดำออก

ใบหน้าเหลี่ยม คิ้วหนาตาโต หน้าตาช่างธรรมดา มิใช่คนที่รู้จัก

หลิงเฟิงตรวจสอบดูถึงตัวตนของเขา พบว่ามีผีเสื้อสีดำสักไว้ที่บ่าของเขา

“ซื่อจื่อ เขาเป็นหน่วยกล้าตายจากสำนักราตรี” หลิงเฟิงรายงาน

จวินหย่วนโยวมองไปด้วยความสงสัย เมื่อนึกถึงเรื่องที่หลิงเฟิงรายงานว่าผู้ลอบสังหารตนหนองน้ำเย็น ก็มาจากสำนักราตรีเช่นกัน บางทีคนที่วางยาพิษเขานั้นอาจมาจากสำนักราตรี

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ