ฮูหยินเฒ่าฟู่เป็นม่ายมาหลายปี ไม่ชอบข้องแวะอำนาจในราชสำนัก ขุนนางทั่วทั้งราชสำนักของแคว้นต้าเยียนเลยไม่มีใครไปร่วมงานเลย เพียงแต่ให้บุตรธิดาตนมาเป็นตัวแทนร่วมงาน หนึ่งคือมาสนุกสนาน สองเป็นคนหนุ่มสาวด้วยกันก็มีเรื่องคุย
ได้ยินว่าในงานเลี้ยง เรื่องหยุนถิงชนะเอาชนะฟู่ซื่อจื่อได้ อย่าถามเลยว่าหยุนเฉิงเซี่ยงดีใจแค่ไหน เมื่อคืนก็ให้คนมาเขียนบทกลอนเหล่านั้นทั้งคืน เพื่อนำมาโอ้อวดด้วยความภูมิใจ
สิบกว่าปีมานี้หยุนถิงถูกทุกคนรังเกียจเหยียดหยามราวกับเป็นหนูสกปรกตามท้องตลาด หายากนักที่พลิกกระดานกลายเป็นอัจฉริยะบทกลอน ยอดฝีมือวาดภาพ หยุนเฉิงเซี่ยงในฐานะพ่อเรียกได้ว่าผ่อนลมหายใจคล่องคอยิ่งนัก
ตอนเช้าเขาตั้งใจให้คนตีฆ้องร้องป่าวโดยเฉพาะ บุตรสาวเขาเก่งกาจเพียงนี้ คนเป็นพ่อย่อมต้องฉลองอยู่แล้ว
หยุนเฉิงเซี่ยงที่กำลังภูมิใจพลันเห็นร่างคุ้นเคยในฝูงชน เขาดีใจยิ่งนัก รีบพุ่งเข้ามาหา “ลูกพ่อ ทุกคนมาดูเร็วนี่ลูกสาวข้า ผู้ที่ท่องบทกลอนในงานเลี้ยงวันเกิดของฮูหยินเฒ่าฟู่เมื่อคืนไง”
หยุนถิงชะงักกึก พ่อตัวเองนี่ขี้อวดไปหน่อยไหม ดึงเธอออกมาเลยเชียว
จู่ๆมาเอิกเกริกแบบนี้ เธอรู้สึกกระอักกระอ่วนน่าดู
ฝูงชนที่ห้อมล้อมพากันเลื่อมใส “คุณหนูหยุนช่างเก่งกาจนัก ท่องกลอนได้คมเพียงนี้ เป็นเอกลักษณ์ ช่างน่าเลื่อมใสนัก” ฝูงชนพากันกล่าวชม
“ทุกคนไม่ต้องเกรงใจดอก ข้าแค่พูดไปอย่างนั้น” หยุนถิงพูดอย่างเก้อเขิน
“พูดไปอย่างนั้นก็สามารถท่องกลอนได้ดีเยี่ยงนี้ หากตั้งใจคิด มิกลายเป็นอัฉริยะหญิงอันดับหนึ่งแห่งแคว้นต้าเยียนเลยรึ อีกครู่หยุนเฉิงเซี่ยงคงต้องพูดให้พวกเราฟังแล้วล่ะว่าเลี้ยงบุตรสาวให้ดีเยี่ยงนี้ได้อย่างไร” คนหนึ่งในนั้นพูดขึ้น
“ได้เลย ได้เลย มิใช่ปัญหาเลย” หยุนเฉิงเซี่ยงได้หน้าขั้นสุด “จริงสิลูกพ่อ ทำไมวันนี้เจ้ากลับมาได้เล่า?”
“วันนี้ข้าออกมาเดินตลอด ระหว่างเดินอยู่ทุกคนเชิญข้าร่ายกลอน ข้าก็รับปากทำให้ทุกครั้งที่มีคนขอ สุดท้ายเลยได้รับของมาไม่น้อยตลอดทาง ผ่านมาสามถนน ก็เต็มคันรถแล้ว พอดีผ่านหน้าบ้านเรา เลยควบรถม้ามานี่แหละ ยกให้ท่านพ่อหมดเลยแล้วกัน” หยุนถิงตอบอย่างนอบน้อม
หยุนเฉิงเซี่ยงกับฝูงชนมองไปทางของบนรถม้า ไข่ไก่ ผักสด ผลไม้ ผ้าพับ และยังมีหมั่นโถว ซาลาเปา กระทั่งรองเท้าผ้าคู่หนึ่ง---
ทุกคนพากันตกตะลึง นี่เป็นของที่ชาวบ้านมอบให้ทั้งนั้น ล้วนเป็นของไม่มีราคา แต่จำนวนมากนัก หากเป็นตัวหยุนถิงเอง ด้วยเงินเบี้ยเลี้ยงหนึ่งแสนตำลึงที่จวินซื่อจื่อมอบให้นางทุกเดือน น่ากลัวจะมิซื้อของราคาถูกพวกนี้ดอก
“ดี ดี บุตรสาวข้าช่างเก่งกาจนัก สามารถได้รับความรักจากชาวบ้านมากมายเพียงนี้ ไม่เลว ไม่เลวจริงๆ ต่อไปเวลาข้าออกไปไหนก็สามารถยืดอกภูมิใจได้ละ ดูสิใครจะกล้าว่า บุตรสาวข้าเป็นขยะไร้ค่าอีก” หยุนเฉิงเซี่ยงพูดอย่างตื่นเต้น
“เอาล่ะท่านพ่อ ท่านรีบรับเข้าไปเถอะ ทุกคนรีบเลือกภาพกลับไปเถอะ ข้าอยากอยู่เป็นเพื่อนท่านพ่อต่ออีกหน่อย” หยุนถิงเอ่ยปาก
“ได้ ได้” ทุกคนเลือกภาพที่ชอบแล้วกลับบ้านไป
หน้าประตูใหญ่ ผู้คนมากมายพากันแยกย้ายไป คนรับใช้ที่ตีฆ้องร้องป่าวต่างเข้ามายกของเข้าไป
“ลูกเอ๋ย เจ้าช่างทำให้พ่อได้หน้าจริงๆ สมเป็นบุตรสาวข้า” หยุนเฉิงเซี่ยงพูดอย่างตื่นเต้น
“ท่านพ่อ ข้าจะบอกท่านเรื่องหนึ่ง ท่านอย่าตระหนกเกินไปนะ” หยุนถิงพูดเสียงเบา
“พ่อไม่ตระหนก เจ้าพูดมาได้เลย”
“ท่านพ่อ ข้าทำร้ายองค์หญิงเจ็ดต่อหน้าธารกำนัล และยังทำจนนางหน้าบวมชนิดพ่อแม่จำไม่ได้อีกด้วย” หยุนถิงตอบ
“หา?” หยุนเฉิงเซี่ยงหน้ามืดฉับพลัน แทบเป็นลมล้มลงไป
เมื่อครู่เขายังโอ้อวดกับทุกคนถึงความเฉลียวฉลาดของบุตรสาวตนเอง สุดท้ายลูกสาวก็ทะเลาะวิวาทกับผู้อื่น นี่ไม่เท่ากับตบหน้าตนเองรึ
หยุนถิงเห็นพ่อตนเองแทบเป็นลมลงไป รีบยื่นมือไปกดจุดจุดใต้จมูกของหยุนเฉิงเซี่ยง ใช้แรงกดลงไป
หยุนถิงเห็นทุกคนคุ้มครองโดยให้ตนอยู่ตรงกลาง ซาบซึ้งมาก
สีหน้าโม่ฉือหานดำมืด เส้นเลือดที่ขมับเต้นตุบๆ ดวงตาดำขลับมองไปอย่างมาดร้าย “ต่อให้เป็นองครักษ์เงามังกรแล้วยังไง หรือว่าพวกเจ้าคิดจะขัดราชโองการของฝ่าบาท ขัดราชโองการอย่างเปิดเผยงั้นรึ?”
หยุนเฉิงเซี่ยงที่เดิมยังกังวลพอเห็นองครักษ์เงามังกรมา ก็มั่นใจขึ้นมาก “หลีอ๋อง ท่านอย่าป้ายสีองครักษ์เงามังกร ซื่อจื่อเป็นห่วงบุตรสาวข้า ส่งองครักษ์เงามังกรมาคุ้มครองนาง จะเรียกว่าขัดราชโองการได้อย่างไร ข้าว่าท่านอิจฉาริษยามากกว่า”
“หยุนเฉิงเซี่ยงระมัดระวังคำพูดท่านไว้หน่อย ข้าไม่แยแสดอก ใครก็ได้จับหยุนถิงไว้!” โม่ฉือหานออกคำสั่ง
กองทัพหลวงที่อยู่ด้านหลังเขากำกระบี่ยาวไว้แน่น แต่ไม่มีใครกล้าก้าวขึ้นหน้า องครักษ์เงามังกรเป็นองครักษ์ลับแข็งกล้าอันดับหนึ่งแห่งแคว้นต้าเยียน สามารถสู้ได้หนึ่งต่อร้อย แค่พวกเขาหลายสิบคนไม่กล้าเข้าใกล้ได้โดยง่ายหรอก
ทำเอาโม่ฉือหานเดือดจัด ถีบกองทัพหลวงคนหนึ่งที่อยู่ใกล้อย่างเดือดดาล “ไป ไปจับตัวหยุนถิงซะ”
คนผู้นั้นโดนถีบไปหลายเมตร ในมือถือกระบี่ยาว แต่ก็กล้าๆกลัวๆ ไม่กล้าขึ้นหน้า ตกใจแทบเป็นลม
หยุนถิงยิ้มเย็น “ในเมื่อฝ่าบาทอยากพบข้า ข้าไปกับพวกเจ้าก็ได้แล้ว หลีอ๋องเองไม่มีความกล้าเผชิญหน้า องครักษ์เงามังกร เหตุใดต้องระบายอารมณ์กับกองทัพหลวงด้วย”
คำพูดเดียวทำเอากองทัพหลวงที่อยู่ที่นั่นซาบซึ้งไปตามๆกัน คุณหนูหยุนช่างมีมารยาทยิ่ง
“ลูกพ่อ เจ้าไปไม่ได้ ถ้าเกิดเจ้าเป็นอะไรไป พ่อจะอยู่ได้อย่างไร?” หยุนเฉิงเซี่ยงพูดอย่างเป็นห่วง
“เอาน่าท่านพ่อ มาร้องไห้ทำไมตอนนี้ ลูกสาวท่านข้าน่ะบุญพาวาสนาสูง ยังรอมีลูกชายให้ท่านอุ้มได้เลย วางใจเถอะท่านพ่อ ข้าไปวังหลวงสักรอบ ไม่เป็นไรหรอก ตอนนี้ท่านให้ห้องครัวเตรียมอาหารไว้ อีกครู่ข้ากลับมากินข้าวกลางวันด้วยนะ” หยุนถิงปลอบ
“จริงนะ เจ้าจะกลับมาทานกลางวันด้วยจริงนะ?” หยุนเฉิงเซี่ยงถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...