“หยุนถิง เจ้ามิได้อยู่ฝ่ายเดียวกับมันหรือ? อย่าคิดว่าเจ้าช่วยข้าเอาไว้แล้วข้าจะขอบใจในน้ำใจเจ้าด้วยความจอมปลอมนี้” ฟู่อี้เฉินเหลือบตามองด้วยความเหยียดหยาม
“เจ้าบ้าไปแล้วหรือ? เขาเป็นคนจากสำนักราตรีมาเพื่อปลิดชีพข้า เจ้าโง่เง่าหรืออย่างไร!” หยุนถิงตะโกนออกมา
เมื่อได้ยินดังนั้นฟู่อี้เฉินก็ใบหน้าขาวซีด “เจ้านี่ช่างเป็นสตรีตัวซวยเสียจริง เหตุใดจึงไปเป็นเป้าหมายให้กับสำนักราตรีได้”
หยุนถิงได้ยินดังนั้น เดิมทีมือของนางที่ลากฟู่อี้เฉินมาก็ปล่อยออก “ในเมื่อเจ้าเกลียดชังข้าเช่นนี้ เจ้าก็จงไปตายเสีย!”
ฟู่อี้เฉินตกตะลึง เขาหันหลังกลับไปพบชายหน้ากากสีเงินวิ่งตามมาก็ตกอกตกใจเสียจนเตลิดเปิดเปิง
เพียงแต่ต่อให้เขาวิ่งเร็วเพียงใด จะสู้กับผู้ที่ฝึกวิทยายุทธมาได้หรือ เพียงชั่วพริบตาเดียวก็ถูกเขาผู้นั้นจับได้
“ได้โปรดท่านจอมยุทธ ไว้ชีวิตข้าด้วย ข้าเพียงแค่ผ่านมาเท่านั้น ท่านจงไปจับหยุนถิงเถิด ข้าสัญญาว่าข้าจะมิพูดอะไรออกไป!” ฟู่อี้เฉินร้องขอชีวิต
เจ้าหมอนี่มิควรค่าต่อการสงสาร หยุนถิงหยิบยาพิษออกมาจากกระเป๋า จากนั้นสาดไปทั่ว
ดวงตาอันเยือกเย็นแหลมคมของเขาหรี่ลงเล็กน้อย แววตานั้นแฝงไปด้วยความแค้นดุจสายเลือด “ข้าเกลียดชังไอ้พวกกลัวตายยิ่งนัก!” เมื่อกล่าวจบ ก็หยิบดาบยาวพุ่งโจมตีไปทางฟู่อี้เฉิน
หยุนถิงมิได้แม้แต่จะครุ่นคิดก็ได้รีบหยิบแส้ออกมาจากมิติสะบัดไปทางเขาทันที
แส้ของนางนั้นเข้าไปพัวพันกับดาบของหนานเทียนหลินพอดิบพอดี ดาบนั้นห่างอีกเพียงแค่หนึ่งนิ้วก็พุ่งแทงไปยังหน้าอกของฟู่อี้เฉิน
หนานเทียนหลินโมโหยิ่งนัก เขาหันหลังกลับไปโจมตีหยุนถิง
หยุนถิงเอี้ยวตัวหลบ แต่ถึงอย่างไรนางก็มิมีพลังภายในจึงทำให้ช้าไปครึ่งก้าว นางถูกฝ่ามือนั้นโจมตีอย่างแรง แล้วรู้สึกเจ็บปวดแน่นไปที่หน้าอก เลือดสดพุ่งกระฉูดออกมา นางถึงกับทรุดลงคุกเข่าลงข้างหนึ่งสู่พื้น
นางมิอาจสนใจความเจ็บปวดนี้ได้ สายตาเหลือบมองไปทางฟู่อี้เฉิน “เจ้ายังมิรีบไปอีก อยู่รอความตายหรืออย่างไร?”
ฟู่อี้เฉินจึงได้สติกลับคืนมา เขาวิ่งหนีไปโดยมิแม้แต่จะยังคิด
หนานเทียนหลินมิคิดจะวิ่งตามเข้าไป แววตาอาฆาตนั้นมองมาที่นางด้วยความเยาะเย้ย “ก็เป็นเพียงไอ้พวกขี้ขลาดกลัวตายคนหนึ่ง เจ้ากลับช่วยเขาเอาไว้โดยมิคิดชีวิตตน”
“เขาเป็นผู้บริสุทธิ์ มิเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย เจ้าจะฆ่าก็ฆ่าข้าเสีย อย่าได้ไปเกี่ยวข้องกับผู้อื่น!” หยุนถิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
ฟู่อี้เฉินที่ได้วิ่งหนีออกไปนับสิบเมตรแล้ว ได้ยินน้ำเสียงที่ดังมาจากด้านหลังของตนก็ตกตะลึง ฝีเท้าของเขาหยุดชะงักท่ามกลางอากาศ
เขาคิดมิถึงว่าหยุนถิงจะกล่าวประโยคเช่นนี้ออกมา
เมื่อครู่เขายังสั่งให้เจ้าหมอนี่ไปคิดบัญชีกับหยุนถิง ทั้งยังสงสัยในตัวนาง กล่าวว่านางแอบมีความสัมพันธ์กับชายอื่น ทั้งยังหาเรื่องราวซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่นางกลับมาช่วยเขาโดยมิคำนึงถึงเรื่องที่ผ่านมา วินาทีนี้ฟู่อี้เฉินรู้สึกแย่ยิ่งนัก
เขาหันหลังกลับไปมอง เห็นว่าดาบของชายหน้ากากเงินนั้นกำลังจี้ไปที่คอของหยุนถิง
สีหน้าของฟู่อี้เฉินดูหนักอึ้ง คิ้วขมวดเข้าหากัน เขาสูดลมหายใจเข้าสองสามหนแล้ววางหายไปชั่วพริบตา
หยุนถิงเห็นว่าเขาจากไปแล้วจึงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“นังสตรีสมควรตาย ในเมื่อเจ้ารนหาที่ตายเอง เช่นนั้นก็อย่าโทษข้า” หนานเทียนหลินโบกสะบัดดาบยาวในมือของตนไปทางหยุนถิง
เพียงแต่วินาทีที่เขายกดาบขึ้น จู่ๆ ก็รู้สึกว่าร่างกายอ่อนแรง เขามิอาจควบคุมตนเองได้ สีหน้าขาวซีด
หยุนถิงรีบหลบเขาอย่างรวดเร็ว เมื่อครู่หากนางถูกฟันเข้าละก็ คาดว่าคงตายแน่ แต่ความว่องไวในการฟันดาบของเจ้าหมอนี่ลดลง หยุนถิงจึงรู้ได้ว่าพิษของตนออกฤทธิ์แล้ว
นางไม่มีกำลังภายใน ดังนั้นจึงได้ค้นคว้าพิษที่สามารถจัดการกับผู้มีกำลังภายในออกมา หากเป็นคนธรรมดาจะใช้มิได้ผล ยิ่งผู้ที่มีพลังภายในแข็งแกร่งก็จะยิ่งได้ผลมาก
“ให้ตายสิ เจ้าทำสิ่งใดกับข้า?” หนานเทียนหลินเอ่ยถามอย่างดุดัน
ความรู้สึกเช่นนี้ เป็นเช่นเดียวกับตอนที่เขาเข้าโจมตีจวินหย่วนโยว
ทุกคนเห็นท่าทีของเขาที่ตื่นตระหนกเช่นนั้นก็พากันวิตกใจ จวินหย่วนโยวเดินมาทางนั้นพอดี จึงพบฟู่อี้เฉินที่วิ่งกลับมา
“หลังเขา ด้านหลังภูเขา หยุนถิงถูกคนจากสำนักราตรีไล่ฆ่า รีบไปเร็ว!” ฟู่อี้เฉินตะโกน
จวินหย่วนโยวไม่ทันที่จะเอ่ยถามถึงสิ่งอื่น เขารีบพาคนจากไปที่ด้านหลังเขาทันที
ร่างของฟู่อี้เฉินอ่อนแรงลงสู่พื้น เขาเหนื่อยหอบอ่อนล้า ตามปกติแล้วเขาผู้ถูกเลี้ยงดูอย่างเอาใจ หากนั่งได้แน่นอนว่าเขาจะมิยืน หากนอนได้แน่นอนว่าเขาจะมินั่ง เมื่อเขาต้องวิ่งมาเป็นระยะทางไกลเช่นนี้จึงได้เหนื่อยหอบมิไหว
เขาเห็นจวินหย่วนโยวและคนอื่นๆ จากไปแล้ว ฟู่อี้เฉินจึงได้แต่ภาวนาว่า หยุนถิงอย่าได้เกิดเรื่องขึ้นกับนางเลย
เมื่อครั้นจวินหย่วนโยวและคนอื่นๆ เดินทางมาถึง ที่ด้านหลังภูเขานั้นเงียบสงบ ไม่มีเสียงการต่อสู้แม้แต่น้อย ทำให้ทุกคนดูประหลาดใจ
หัวใจของจวินหย่วนโยวหล่นลงไปที่ตาตุ่ม “ทุกคนแยกกันออกตามหา จะต้องหาฮูหยินให้พบ!”
“ขอรับ!” ทุกคนแยกย้ายกันออกตามหา
พวกเขาเห็นรอยคราบเลือดบนพื้นมากมาย ดังนั้นจึงได้เดินไปตามรอยเลือด จนกระทั่งสุดท้ายหาหยุนถิงพบที่บริเวณโขดหิน
จวินหย่วนโยวเห็นหยุนถิงเช่นนั้นตัวเขาเองก็แข็งทื่อ
ร่างกายของหยุนถิงเต็มไปด้วยเลือด สีหน้าซีดเผือด นอนอยู่ตรงหินก้อนใหญ่โดยไม่ขยับเขยื้อน มุมปากของนางมีเลือดไหลออกมา ดวงตาทั้งคู่หลับสนิท มองไปช่างดูเจ็บปวดเหลือเกิน จวินหย่วนโยวปวดใจไร้คำบรรยาย
จวินหย่วนโยวรีบตรงเข้าไปทันทีเขาอุ้มหยุนถิงขึ้นมาอย่างระมัดระวัง มองดูสตรีที่สลบไสลอยู่ในอ้อมกอด แววตาดำคลับคู่นั้นของเขาเป็นประกายแห่งความเย็นชา เส้นเลือดบนใบหน้าปูดโปน รังสีอำมหิตโกรธแค้นนองเลือดแผ่ซ่านออกมา
หยุนถิงเป็นสตรีที่เขารักมากที่สุด เป็นดุจดั่งสมบัติที่เขากุมไว้ในมือ ยิ่งกว่าไข่ในหิน แม้แต่นางผมร่วงสักเส้นเดียวเขาก็ปวดใจแทน ใครกันกล้าดีมาทำร้ายหยุนถิง จวินหย่วนโยวตะโกนขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยความโมโหว่า
“หลงยีจงฟังคำสั่งข้า ข้าขอสั่งให้เจ้าพาองครักษ์เงามังกรทุกคนไปปราบสำนักราตรีให้ราบคาบ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...