จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 970

“ไม่ใช่ ไม่มีใครรังแกข้า ข้าแต่คิดถึงมากเท่านั้น ไม่ได้เจอท่านมาตั้งนานแล้ว ต่อไปท่านห้ามหายไปนานขนาดนี้อีกนะ” จวินเสี่ยวเหยียนสูดจมูกแล้วพูดขึ้นมาอย่างน้อยอกน้อยใจ

หัวใจที่เย็นชาของโม่เหลิ่งเหยียนถูกหลอมละลายไปทันที คิดไม่ถึงเลยว่ายัยเด็กคนนี้จะคิดถึงตัวเองเช่นนี้ “ได้ ข้ารับปากเจ้า ต่อไปจะไม่ห่างกับเจ้านานขนาดนี้แล้ว”

“อืม เกี่ยวก้อยกันนะ” จวินเสี่ยวเหยียนยื่นนิ้วก้อยออกไป

ถ้าเป็นเวลาปกติ โม่เหลิ่งเหยียนไม่ชอบที่สุดก็คือการกระทำแบบปัญญาอ่อนแบบนี้ แต่วินาทีนี้ในใจกลับยื่นมือออกมาเกี่ยวก้อยกับจวินเสี่ยวเหยียนอย่างมีความอดทน

จวินหย่วนโยวที่อยู่ด้านข้าง เห็นแล้วก็รู้สึกจิตใจวุ่นวายมาก แต่ก็ไม่พูดอะไร

“เอาล่ะ ในเมื่อมาแล้วก็ไปที่จวนเจ้าเมืองกันเถอะ” โม่เหลิ่งเหยียนพูดขึ้นมา แล้วอุ้มตัวจวินเสี่ยวเหยียนขึ้นมา แล้วก็เดินไปเลย

ส่วนพวกหยุนถิงกับจวินหย่วนโยวก็เดินตามอยู่ด้านหลัง แล้วตรงไปที่จวนเจ้าเมืองเลย พวกทหารรีบยกน้ำชากับขนมและอาหารอร่อยมาให้

พอจวินเสี่ยวเหยียนเห็นขนม ก็ดีใจขึ้นมาทันที แล้วเอาหยิบขนมขึ้นมาสองชิ้นแล้วก็วิ่งกลับไปนั่งอยู่ในอ้อมกอดของโม่เหลิ่งเหยียน

“ข้าได้รับจดหมายของท่านแล้ว ยาสารภาพความจริงของข้าไม่มีผลต่อตระกูลเวินจริง ๆ หรือ เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” หยุนถิงเปิดปากพูดออกไปตามตรง

“ข้ามาถึงเมืองชิ่งหรวน แล้วจับตัวคนร้ายที่ฆ่าเจ้าเมืองคนก่อนได้ คือเวินฉิงคุณหนูใหญ่ของตระกูลเวิน แล้วให้นางกินยาสารภาพความจริงเข้าไป เพื่อให้บอกเป้าหมายของตระกูลเวินออกมา แต่กลับพบว่าสิ่งที่นางพูดออกมานั้นมีแต่คำพูดที่กวนโอ๊ยทั้งนั้น”

“จากนั้นข้าก็ให้หมิงจิ่วซางกินยาสารภาพความจริงเข้าไปเม็ดหนึ่ง ก็พบว่ายาไม่ได้มีปัญหาอะไร ซึ่งก็เป็นยาที่เจ้าให้ข้ามาก่อนหน้านี้ทั้งนั้น ข้าถึงได้เกิดความสงสัยขึ้นมา” โม่เหลิ่งเหยียนบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดรอบหนึ่ง

สีหน้าของจวินหย่วนโยวกลายเป็นเคร่งเครียดขึ้นมา “การแพทย์ของถิงเอ๋อร์ไร้ที่ติอยู่แล้ว และยาสารภาพความจริงก็ไม่เคยไร้ประสิทธิภาพมาก่อน แบบนี้เห็นได้ชัดเลยว่าตระกูลเวินต้องมียอดฝีมืออยู่แน่ หรือว่าเป้าหมายของพวกเขาจะไม่ได้มีแค่จวนซื่อจื่อ”

“ข้าสามารถเจอคุณหนูใหญ่ตระกูลเวินคนนั้นหน่อยได้ไหม?” หยุนถิงถามขึ้นมา

“ได้แน่นอนอยู่แล้ว เดี๋ยวข้าพาท่านไป” โม่เหลิ่งเหยียนพูดขึ้นมา แล้วก็มองไปที่จวินเสี่ยวเหยียน “เสี่ยวเหยียนเจ้าเล่นกับเสี่ยวเทียนที่นี่ไปก่อนนะ เดี๋ยวข้าจะพาแม่ของเจ้าไปพบคนคนหนึ่ง เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว”

“ได้เจ้าค่ะ” จวินเสี่ยวเหยียนรีบลงจากอ้อมกอดของโม่เหลิ่งเหยียนไปทันที

“หลิงเฟิง เจ้าอยู่ดูแลพวกเด็ก ๆ นะ” จวินหย่วนโยวก็จะตามไปด้วย

“ท่านพี่ ท่านอยู่กับลูก ๆ เถอะ ข้าไปคนเดียวก็พอแล้ว นอกเหนือจากนี้ก็ให้ห้องครัวช่วยเตรียมอาหารอร่อย ๆ ให้ข้าหน่อย ไปมือเปล่าแบบนี้มันไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่มั้ง” หยุนถิงพูดขึ้นมา

จวินหย่วนโยวเข้าใจขึ้นมาทันที “ได้”

“ซวนอ๋อง รบกวนท่านช่วยหาชุดทหารมาให้สักชุดนะ” หยุนถิงเปิดปากพูดขึ้นมา

โม่เหลิ่งเหยียนพยักหน้าแล้วก็รีบสั่งการลงไปทันที ครู่เดียวโม่จิ่วทหารคนสนิทก็เอาเสื้อผ้าชุดหนึ่งเข้ามา “ท่านอ๋อง นี่คือชุดทหารขนาดเล็กที่สุดขอรับ”

“ขอบใจมาก” หยุนถิงยื่นมือรับไป

ผ่านไปไม่นาน หยุนถิงก็แต่งตัวให้ตัวเองกลายเป็นทหารที่สะดุดตาน้อยที่สุดคนหนึ่ง ถ้าไม่ใช่เพราะรู้จักนางอยู่แล้ว โม่เหลิ่งเหยียนคิดว่าคงดูไม่ออกแน่

ทหารคนหนึ่งหิ้วกล่องข้าวเข้ามา “ท่านอ๋อง อาหารทำเสร็จแล้วขอรับ”

“เอามาให้ข้า เดี๋ยวข้าจะไปพบคุณหนูใหญ่ตระกูลเวินคนนั้นสักหน่อย” หยุนถิงรับไปหิ้วไว้

โม่เหลิ่งเหยียนนำทางไปด้วยตัวเอง คราวนี้จวินหย่วนโยวไม่ได้ตามไปด้วย แต่ว่าอยู่ดูลูกทั้งสองต่อ ไม่นานหยุนถิงก็มาถึงคุกหลวง พอพูดคุยกับโม่เหลิ่งเหยียนไปไม่กี่ประโยคแล้ว ก็เดินเข้าไปตัวคนเดียว

เวินฉิงที่อยู่ในคุก พอเห็นว่ามีคนมา ก็ระเบิดอารมณ์ขึ้นมาไม่หยุด “เจ้าทหารเล็ก ๆ อย่างเจ้า รีบไปตามซวนอ๋องมาหาข้าเดี๋ยวนี้ ข้าจะพบเขา เอาข้ามาขังอยู่ในคุกที่ทั้งสกปรกทั้งเหม็นแบบนี้ได้ยังไง ช่างชั่วช้าจริง ๆ”

“ร้ายแรงไหม ให้ข้าช่วยดูหน่อยไหม” โม่เหลิ่งเหยียนที่ซ่อนตัวอยู่เดินออกมาแล้วพูดขึ้นมา

หยุนถิงขยับคอเล็กน้อย “ไม่ต้อง ไม่เป็นอะไรมาก เมื่อกี้ข้าหลอกล่อออกมาได้แล้ว เป้าหมายของพวกเขาไม่ใช่แค่จวนซื่อจื่อแต่ยังมีฮ่องเต้ด้วย จะล้มล้างบัลลังก์ หรือว่าฝ่าบาทมีความแค้นใหญ่หลวงอะไรกับตระกูลเวินหรือ?”

สีหน้าของโม่เหลิ่งเหยียนเคร่งขรึมขึ้นมาทันที “ข้าจำได้ว่าในสมุดบันทึกของพระราชวัง เมื่อก่อนตระกูลเวินได้ส่งลูกสาวเข้าวังด้วย แล้วได้รับความรักจากฝ่าบาท และถูกแต่งตั้งให้เป็นกุ้ยเฟย เป็นรองจากฮองเฮา

ด้วยเหตุนี้ตระกูลเวินจึงสามารถเชิดหน้าชูตาในแปดตระกูลใหญ่ ตระกูลเวินอาศัยอำนาจของเวินกุ้ยเฟย กดขี่ข่มเหงคนอื่น ข่มขืนหญิงชาวบ้าน ซ่องสุมกำลังทหาร…….

สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เวินกุ้ยเฟยเป็นที่โปรดปรานแล้วก็โอหัง เพราะว่าหลายปีตัวเองก็ยังไม่ตั้งครรภ์ พอเห็นสนมคนอื่นคลอดลูกชายออกมา ก็ลอบทำร้ายองค์ชายน้อย พอเรื่องนี้ถูกเปิดโปงขึ้นมา ฮ่องเต้ก็รู้สึกปวดใจเป็นอย่างมาก แล้วก็ปลดเวินกุ้ยเฟยออกจากตำแหน่ง แล้วส่งตัวไปอยู่ที่ตำหนักเย็น

ด้วยเหตุนี้ ตระกูลเวินจึงตกต่ำไป และฝ่าบาทก็ฉวยโอกาสนี้ยึดกำลังทหารส่วนตัวของตระกูลเวินกลับไป หลังจากที่ลงโทษตระกูลเวินไปรอบหนึ่งแล้ว แปดตระกูลใหญ่อื่น ๆ ก็เย้ยหยันตระกูลเวินเป็นอย่างมาก แล้วตอกย้ำซ้ำเติมมาก

ต่อมาเวินกุ้ยเฟยที่อยู่ในตำหนักเย็น ก็สมรู้ร่วมคิดกับสายลับของแคว้นชางเยว่ อยากจะล้มล้างบัลลังก์ แต่กลับถูกองครักษ์ลับของฮ่องเต้องค์ก่อนจับได้ แล้วก็สังหารพวกเขาไป

ล้มล้างบัลลังมีโทษฆ่าล้างตระกูลถึงเก้าชั่วโคตร แน่นอนว่าฮ่องเต้องค์ก่อนไม่มีทางปล่อยตระกูลเวินไปแน่นอนได้ยินมาว่าคนที่นำทหารไปปราบตระกูลเวินก็คือพ่อของจวินหย่วนโยว

เพียงแต่เหมือนกับว่าตระกูลเวินจะได้ยินข่าวคราวมา ถึงแม้จะบาดเจ็บล้มตายไปเยอะ แต่ก็เป็นคนรับใช้กับบ่าวทั้งนั้น ส่วนนายท่านเวินกับลูกหลานทั้งหลายล้วนหายตัวไปหมดเลย

เหมือนกับว่าพวกเขาจะได้รับข่าวล่วงหน้า จึงหลบซ่อนตัวไปแล้ว ต่อมาฝ่าบาทสั่งให้คนไปค้นหา ค้นหากันไปครึ่งเดือนก็หาไม่เจอ ก็เลยออกหมายจับขึ้นมาอีกครั้ง และออกหมายจับพวกเขาไปทั่วแคว้นต้าเยียน แต่ก็หาตัวไม่พบเลย

แต่คิดไม่ถึงว่าผ่านมานานหลายปีขนาดนี้ ตระกูลเวินจะผงาดขึ้นมาอีกครั้ง พวกเขาเก็บเขี้ยวเล็บมานานขนาดนี้ ตอนนี้กลับกล้าเปิดเผยออกมา เห็นได้ชัดว่าได้เตรียมการไว้แล้ว ไม่ควรประมาทจริง ๆ”

หยุนถิงได้ยินแล้วก็ขมวดคิ้วขึ้นมา “เพราะฉะนั้น ตระกูลเวินจะเอาความแค้นของพ่อมาชำระกับลูก จะเอาบัญชีความแค้นในตอนนั้นมาคิดกับจวินหย่วนโยวงั้นหรือ”

“จะพูดแบบนี้ก็ได้”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ