จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 216

“คุณหนูเสวี่ย ความจริงซื่อจื่อของข้าดูแล้วมีสติปัญญาไม่ยึดติดราวกับเทพบุตร สง่างามหล่อเหลา ความจริงแล้วมีข้อเสียมากมาย คนทั่วไปไม่มีทางทนได้เลย

เขาชอบส่งเสียงดังเวลากินอาหาร ตอนนอนก็กรนผายลมกัดฟันน้ำลายไหล ภาชนะบนโต๊ะอาหารที่ใช้ในชีวิตประจำวันยังต้องล้างหลายครั้ง รักสะอาดอย่างมาก

เขานอนละเมอทุกคืน บางครั้งก็สวมเสื้อผ้าของผู้หญิง ใช้เยียนจือของผู้หญิง บางครั้งก็ทุบตีคน ข้าเกือบจะถูกเขาฟันตายหลายครั้งแล้ว-----

สรุปคือข้อบกพร่องของซื่อจื่อมากเกินไป ข้าพูดสามวันสามคืนก็พูดไม่หมด หน้าตาท่านก็ดูดี บุคลิกท่าทางและประสบการณ์ความรู้ก็ไม่เลว ทำไมจะต้องมาปักใจกับซื่อจื่อบุคคลที่ผู้คนประเมินค่าไม่สูงด้วย” หยุนถิงทอดถอนใจ

จวินหย่วนโยวที่อยู่ด้านข้างสีหน้าดำมืดราวกับเหล็ก มืดมนราวกับก้นหม้อ อากาศที่อยู่รอบตัวเย็นยะเยือกจนติดลบ

เขาคิดไม่ถึงว่า หยุนถิงจะว่าร้ายตัวเองขนาดนี้ ความปราดเปรื่องทั้งชีวิตของเขาถูกปากของนังหนูคนนี้ทำลายไปหมดแล้ว

โหวซือเสวี่ยฟังอย่างตกตะลึงอย่างยิ่ง สายตาเหลือบมองไปทางจวินหย่วนโยวด้วยความสงสัย “ที่ท่านพูดมาเป็นความจริงหรือ?”

“แน่นอนอยู่แล้ว จริงยิ่งกว่าทองคำแท้เสียอีก ข้านอนอยู่ข้างกายของซื่อจื่อทุกวัน ย่อมรู้ดีอยู่แล้ว” หยุนถิงหลอกลวงต่อไป

นางไม่กล้าเงยหน้ามองไปทางจวินหย่วนโยวที่อยู่ด้านข้างด้วยซ้ำ รู้สึกถึงแรงกดดันและความโหดร้ายรุนแรงที่แข็งแกร่งของซื่อจื่อ หยุนถิงสามารถจินตนาการได้เลยว่าซื่อจื่อโมโหมากแค่ไหน

“ในเมื่อซื่อจื่อมีข้อบกพร่องมากมายขนาดนี้ ทำไมท่านถึงยังอยู่ข้างกายของเขาล่ะ?” โหวซือเสวี่ยถามด้วยความไม่เข้าใจ

“ข้าไม่ลงนรก ใครจะลงนรก เพื่อไม่ให้ผู้หญิงคนอื่นต้องตกเข้าไปในกองเพลิงของซื่อจื่อ ข้าทำด้วยตัวเองดีกว่า มิเช่นนั้นในเมืองหลวงมีหญิงสาวมากมายขนาดนั้น เหตุใดถึงไม่แต่งงานกับซื่อจื่อล่ะ นั่นเป็นเพราะว่าพวกนางแอบสอบถามความชอบของซื่อจื่อกันอย่างลับๆแล้ว คนอื่นเขาระมัดระวังตัวขี้ระแวง มีแต่ข้าที่กระโดดเข้ากองไฟอย่างโง่เขลา” หยุนถิงทอดถอนใจ

ในเวลานี้โหวซือเสวี่ยรู้สึกเชื่อหยุนถิงเล็กน้อยแล้ว หญิงสาวในเมืองหลวงเป็นพันเป็นหมื่น หากต้องการจะแต่งงานกับซื่อจื่อเกรงว่าคงแต่งไปนานแล้ว มิน่าซื่อจื่อถึงเลือกเพียงหยุนถิงที่อัปลักษณ์อย่างยิ่ง ที่แท้ก็มีข่าววงในนี้นี่เอง

หากไม่ใช่เรื่องจริง เหตุใดจวินซื่อจื่อถึงไม่โต้แย้งเลยสักนิด และก็ไม่อธิบายด้วย สีหน้าของเขาไม่น่าดูขนาดนี้ ต้องเป็นเพราะเรื่องน่าอับอายของตัวเองถูกคุณหนูหยุนพูดออกมาทำให้รู้สึกขายหน้า

“คุณหนูหยุนท่านช่างยิ่งใหญ่จริงๆ วันนี้ข้าก้าวล่วงแล้ว พวกท่านก็ถือเสียว่าข้าไม่เคยกล่าวคำพูดเช่นนี้มาก่อนแล้วกัน ข้ารับรองว่าต่อไปจะไม่มีความคิดใดๆต่อซื่อจื่ออีก” โหวซือเสวี่ยแยกแยะความสัมพันธ์ทันที

ดวงตาคู่สวยของหยุนถิงมีความได้ใจแว๊บผ่านไปเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าคุณหนูเสวี่ยคนนี้จะหลอกง่ายเช่นนี้ เปลี่ยนเป็นผู้หญิงทั่วไปเกรงว่าคงจะดันทุรังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ นี่ทำให้หยุนถิงรู้สึกชื่นชมโหวซือเสวี่ยเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย

“เช่นนี้ย่อมดีที่สุด พี่สะใภ้ของเจ้าอยากจะคุยกับเจ้า รีบกลับไปอยู่กับนางเถอะ” โหวฉิงแอบโล่งใจอย่างลับๆ รีบร้อนกล่าวออกมา

“ตกลง” โหวซือเสวี่ยมุ่งหน้าเข้าไปในเรือน

โหวฉิงตกใจจนแผ่นหลังเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น ถือว่านังหนูคนนี้ยังไม่โง่เท่าไหร่ มิเช่นนั้นทั่วทั้งจวนแม่ทัพภักดีคงต้องเดือดร้อนไปด้วยแล้ว

“ซื่อจื่อ คุณหนูหยุนเหตุการณ์ในวันนี้ข้าต้องขอโทษพวกท่านแทนน้องสาวด้วย น้องสาวของข้าคนนี้มีนิสัยผู้ชายมาตั้งแต่เด็ก นิสัยตรงไปตรงมา พูดจาไม่ใช้ความคิด ขอทั้งสองท่านโปรดอย่าได้ถือสา” โหวฉิงกล่าวด้วยความเกรงใจ

“ไม่เป็นไร คุณหนูเสวี่ยจริงใจตรงไปตรงมา ดีกว่าผู้หญิงที่ถนัดวางแผนใช้เล่ห์เหลี่ยมพวกนั้นมาก” หยุนถิงกล่าวตอบ

จวินหย่วนโยวไม่สนใจเลยด้วยซ้ำ อุ้มหยุนถิงขึ้นมาในแนวนอน หันหลังกลับไปยังห้องของพวกเขา

โม่เหลิ่งเหยียนมองดูพวกเขาจากไป ดวงตาลึกล้ำ สีหน้าเย็นยะเยือก ทำให้ยากที่จะมองออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

กลับเข้าไปในห้อง

จวินหย่วนโยวโยนหยุนถิงลงไปบนเตียง ลุกขึ้นมาก็กดทับลงมา

“ซื่อจื่อ ข้าผิดไปแล้ว” หยุนถิงยอมแพ้ทันที

“ผิดตรงไหน?” น้ำเสียงที่เย็นยะเยือกของจวินหย่วนโยว ไม่มีความอ่อนโยนเลยแม้แต่น้อย

“ข้าไม่ควรว่าท่านแย่ขนาดนั้น ยิ่งไม่ควรแต่งเรื่องว่าท่านไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ ต่อหน้าคนมากมายขนาดนั้น แต่ว่าข้าก็มีความเห็นแก่ตัวเช่นกัน ข้าก็แค่ไม่อยากให้คุณหนูเสวี่ยชอบท่าน นางตกหลุมรักท่านตั้งแต่แรกพบ จะแต่งงานกับท่านให้ได้ หากข้าบอกว่าท่านดีอย่างนั้นดีอย่างนี้อีก นางก็ต้องมาแย่งท่านกับข้าสิ ข้าไม่อยากใช้สามีร่วมกับผู้หญิงคนอื่นหรอกนะ” หยุนถิงกล่าวตอบทันที

ถึงแม้คำพูดจะไม่เข้าหู ถึงขั้นจงใจใส่ร้ายป้ายสีตัวเอง แต่ว่านางรักตัวเอง ไม่อยากให้ผู้หญิงคนอื่นมาแย่งตัวเองถึงจำต้องทำเช่นนี้ ดังนั้นจวินหย่วนโยวสามารถเข้าใจได้

นาทีนี้ เขาแค่อยากจะรักนางให้ดี ผู้หญิงที่ทำให้เขายากที่จะหักห้ามความปรารถนาในใจ และลุ่มหลงมัวเมาคนนี้

ห้องที่กว้างใหญ่ เหลือเพียงเสียงหายใจหอบของทั้งสองคน นานพักใหญ่ก็ไม่จางหายไป

หลิงเฟิงกับรั่วจิ่งที่เฝ้าอยู่หน้าประตูมองหน้ากันไปมาครู่หนึ่ง ก็ออกไปเฝ้าด้านนอกลานโดยตรง ฟังเสียงความเคลื่อนไหวของซื่อจื่อกับฮูหยินทุกวัน พวกเขาใกล้จะทนไม่ไหวอยู่แล้ว

ในเวลาเที่ยงวัน จวนแม่ทัพภักดีมีแขกไม่ได้รับเชิญคนหนึ่งมาเยือน ซึ่งคือหลีอ๋องโม่ฉือหาน

เขามุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงตลอดทาง แต่กลับไม่พบรถม้าของจวินหย่วนโยว หลังจากที่กลับไปแล้วให้คนไปสอบถามถึงได้รู้ว่า จวินหย่วนโยวกับหยุนถิงไม่ได้กลับไปที่จวนซื่อจื่อ แต่ไปที่จวนแม่ทัพภักดี

ถึงแม้โม่ฉือหานจะไม่เข้าใจ แต่ก็ยังนำกำลังคนไล่ตามมา

เวลานี้ ในห้องโถงใหญ่ โหวฉิงคำนับด้วยความเคารพนบนอบ ให้พ่อบ้านยกน้ำชามาให้ “ไม่ทราบว่าหลีอ๋องมาเยือน ด้วยเหตุอันใด?”

“ข้าได้ยินมาว่าฮูหยินของท่านให้กำเนิดบุตรชาย ตั้งใจมาแสดงความยินดีโดยเฉพาะ” โม่ฉือหานกล่าวออกมาด้วยความเย็นชา

“ขอบคุณท่านอ๋องมาก”

“จวินหย่วนโยวกับหยุนถิงก็อยู่ที่จวนของท่านใช่ไหม?” โม่ฉือหานถามถึงประเด็นสำคัญ

“เรียนท่านอ๋อง ใช่แล้ว ครั้งนี้ฮูหยินคลอดยากโชคดีที่ได้คุณหนูหยุนช่วยเอาไว้ มิเช่นนั้นเกรงว่างานมงคลคงกลายเป็นงานศพไปแล้ว ทักษะทางการแพทย์ของคุณหนูหยุนยอดเยี่ยมมาก” โหวฉิงกล่าวชมเชย

“หยุนถิงอยู่ไหน พาข้าไปหานาง?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ