หยุนถิงเห็นความลังเลของเขาอยู่ในสายตา ก็เข้าใจในทันที “หากคุณชายรองชอบกิน เช่นนั้นก็กินเยอะๆหน่อย ข้าทำเอาไว้เยอะเลย”
“อร่อย อร่อยจริงๆ” เวินเฉียนจิ่วหัวเราะแฮะๆ หยิบขนมอบยัดใส่ปากไม่หยุด
“หากคุณชายรองชอบ สามารถมาที่ลานของข้าบ่อยๆ ของอร่อยที่ข้าทำเป็นยังมีอีกมากมาย” หยุนถิงเสนอแนะ
“ขอบคุณพี่สาวคนสวย อร่อยมาก” คุณชายรองกินหมดหนึ่งชิ้น ก็หยิบขนมอบขึ้นมาอีกหนึ่งชิ้น
บ่าวรับใช้วิ่งเข้ามาทันที ในมือถือยกยาน้ำเอาไว้ถ้วยหนึ่ง เมื่อเห็นจวินหย่วนโยวกับหยุนถิงก็คำนับด้วยความเคารพนบนอบทันที “คำนับจวินซื่อจื่อ ซื่อจื่อเฟย คุณชายรองกินยาได้แล้ว”
มองดูยาน้ำที่ดำปิ๊ดปี๋ถ้วยนั้น ใบหน้าของเวินเฉียนจิ่วเต็มไปด้วยความรังเกียจ “ขม ข้าไม่กิน”
“คุณชายรองเป็นเด็กดี ยาน้ำนี้มีประโยชน์ต่อการฟื้นฟูของท่าน นายท่านบอกว่าท่านต้องกินให้ได้ มิเช่นนั้นจะไม่ได้กินผลไม้แช่อิ่ม” บ่าวรับใช้ยกถ้วยเข้ามา
เวินเฉียนจิ่วคว่ำยาน้ำถ้วยนั้นลงไปบนพื้นด้วยความโกรธ จากนั้นก็หลบอยู่ด้านหลังของหยุนถิงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว “พี่สาวคนสวย ข้าไม่กินยา ขม ขมจริงๆ”
“ให้ซื่อจื่อเฟยหัวเราะเยาะแล้ว ในเวลาปกติคุณชายรองกินยาง่ายมาก วันนี้ไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้ บ่าวจะให้คนไปเคี่ยวมาใหม่อีกถ้วยเดี๋ยวนี้” บ่าวรับใช้กล่าว
“คุณชายรองของเจ้าเป็นอะไรหรือ ป่วยเป็นโรคอะไร ข้ามีทักษะทางการแพทย์พอดี ข้าช่วยตรวจรักษาเขาดู” หยุนถิงเสนอแนะ
“ทำเช่นนั้นไม่ได้หรอก นายท่านเชิญหมอมีชื่อเสียงมากมายมารักษาก็ไม่มีประโยชน์ ไม่รบกวนซื่อจื่อเฟยดีกว่า” บ่าวรับใช้ปฏิเสธอย่างอ้อมๆทันที กล่าวจบก็ดึงเวินเฉียนจิ่วจากไปโดยไม่อนุญาตให้โต้แย้ง
“พี่สาวคนสวยช่วยข้าด้วย ช่วยข้าด้วย!” เวินเฉียนจิ่วตะโกนเสียงดัง
แต่บ่าวรับใช้คนนั้นมีเรี่ยวแรงมหาศาล ความเร็วก็รวดเร็วมาก ลากตัวเวินเฉียนจิ่วกลับไปที่เรือนโดยตรง
จวินหย่วนโยวมองไปทางประตูเรือนที่ปิดสนิท ดวงตาลึกล้ำมืดมน “บ่าวรับใช้คนหนึ่งยังสามารถตัดสินใจแทนคุณชายรองได้ น่าสนใจจริงๆ”
“ในเมื่อพวกเขาไม่ต้องการ เราก็กลับกับเถอะ” ขณะที่พูดหยุนถิงก็ยื่นมือไปจับมือของจวินหย่วนโยวจากไป
บ่าวรับใช้ที่อยู่ในเรือนเห็นว่าจวินหย่วนโยวกับหยุนถิงจากไปแล้ว ถึงได้โล่งอกไปเปลาะหนึ่ง มองไปทางเวินเฉียนจิ่วด้วยสีหน้าไม่พอใจ “คุณชายรอง สองคนนั้นล้วนเป็นคนไม่ดี ต่อไปท่านต้องอยู่ให้ห่างจากพวกเขา มิเช่นนั้นพวกเขาจะทำร้ายท่านนะ”
เวินเฉียนจิ่วพยักหน้าอย่างแรง “อืม”
คืนนั้น ทันทีที่ผ่านยามจื่อ จวินหย่วนโยวก็พาหยุนถิงมุ่งหน้าไปที่ลานของคุณชายรอง
ได้ยินเสียงดังเล็กน้อยในห้อง เวินเฉียนจิ่วที่อยู่บนเตียงลืมตาขึ้นมาทันที มองดูคนชุดดำที่เข้ามาสองคน ไม่มีความตื่นตระหนกและหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามมุมปากเกี่ยวขึ้นมาอย่างปลื้มใจเล็กน้อย
“จวินซื่อจื่อ ซื่อจื่อเฟยมาแล้วจริงๆ!”
“ในตอนกลางวันคุณชายรองร้องขอให้ข้าช่วย ก็เพื่อจะให้ข้ามาช่วยเจ้าไม่ใช่หรือ” หยุนถิงถามกลับ
“ซื่อจื่อเฟยฉลาดมาก ข้าต้องการความช่วยเหลือของทั้งสองท่านจริงๆ ดังนั้นจึงมอบความจริงใจของข้าออกไปก่อนล่วงหน้า” เวินเฉียนจิ่วตอบ
“คุณชายรองรู้ได้อย่างไรว่าซื่อจื่อเฟยของข้าถูกพิษ?” จวินหย่วนโยวถามถึงประเด็นสำคัญ
“เพราะซื่อจื่อเฟยเป็นคนที่บรรพจารย์ตระกูลเวินต้องการ เผ่ามารดาของซื่อจื่อเฟยเป็นเผ่าเลือด เล่าขานกันว่าเลือดของคนเผ่าเลือดสามารถแก้พิษได้ หากได้รับการขัดเกลาบางทีอาจจะทำให้คนเป็นอมตะได้
หลายปีมานี้บรรพจารย์ตระกูลเวินตามหาร่องรอยของคนเผ่าเลือดมาโดยตลอด จนกระทั่งไม่นานมานี้มีคนส่งจดหมายลับมา บอกว่าซื่อจื่อเฟยก็คือลูกหลานของเผ่าเลือด ดังนั้นเจ้าบ้านถึงได้ส่งพี่หญิงใหญ่ไปโจมตีเมืองชิ่งหรวน จุดประสงก็เพื่อล่อพวกท่านมา
และระหว่างที่ข้าหมดสติ นางก็ใส่ร้ายว่าท่านแม่ของข้ามีความสัมพันธ์กับผู้ชายข้างนอก เจ้าบ้านเวินรู้ทั้งรู้ว่าท่านแม่ถูกใส่ร้าย แต่เพราะต้องพึ่งพาอิทธิพลของตระกูลมารดาฮูหยินใหญ่ จึงจำต้องลงโทษท่านแม่
ต่อมาหลังจากที่ข้าตื่นขึ้นมา ได้ยินว่าท่านแม่ทนรับความอัปยศอดสูไม่ไหว จึงแขวนคอฆ่าตัวตายไป ตอนนั้นข้าเกลียดตัวเองแทบตาย หากไม่ใช่เพราะข้าโอ้อวดเช่นนี้ ท่านแม่ก็คงไม่ตาย
ดังนั้นเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ ข้าทำได้แค่แกล้งทำเป็นโง่เขลาเบาปัญญาเท่านั้น แสร้งทำเป็นมีความฉลาดทางด้านสติปัญญาแค่ของเด็กอายุไม่กี่ขวบเท่านั้น ดีที่รอจนได้พบจวินซื่อจื่อกับซื่อจื่อเฟย
ข้าขอเพียงทั้งสองท่านสามารถช่วยให้ข้าได้ฆ่าศัตรูด้วยมือของตัวเอง เพื่อที่จะได้บอกกับวิญญาณของแม่ผู้ล่วงลับบนสวรรค์” เสียงของเวินเฉียนจิ่วเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและเสียใจภายหลัง
หากสามารถย้อนเวลากลับมาใหม่ เขาจะไม่แสดงความสามารถเช่นนั้นเด็ดขาด บางทีท่านแม่ก็จะไม่ตายก่อนวัยอันควรเพราะตนเอง
“บรรพจารย์ตระกูลเวินเป็นใคร อยู่ที่ไหน?” จวินหย่วนโยวถามถึงประเด็นสำคัญ
สีหน้าของเวินเฉียนจิ่วเคร่งขรึมมากยิ่งขึ้นเล็กน้อย “บรรพจารย์ตระกูลเวินเชี่ยวชาญทักษะทางการแพทย์ เขาทุ่มเทศึกษาค้นคว้าเป็นเวลาหนึ่งปีถึงได้คลี่คลายยาสารภาพความจริงของซื่อจื่อเฟยได้สำเร็จ ตอนนี้ยาสารภาพความจริงใช้ไม่ได้ผลกับคนตระกูลเวินทุกคน
ก่อนหน้านี้เขาอาศัยอยู่หลังเขาฝึกฝนทักษะการปรุงยา แต่ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเขากลับอยู่ที่ตระกูลเวิน บางทีก็ปลอมตัวเป็นบ่าวรับใช้ บางครั้งก็ปลอมตัวเป็นเจ้าบ้าน สรุปแล้วคือซ่อนตัวอยู่ในตระกูลเวิน เปลี่ยนสถานะอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงระบุได้ยากมากว่าคนไหนเป็นเขากันแน่
ข้าก็สังเกตเห็นโดยบังเอิญเช่นกัน ครั้งหนึ่งเขาปลอมตัวเป็นเวินเหลียงหยาแต่กลับกินน้ำผึ้ง เหลียงหยาแพ้น้ำผึ้ง แต่เขากลับไม่เป็นอะไรเลย ดังนั้นข้าถึงได้คาดเดาเช่นนั้น”
“หมายความว่า บรรพจารย์ตระกูลเวินคนนี้อยู่รอบข้างเรานี่แหละ ข้าช่วยจับชีพจรให้เจ้าก่อนเถอะ” ขณะที่พูดหยุนถิงก็เดินเข้าไป
เวินเฉียนจิ่วยื่นแขนเข้ามา ในนาทีที่หยุนถิงจับชีพจรของเขา นางขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย ช่วยจับชีพจรให้เขาต่อไป
“พิษร้ายแรงในร่างกายของคุณชายรองกินเวลานานเป็นสิบปีแล้ว และหัวใจปอดม้ามก็กำลังเสื่อมถอยอย่างต่อเนื่อง หากไม่รีบรักษา อย่างมากก็อยู่ได้อีกแค่หนึ่งปีเท่านั้น” หยุนถิงกล่าว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...