เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว และในพริบตาก็ถึงวันงานเลือกนางกำนัลกับนางสนมที่ต้องเข้าวังของแคว้นต้าเยียนแล้ว
บ้านตระกูลซูไม่ได้รับราชโองการให้เข้าวัง ซูชิงโยวแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก นางรู้ว่าเป็นเพราะหยุนถิงช่วยนางร้องขอความเมตตา จึงรู้สึกซาบซึ้งใจยิงนัก
ซูโหวเย่กลับกำลังรออยู่ที่หน้าประตู รอไปรอมาก็ไม่เห็นกงกงมาท่ายทอดราชโองการ จึงรีบร้อนยิ่งนัก
"ท่านพ่อ คนของพระราชวังจะไม่มาแล้ว" ซูชิงโยวกล่าว
“เพราะเหตุใด?” ซูโหวเย่ไม่เข้าใจ
"ข้าเป็นคนขอให้คุณหนูหยุนช่วยข้าตัดสิทธิ์ในการเข้าวังของข้าเอง" ซูชิงโยวพูดเรื่องทั้งหมดออกมาอย่างคร่าวๆ
ทำเอาซูโหวเย่รู้สึกยินดีและตื่นเต้นมาก "เป็นเรื่องดีที่ลูกคิดเช่นนี้ วังหลังนั้นเป็นสถานที่อันตรายและน่ากลัวยิ่งนัก พ่อไม่อยากให้เจ้าเข้าวังจริง เพียงแต่ว่างานเลือกนางสนมนั้นเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องมีในทุกปี พ่อเองก็ปฏิเสธไม่ได้ โชคดีเจ้าได้ขอร้องกับหยุนถิง"
"ใช่ แน่นอนว่าความสุขชั่วชีวิตของลูกจะไม่ถูกทำลายและพังลงเช่นนี้ไปอย่างง่ายดายอยู่แล้ว" ซูชิงโยวกล่าว
"เดี๋ยวว่างๆพ่อจะไปขอบคุณหยุนถิงกับเจ้าเอง"
เมื่อซูซินโหรวที่กำลังจะเข้าไปในลานซึ่งอยู่ไม่ไกลนั้นได้ยินเช่นนี้ ดวงตาแสนสวยนั้นก็ฉายความเหยียดดูถูก
ซูชิงโยวนี้งี่เง่ายิ่งนัก ทิ้งโอกาสเข้าวังที่ดีเยี่ยงนี้ไป สมองไม่ดีหรือเปล่าถึงได้โง่เช่นนี้?
ปีหน้านางก็ถึงอายุที่จะเข้าวังแล้ว ถึงต้องนั้นจะคว้าโอกาสนี้ไว้อย่างดีแน่นอน ขอเพียงตัวเองสามารถยกตำแหน่งที่สูงขึ้นในทันทีทันใด ก็สามารถเหยียบซูชิงโยวไว้ใต้ฝ่าเท้าไปตลอดชีวิต เมื่อซูชิงโยวนึกถึงสิ่งนี้ ดวงตาแสนสวยนั้นก็ฉายความเหี้ยมโหดและได้ใจ หันหลังและจากไป
ส่วนที่ตระกูลฉินก็เต็มไปด้วยบรรยากาศที่ตึงเครียด
ฉินจิ้งอี๋ไม่อยากเข้าวัง แต่ฉินซ่างซูกลับไม่เห็นด้วย ฉินจิ้งอี๋ยอมทะเลาะกับพ่อ และใช้วิธีอดอาหารมาบังคับ แต่เสียดายที่พ่อยังไงก็ไม่ยอมตกลง ดังนั้นสองพ่อลูกจึงทะเลาะกันอย่างแรง ฉินซ่างซูโกรธจนป่วย
ลูกสาวคนนี้ดูอ่อนแอ แต่แท้จริงแล้วกลับดื้อรั้นมีความคิดของตัวเองยิ่งนัก หากนางไม่อยากเข้าวัง เช่นนั้นตระกูลฉินจะอธิบายต่อฝ่าบาทอย่างไร
ช่วงนี้จ้าวเคอไม่เห็นคุณหนูฉินออกไปข้างนอกเลย และรู้สึกกังวลเล็กน้อย แม่ของจ้าวเคอก็เร่งให้จ้าวเคอไปขอบคุณคุณหนูฉิน พิธีเข้าบ้านใหม่ในวันนั้นต้องขอบคุณคุณหนูฉินเป็นอย่างยิ่งที่ช่วยจัดการต้อนรับขับสู้
ดังนั้นวันนี้จ้าวเคอถึงมาเยี่ยมเยือนจวนตระกูลฉินพร้อมของขวัญเล็กน้อย แต่กลับถูกพ่อบ้านของจวนตระกูลฉินขวางไว้นอกประตู
"นายสนองจ้าว ช่วงนี้นายท่านของข้าถูกคุณหนูทำให้โกรธจนป่วย ร่างกายไม่ค่อยสบาย และไม่สะดวกที่จะพบแขก โปรดนายสนองจ้าวอย่าได้ถือสาเลย"
จ้าวเคอแข็งทื่อ และมองดูพ่อบ้านอย่างสงสัย
คุณหนูฉินเป็นผู้ที่มีความรู้ มีมารยาท อ่อนโยนและใจกว้าง สวยและเฉลียวฉลาดมาโดยตลอด จะทำให้พ่อตัวเองโกรธจนป่วยได้อย่างไรกัน
"เจ้าเป็นพ่อบ้านของตระกูลฉินจริงๆหรือ?"
"นายสนองจ้าวพูดอะไรกัน ข้าเป็นพ่อบ้านของตระกูลฉินมามากว่าสิบปีแล้ว ก็ต้องเป็นของจริงอยู่แล้ว" พ่อบ้านพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“เป็นข้าที่ละเมิดล่วงเกินแล้ว ข้าขอโทษ ข้าเพียงแค่รู้สึกว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่คุณหนูฉินจะทำออกมาได้” จ้าวเคออธิบาย
“อย่าพูดถึงเลย คุณหนูของข้ากำลังทะเลาะกับนายท่านเอาเป็นเอาตายไม่ยอมเข้าวัง ปีนี้คุณหนูอยู่ในรายชื่อของงานเลือกนางสนม หากไม่เข้าวังก็จะถือเป็นโทษหนักในการขัดขืนราชโองการ ทั้งตระกูลฉินต้องเดือดร้อนทนตามไปด้วย” พ่อบ้านบ่น
จ้าวเคอตกตะลึงอย่างกะทันหัน คุณหนูฉินอยู่ในรายชื่อของงานเลือกนางสนมด้วย หากนางเข้าวังไป------เมื่อนึกถึงตรงนี้ หน้าอกของจ้าวเคอก็หงุดหงิดหายใจไม่ออก และตึงเครียดเล็กน้อย
"อืม งั้นข้าไปขอคุณหนูหยุน" จ้าวเคอวิ่งออกจากบ้านด้วยความตื่นตระหนก และตรงไปที่จวนซื่อจื่อ
เมื่อผู้คนบนถนนเห็นเขาเช่นนี้ ก็นึกว่าเขาบ้า บางคนที่อยากรู้อยากเห็นก็ตามเขาไป แต่กลับเห็นเขาเข้าไปที่จวนซื่อจื่อ
ทันทีที่จ้าวเคอเห็น "หยุนถิง" ก็คุกเข่าลงทันที "คุณหนูหยุน โปรดช่วยข้าด้วย อย่าปล่อยให้คุณหนูฉิน้ต้องเข้างานเลือกนางสนมเลย"
"หยุนถิง" ที่กำลังดื่มชาอยู่ในลาน เหลือบมองใบหน้าที่จริงจังของเขาแล้วพูดว่า "เจ้าไว้ใจเถอะ เรื่องนี้ข้าได้บอกกับฝ่าบาทแล้ว ฉินจิ้งอี๋จะไม่เข้าวัง"
"จริงหรือ ดีมากเลย ขอบคุณคุณหนูหยุน สำหรับบุญคุณยิ่งใหญ่ของคุณหนูหยุน ชาติหน้าข้าจ้าวเคอจะยอมเป็นวัวเป็นควายมาตอบแทนท่าน" จ้าวเคอคุกเข่าและกราบในทันที
"เอาล่ะ ลุกขึ้นเถอะ ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเจ้าต้องให้คุณหนูฉินรู้ถึงใจที่เจ้ามีต่อนางก่อน" หยุนถิงกล่าว
“อืม ข้าจะบอกนาง” จ้าวเคอวิ่งหนีไปด้วยความดีใจ
เมื่อเห็นเขาจากไป หยุนถิงในลานก็ยิ้มอย่างรู้เท่าทัน ซื่อจื่อเฟยมีญาณรู้ถึงเหตุการณ์ล่วงหน้ามากจริงๆเลย รู้ว่าจ้าวเคอจะมาหานาง และได้กำชับเรื่องนี้ไว้ด้วยเฉพาะ
ไม่รู้ว่าตอนนี้ซื่อจื่อกับซื่อจื่อเฟยเป็นยังไงบ้างแล้ว?
ด้านนี่ เมื่อคืนนี้หยุนถิงและจวินหย่วนโยวดื่มมากเกินไป จากนั้นหยุนถิงก็เมาเหล้าและดันจวินหย่วนโยวล และยังบอกว่าจะอยู่ด้านบน ซึ่งทำให้จวินหย่วนโยวเอาอีกครั้งอย่างดุเดือด ดังนั้นวันรุ่งขึ้นตอนเช้า หยุนถิงก็เหนื่อยล้าจนผล็อยหลับไป
จวินหย่วนโยวเป็นคนอุ้มนางขึ้นรถม้าด้วยตัวเอง และเดินทางต่อไป เดินทางไปวันแล้ววันเล่า จนกระทั่งค่ำ จวินหย่วนโยวและพรรคพวกจึงค่อยมาถึงชายแดนแห่งแคว้นต้าเยียน
เมื่อคนของจวินหย่วนโยวในแคว้นเป่ยลี่รู้ว่าซื่อจื่อมาถึงแล้ว ก็ออกมาต้อนรับทันที ดังนั้นจวินหย่วนโยวจึงไม่ได้ไปหาโม่เหลิ่งเหยียน แต่ตรงเข้าไปที่เมืองหลวงของแคว้นเป่ยลี่ และถูกจัดให้อยู่ในลานหลังหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...