ผู้อาวุโสทั้งสามท่านของหอเทพเซียน รวมไปถึงมู่เซียวเซียวตกใจมาก หากมู่ว่านว่านเป็นอะไรไปจริงๆ ท่านพ่อต้องลงโทษนางอย่างแน่นอน
ดีที่ท่านเจ้าหอแห่งหอเทพเซียนได้รับจดหมาย และพาคนเร่งเดินทางมา
“ท่านพ่อ ช่างดีจริงๆที่ท่านมาแล้ว ตั้งแต่กลับมาจากงานเลี้ยงในวังคืนนั้นน้องสาวก็ล้มป่วย สุขภาพแย่ลงเรื่อยๆ ข้ากับผู้อาวุโสทั้งหลายตรวจดูแล้วแต่กลับไม่พบสาเหตุการป่วย” มู่เซียวเซียวเล่าเหตุการณ์ทั้งหมด
ท่านเจ้าหอเทียนบาฟังด้วยสีหน้าเคร่งเครียด รีบจับชีพจรให้มู่ว่านว่านทันที จากนั้นก็ฝังเข็มอังความร้อนให้นาง เขียนใบสั่งยา บรรดาผู้อาวุโสถือใบสั่งยาไปซื้อยามาต้มด้วยตัวเอง
ผ่านไปสามวันติดต่อกัน มู่ว่านว่านไม่เพียงไม่ดีขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามกลับหายใจรวยริน คนทั้งคนแม้แต่ยาน้ำก็ดื่มไม่ลง
ทีนี้มู่เทียนบาเป็นกังวลอย่างมาก เขารีบเข้าวังไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้ทันที อธิบายเหตุผลต่อฮ่องเต้ ฮ่องเต้ส่งหมอหลวงทั่วทั้งโรงหมอหลวงไปช่วยรักษาให้กับมู่ว่านว่าน แต่ก็ยังหาสาเหตุของอาการป่วยไม่พบ และไม่ดีขึ้นเลย ซึ่งทำให้ทุกคนเป็นกังวลอย่างมาก
“เจ้าบอกว่าว่านว่านถูกหยุนถิงทำร้ายหรือ?” มู่เทียนบาบันดาลโทสะ
“ใช่แล้วท่านพ่อ หากคุณหนูหยุนไม่ยืนกรานบีบบังคับให้ว่านว่านดื่มสุราถ้วยนั้นให้ได้ บางทีว่านว่านก็อาจจะไม่ล้มป่วย น้องสาวไม่เคยดื่มสุรามาก่อน” มู่เซียวเซียวกล่าวด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเอ็นดูสงสารและเป็นห่วงอย่างมาก
“บัดซบ ถึงกับกล้าทำร้ายลูกสาวของข้ามู่เทียนบา แถมยังทำให้หอเทพเซียนอับอายครั้งแล้วครั้งเล่า คิดว่าหอเทพเซียนของข้าไร้คนมีความสามารถจริงหรือ เด็กๆ ตามข้าไปที่จวนซื่อจื่อ!” มู่เทียนบาคำรามด้วยความโกรธ ก้าวเท้าก็เดินจากไป
ผู้อาวุโสรองอยู่ดูแลมู่ว่านว่าน คนอื่นๆล้วนติดตามมู่เทียนบาออกไป
กลุ่มคนของหอเทพเซียนมุ่งหน้าไปยังจวนซื่อจื่ออย่างยิ่งใหญ่เกรียงไกร ทุกคนบนท้องถนนล้วนตื่นตกใจ ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ บางคนใจกล้าจนถึงกับติดตามดูความครึกครื้นอยู่ด้านหลัง
จวนซื่อจื่อ
โม่ฉือชิงมองดูหยุนถิงกับจวินหย่วนโยวที่อยู่ตรงหน้า สีหน้าเต็มไปด้วยความสอดรู้สอดเห็นทันที: “พวกเจ้าสองคนได้ยินหรือยัง อาการป่วยของมู่ว่านว่านร้ายแรงมาก หยุนถิงเจ้าพูดมาตามตรง เจ้าแอบลงมือต่อมู่ว่านว่านใช่ไหม?”
มุมปากของหยุนถิงยกเป็นมุมโค้งเล็กน้อย: “ครั้งนี้ท่านเดาผิดไปแล้วจริงๆ ข้าไม่ได้แอบลงมือทำอะไรเลย”
“คำพูดของเจ้าจะหลอกใครได้ ข้าไม่เชื่อหรอก เจ้าวางยาพิษไปในสุราถ้วยนั้นใช่หรือไม่?” โม่ฉือชิงซักไซ้
สำหรับหยุนถิงที่เจ้าคิดเจ้าแค้นมาตลอด นางริเริ่มดื่มสุราคารวะก่อน ต้องมีอะไรแอบแฝงอย่างแน่นอน
“ปัญหาอยู่ที่สุราถ้วยนั้นจริงๆ แต่ข้าไม่ได้วางยาพิษ อีกฝ่ายเป็นถึงหอเทพเซียน หากในสุรามีพิษจริงๆ ท่านคิดว่ามู่เซียวเซียวจะไม่สังเกตเห็นหรือ อันที่จริงข้าแค่ยืมสำนวนหนึ่งมาใช้เท่านั้น: ตีตนไปก่อนไข้”
“หมายความว่าอย่างไร?”
“ที่ข้าขอพญาอินทรีตัวนั้นกับฝ่าบาท ก็เพราะว่ามันดูคล้ายกับอินทรีทอง คนทั่วไปสามารถดูออก แต่สำหรับมู่ว่านว่านที่ตกใจกลัวอินทรีทองแล้ว นางแยกแยะได้ยากมาก
ข้าไปสำรวจเส้นทางที่อุทยานเอาไว้ล่วงหน้า แขวนอินทรีเอาไว้บนเสาที่อยู่ตรงหน้ามู่ว่านว่าน ผ่านหลักการหักเหของภาพสะท้อน ก็จะทำให้เงาของพญาอินทรีปรากฏขึ้นมาในถ้วยสุราของนางพอดี เช่นนี้ตัวมู่ว่านว่านก็จะตื่นตระหนกและหวาดกลัว นึกว่าอินทรีทองล้างแค้น” หยุนถิงอธิบาย
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง หยุนถิงเจ้าช่างร้ายกาจจริงๆ ต่อไปจะล่วงเกินใครก็อย่าได้ล่วงเกินเจ้าเลย มิเช่นนั้นก็จะเป็นการแกว่งเท้าหาเสี้ยนเอง” โม่ฉือชิงทอดถอนใจ
“รู้ก็ดีแล้ว”
บ่าวรับใช้คนหนึ่งเข้ามาจากด้านนอกด้วยความตื่นตระหนก: “ซื่อจื่อ ท่านเจ้าหอแห่งหอเทพเซียนขอเข้าพบ บอกว่าต้องการจะพบฮูหยิน”
“พาพวกเขาไปที่ห้องโถงเถอะ!” จวินหย่วนโยวเอ่ยปาก
“ขอรับ”
ทันทีที่ได้ยินคำพูดนี้ ผู้อาวุโสสองท่านกับมู่เซียวเซียวที่ติดตามมาล้วนตกใจแย่แล้ว รู้สึกถึงสถานการณ์ที่ตึงเครียดนี้ มู่เซียวเซียวรีบร้อนเอ่ยปาก
“ท่านพ่อ บางทีเรื่องนี้อาจจะเป็นแค่ความเข้าใจผิดกัน ขอจวินซื่อจื่อโปรดอย่าได้โกรธไป พ่อข้าก็แค่เป็นห่วงความปลอดภัยของน้องสาวมากเกินไปเท่านั้น ถึงได้บุ่มบ่ามเช่นนี้ ขอซื่อจื่อโปรดอย่าได้ถือสา สถานการณ์ของน้องสาวร้ายแรงมากจริงๆ เราเองก็ไม่มีทางเลือก ถึงได้มาสอบถามสถานการณ์กับคุณหนูหยุนที่จวนซื่อจื่อ”
“ในเมื่อมาสอบถาม เช่นนั้นก็ควรจะมีท่าทีของการสอบถาม ระดมกำลังคนมามากมายเช่นนี้ คนที่ไม่รู้ยังคิดว่าหอเทพเซียนพวกท่านต้องการจะมาหาเรื่องที่จวนซื่อจื่อเสียอีก” หยุนถิงกล่าวออกมาอย่างเย็นชา
สีหน้าของมู่เทียนบาไม่น่าดูมากขึ้นเล็กน้อย แต่เขาเองก็รู้ว่า ที่นี่คือจวนซื่อจื่อ และยังมีองครักษ์เงามังกร หากลงมือกันขึ้นมาจริงๆ เกรงว่าเขาคงไม่ได้รับผลดีใดๆ
“ได้ยินมาว่าทักษะทางการแพทย์ของคุณหนูหยุนยอดเยี่ยม ชำนาญการรักษาโรคที่รักษายากที่สุด หากคุณหนูหยุนยอมช่วยน้องสาวของข้า หอเทพเซียนจะต้องตอบแทนอย่างงามแน่นอน” มู่เซียวเซียวถาม
“ข้าไม่ยินดี” หยุนถิงปฏิเสธเสียงเย็นชา
ถูกปฏิเสธต่อหน้าสาธารณชน มู่เทียนบาเต็มไปด้วยความโกรธเคืองกล่าวขึ้นมาว่า: “ลูกสาวของข้า ข้าช่วยเองเซียวเซียวไม่ต้องไปขอร้องนาง!”
“ถ้าหากท่านเจ้าหอมีความสามารถขนาดนี้ เกรงว่าวันนี้คงไม่มาที่จวนซื่อจื่อแล้ว ข้ามีวิธีช่วยมู่ว่านว่านได้จริงๆ”
“วิธีอะไร?” สีหน้าของมู่เทียนบาตึงเครียด
“ข้าได้ยินมาว่าหอเทพเซียนมีหญ้าเถาวัลย์ที่มีอายุนับพันปีต้นหนึ่ง หากท่านเจ้าหอยอมตัดใจ เช่นนั้นข้าก็จะรักษามู่ว่านว่าน” หยุนถิงเอ่ยปากโดยตรง
“เป็นไปไม่ได้ นั่นเป็นถึงสมบัติล้ำค่าที่สุดของหอเทพเซียนข้า!” มู่เทียนบาปฏิเสธโดยไม่แม้แต่จะคิดเลยด้วยซ้ำ
“เมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านเจ้าหอก็รอเก็บศพลูกสาวของท่านเถอะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...