จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 197

“เจ้าคิดจะทำเช่นไร?” จวินหย่วนโยวถาม

หยุนถิงชะโงกหน้าเข้าไปเล่าถึงแผนการของตนออกมา ทำเอาจวินหย่วนโยวที่ได้ยินถึงกับเอ่ยชม “ยอดเยี่ยมยิ่งนัก เอาตามที่เจ้าบอก”

“เป่ยหมิงฉี่ เรื่องนี้จำเป็นต้องให้เจ้าให้ความร่วมมือกับเราด้วย” หยุนถิงหันไปอธิบายกับเขาเล็กน้อย

เป่ยหมิงฉี่พยักหน้า “ให้ตายสิ กล้าดีอย่างไรมาวางยาข้า ต่อให้ต้องขุดหลุมลึกขนาดไหนข้าก็จะต้องหามันให้พบ ข้าจะให้ความร่วมมือกับเจ้าอย่างแน่นอน”

“ขอบใจ” หยุนถิงเดินออกไปพร้อมกับจวินหย่วนโยว

ที่ด้านนอก ซวนอ๋องได้ประกาศให้ทุกคนมารวมตัวกัน ณ จุดรวมตัว

สีหน้าของซ่างกวนหรูดูตึงเครียด “แม่ครัวคนนั้นเจ้าจัดการได้เรียบร้อยแล้วหรือไม่?”

“คุณหนูวางใจเถิด บ่าวได้ฆ่าปิดปากไปแล้ว รับรองว่ามิมีหลักฐานแน่นอน” บ่าวรับใช้ตอบอย่างนอบน้อม

“เช่นนั้นก็ดี” ซ่างกวนหรูพาบ่าวรับใช้เดินตรงออกไป

จากนั้นก็ได้ยินเสียงผู้คนวิพากษ์วิจารณ์กัน “ข้าได้ยินมาว่าซวนอ๋องได้เบาะแสแล้ว กล่าวว่าผู้ที่ฆ่าแม่ครัวปิดปาก บริเวณมือหรือคอและใบหน้าน่าจะได้รับบาดเจ็บ”

“ครั้งนี้ที่เรียกทุกคนมารวมตัวกันคงจะดูว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือไม่ และผู้นั้นก็คงจะเป็นคนร้ายนั้นสินะ ซวนอ๋องช่างเฉลียวฉลาดเหลือเกิน”

สีหน้าของบ่าวรับใช้ซีดเผือดลงทันที นางยกมือขึ้นกุมไปที่ลำคอ “คุณหนู บ่าวรู้สึกปวดท้องเล็กน้อย ขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะเจ้าค่ะ”

เมื่อซ่างกวนหรูเห็นท่าทีของนางเช่นนั้น แววตาเหลือบมองไปอย่างดุเดือดเป็นการเอ่ยเตือน “ไปเถอะ จัดการให้เรียบร้อย”

ให้ตายสิ เหตุใดจึงทิ้งเบาะแสที่เป็นจุดเด่นขนาดนี้ไว้ได้ จะให้จวินหย่วนโยวพบมิได้เด็ดขาด มิอย่างนั้นเรื่องของนางกับจวินซื่อจื่อคงเป็นไปมิได้

“พี่รองเร็วเข้า ข้าได้ยินมาว่าสืบพบเบาะแสแล้ว” หยุนหลีรีบตรงเข้าไปทันที

สีหน้าของหยุนหลีซีดเผือด นางยังมิตื่นจากภวังค์ ด้วยความตกใจฝีเท้าจึงค่อนข้างเฉื่อยช้า

“ข้าอยากจะเห็นจริงว่าใครกันนะกล้าวางยาเป่ยหมิงไท่จื่อ” โม่หลานรู้สึกอยากรู้อยากเห็นยิ่งนัก

ซูชิงโยวและคนอื่นๆ ก็เดินทางมาเช่นกัน พวกเขาทยอยมาเรื่อยๆ

ฮ่องเต้ หลิ่วเฟยและเหมยเฟยก็เดินทางมาด้วย มิใช่เรื่องง่ายกว่าจะสืบพบเบาะเเส พวกเขาจะพลาดเรื่องนี้ได้อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งฮ่องเต้ ผู้ที่กล้าวางยาพิษในอาณาเขตต่อหน้าเขา ฮ่องเต้จะมิปล่อยไปอย่างแน่นอน

“ทุกคนจงเข้าแถวเรียงกัน แล้วยื่นมือออกมา” ซวนอ๋องประกาศด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

ทุกคนทำตามที่เขาสั่ง องครักษ์จำนวนสิบกว่านายเดินตรงเข้าไปตรวจดูที่มือขอแก้มและแขน หากเป็นตำแหน่งที่อาจจะถูกขีดข่วนได้ พวกเขาล้วนทำการตรวจอย่างละเอียด

เมื่อถึงตาของซ่างกวนหรู นางยื่นมือออกไปให้องครักษ์ตรวจโดยละเอียดถี่ถ้วน เมื่อพบว่ามิมีปัญหาได้จึงได้สืบตรวจค้นต่อไป

ขณะที่ซ่างกวนหรูกำลังจะถอนหายใจด้วยความโล่งอกนั้น จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงของเหมยเฟยดังขึ้นว่า “คุณหนูหรู เหตุใดจึงมิเห็นบ่าวรับใช้ข้างกายเจ้าเล่า?”

ประโยคนี้ทำให้ซ่างกวนหรูชะงักลงทันที นางพยายามอยู่ในความสงบแล้วตอบว่า “ทูลเหมยเฟยเหนียงเหนียง เมื่อครู่ลู่เอ๋อร์กล่าวว่านางปวดท้องจึงได้ไปห้องน้ำเพคะ”

ในเวลานี้หากใครก็ตามที่หลบเลี่ยงการสืบค้นก็นับว่ามีปัญหา ซวนอ๋องหันไปส่งสายตาเป็นสัญลักษณ์ให้แก่องครักษ์ จากนั้นองครักษ์สองคนก็เดินทางไป

หยุนถิงหันไปขยิบตาให้กับหลงเอ้อเช่นเดียวกัน หลงเอ้อเข้าใจได้ในทันทีและจากไปด้วย

ทุกคนที่อยู่ ณ ที่นั้นถูกตรวจสอบอย่างละเอียด จวบจนกระทั่งคนสุดท้ายตรวจสอบจนเรียบร้อยแล้วมิพบว่ามีผู้ใดเป็นผู้ต้องสงสัยหรือผิดปกติไป สีหน้าของฮ่องเต้จึงดูแปลกใจยิ่งนัก

“เหตุใดจึงมิมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล่า เจ้าสืบมิละเอียดหรือไม่?” ฮ่องเต้เอ่ยถาม

“ใช่แล้ว ข้าน้อยเป็นคนซื้อตัวแม่ครัวคนนี้เพื่อให้วางยาพิษเป่ยหมิงไท่จื่อ จากนั้นด้วยเกรงว่าเรื่องนี้จะถูกจับได้ จึงฆ่าปิดปากแม่ครัวคนนั้นเสีย ส่วนเหตุผลที่ข้าวางยาพิษเป่ยหมิงไท่จื่อ นั่นก็เพราะเขาเคยฆ่าน้องสาวของข้า”

“นับตั้งแต่พ่อแม่ของเราจากไป ข้าและน้องสาวก็ขอทานประทังชีวิต มีอยู่ครั้งหนึ่งน้องสาวของข้าเข้าไปแย่งซาลาเปากับขอทานจึงได้เกิดข้อวิวาทกัน ด้วยมัวแต่ตั้งใจจะวิ่งหนี จึงมิทันระวังชนเข้ากับเป่ยหมิงไท่จื่อ”

“เป่ยหมิงไท่จื่อรู้สึกรังเกียจที่น้องสาวของข้าวิ่งไปชนเขาทำให้เสื้อผ้าของขาวเปื้อน จึงได้ให้องครักษ์จับน้องสาวของข้าทุบตีจนตาย ในคราวนั้นข้าคุกเข่าอ้อนวอนร้องขอให้เขาปล่อยน้องสาวข้า แต่เขากลับใจดำโหดเหี้ยม มิสนใจไยดี ทั้งยังสั่งให้คนเฆี่ยนตีข้าอีกด้วย”

“น้องสาวของข้าถูกเขาสั่งให้เฆี่ยนตีจนเสียชีวิต ส่วนตัวข้าก็หายใจรวยริน ตั้งแต่วินาทีนั้นข้าก็ตั้งมั่นว่าตราบใดที่มีโอกาสข้าจะแก้แค้นให้แก่น้องสาวอย่างแน่แท้”

“ต่อมา ข้าก็ได้ออกร่อนเร่ขอทานกับขอทานชราคนหนึ่ง จนกระทั่งมาถึงแคว้นต้าเยียน เราเกือบหิวตายอยู่ข้างถนน ได้มีสองสามีภรรยาผู้ใจดีมารับข้าไปเลี้ยง แต่ชีวิตของพวกเขาก็มิได้ดีนัก แต่ละวันแทบมิมีข้าวสารจะกรอกหม้อ พวกเขายินดีที่จะเหลือข้าวต้มเหลวเอาไว้ให้ข้ากินเป็นหม้อสุดท้าย”

“ด้วยเหตุนี้ข้าจึงได้ขายตนไปให้แก่จวนเฉิงเซี่ยง และคอยดูแลรับใช้คุณหนู ไปๆ มาๆ ข้ากลับได้เจอเป่ยหมิงไท่จื่ออีกครั้ง ณ ที่แห่งนี้ แน่นอนว่าข้าจะต้องใช้โอกาสอันดีนี้ในการฆ่าเป่ยหมิงไท่จื่อเพื่อล้างแค้น ผู้ใดก่อกรรมไว้ผู้นั้นต้องรับใช้ พวกเจ้าอยากจะปลิดชีพข้าก็ตามใจเถิด คุณหนู บ่าวขอโทษ ลู่เอ๋อร์มิอาจอยู่รับใช้คุณหนูได้อีกต่อไป” ลู่เอ๋อร์กล่าวจบก็กัดลิ้นตนเองอย่างแรง

“แย่แล้ว นางจากกัดลิ้นตนเองเพื่อปลิดชีพ!” หยุนถิงรีบตะโกนแล้วพุ่งกายเข้าไป

ซวนอ๋องรีบเข้าไปจับคางของลู่เอ๋อร์เอาไว้ แต่ก็สายไปก้าวหนึ่ง ลู่เอ๋อร์กัดลิ้นตนเองเสียจนสิ้นใจไปแล้ว

ซ่างกวนหรูน้ำตาไหลริน นางเจ็บปวดเป็นที่สุด “ลู่เอ๋อร์ เหตุใดเจ้าจึงโง่เง่าเช่นนี้...... กล่าวจบนางก็เป็นลมล้มไป”

องค์ชายสี่ที่อยู่ด้านข้างก็มิรู้จะทำเช่นไร นางอยู่ใกล้กับซ่างกวนหรูที่สุดดังนั้นจึงวิ่งเข้าไปพยุงนางเอาไว้ตามสัญชาตญาณ “เสด็จพี่ ซ่างกวนหรูเป็นลมไปแล้ว ทำอย่างไรดี?”

“เจ้าจงพานางกลับไปพักก่อนเถิด” ฮ่องเต้ขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น เขาคิดมิถึงว่าเรื่องราวต่างๆ จะดำเนินไปเช่นนี้ “ ซวนอ๋องเจ้ามาจัดการต่อ”

องค์ชายสี่ส่งซ่างกวนหรูกลับไปส่งที่จวนของนาง แล้วจากไปทันที

วินาทีที่ประตูห้องปิดลง ซ่างกวนหรูที่นอนอยู่บนเตียงก็ลืมตาขึ้น แววตาของนางเต็มไปด้วยความดุดันและโกรธแค้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ