เวินเฉียนจิ่วไม่ได้ตื่นตระหนกและหวาดกลัว ตรงกันข้ามกลับเต็มไปด้วยความเฉยเมย “ด้วยความสามารถของจวินซื่อจื่อกับซื่อจื่อเฟย จะจัดการตระกูลเวินหนึ่งปีเพียงพอแล้ว”
หยุนถิงได้ยินความเศร้าโศกและสิ้นหวังจากน้ำเสียงของเขา ในนาทีนี้หยุนถิงถึงกับรู้สึกเห็นอกเห็นใจเขาเล็กน้อย หยิบขวดเครื่องเคลือบออกมาจากกระเป๋าที่พกติดตัวตลอด “ยาโอสถพวกนี้ขวดละหนึ่งเม็ด วันละสามครั้ง ข้าค่อยช่วยเจ้าฝังเข็ม เวลาประมาณหนึ่งเดือนพิษในร่างกายของเจ้าก็จะถูกกำจัดออกไป แต่ความเสียหายที่เกิดจากร่างกายกลับไม่สามารถรักษาให้หายได้ ทำได้เพียงบรรเทาความเจ็บปวดให้เจ้าชั่วคราวเท่านั้น”
“เช่นนี้ก็ดีมากแล้ว ขอบคุณซื่อจื่อเฟยมาก” เวินเฉียนจิ่วกล่าวขอบคุณ
เวินเฉียนจิ่วกินยาโอสถทันที หยุนถิงช่วยเขาฝังเข็มเสร็จแล้วถึงได้จากไป จวินหย่วนโยวไม่ได้พูดอะไรเลย ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าประตู
หลังจากที่หยุนถิงฝังเข็มเสร็จแล้ว จวินหย่วนโยวถึงพานางจากไป
กลับไปถึงห้อง หยุนถิงเอ่ยปาก “ท่านพี่ ท่านว่าบรรพจารย์ตระกูลเวินคนนี้อยู่ที่ไหน?”
“ในเมื่อคุณชายรองตระกูลกล่าวเช่นนี้ เขาต้องอยู่รอบตัวอย่างแน่นอน หรือไม่ก็อยู่ในลานนี้ เริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปเจ้าห้ามออกไปจากสายตาของข้า” เวินจวินหย่วนโยววิเคราะห์
“ตกลง เช่นนั้นเรามานัดหมายสัญญาณลับกัน เช่นนี้ถ้าหากบรรพจารย์คนนั้นปลอมตัวเป็นท่านกับข้า เราก็จะสามารถมองออก!” หยุนถิงเสนอแนะ
“เจ้าเป็นคนกำหนดเลย” จวินหย่วนโยวเห็นด้วย
“เช่นนั้นข้าต้องคิดเอาไว้หลายๆอัน ท่านพี่ข้าบอกว่าชอบท่าน ท่านต้องบอกว่าข้ารักเจ้ามากกว่า ต้องการค่อยๆแก่เฒ่าไปพร้อมกับข้า ข้ากินห่านย่างฝูหรง เช่นนั้นท่านต้องตอบว่าได้ แต่ว่าจะกินพระกระโดดกำแพง ข้าบอกว่าวันนี้อากาศดีจริงๆ ท่านก็บอกว่าเหมาะกับการนอน------”
หยุนถิงกล่าวอย่างจริงจัง จวินหย่วนโยวก็ฟังอย่างจริงจัง ทั้งสองคนยังฝึกซ้อมกันหลายรอบ ก่อนที่จะเข้านอน
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น เวินเหลียงหยาก็มาที่ลานของหยุนถิง “จวินซื่อจื่อ ซื่อจื่อเฟยถ้าอย่างไรวันนี้ข้าพาพวกท่านไปขี่ม้าดีไหม วันนี้อากาศดีมากจริงๆ?”
จวินหย่วนโยวมองเขาอย่างเย็นชาครู่หนึ่ง “ไม่ไป!”
มุมปากของเวินเหลียงหยากระตุกขึ้นมา “ทำไมล่ะ ขี่ม้าสนุกจะตาย ท่านพ่อซื้อม้ามาใหม่อีกแล้ว เดิมทีคิดเอาไว้ว่าอยากจะพาพวกท่านไปดูสักหน่อย”
ก่อนหน้านี้เวินเหลียงหยารับปากจะให้ม้ากับเขาหนึ่งหมื่นตัว จวินหย่วนโยวส่งพวกมันออกไปผ่านฐานลับของจวนซื่อจื่อแล้ว ตอนนี้ย่อมไม่มีความสนใจแล้ว
“ไม่สนใจ!” จวินหย่วนโยวปฏิเสธโดยไม่แม้แต่จะคิดด้วยซ้ำ
การขี่ม้ามันอันตราย ถ้าหากมีคนแอบทำอะไรกับม้าล่ะ จวินหย่วนโยวย่อมไม่อนุญาตให้เกินอุบัติเหตุใดๆทั้งสิ้น
“เช่นนั้นข้าไปเดินเล่นกับพวกท่านเป็นอย่างไร เอาแต่อุดอู้อยู่ในบ้านมันน่าเบื่อจะตาย พวกท่านมาที่ด่านชายแดนหลายวันแล้วยังไม่เคยออกไปเที่ยวเลยใช่ไหม” เวินเหลียงหยาเสนอแนะ
“คุณชายสามอยากให้พวกเราออกไปเช่นนี้ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?” หยุนถิงมองเจตนาของเขาออก กล่าวถามขึ้นมา
“ปิดบังซื่อจื่อเฟยไม่ได้จริงๆ พี่ใหญ่ของข้าจะให้ข้าเรียนหนังสือเขียนอักษรให้ได้ ข้าไม่ชอบเรื่องพวกนี้จริงๆ ดังนั้นจึงคิดว่าอยู่เป็นเพื่อนพวกท่านก็จะสามารถหนีรอดไปได้” เวินเหลียงหยาตอบไปตามความจริง
“ช่างไม่ประจวบเหมาะจริงๆ วันนี้ข้ากับซื่อจื่อไม่อยากไปไหนทั้งนั้น” หยุนถิงปฏิเสธไปโดยตรง
“ก็ได้ พวกท่านก็ถือว่าข้าไม่เคยมาแล้วกัน” เวินเหลียงหยาถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ก้าวเท้าก็จากไป
หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวล้วนไม่ได้สนใจ ทั้งคู่ตากแดดในลานต่อไป หลายวันติดต่อกันพวกเขาก็ไม่พบความผิดปกติ อาหารที่ส่งมา ก็ยังคงเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการเช่นเดิม
แต่ว่าหยุนถิงก็ไม่ได้กินมันเลย หยิบอาหารออกมาจากมิติโดยตรง และอาหารของตระกูลเวินล้วนถูกนางเททิ้งในถังขยะของมิติ แถมยังกำชับลูกทั้งสองที่อยู่ในมิติโดยเฉพาะว่าห้ามไปแตะต้องมัน
ทุกครั้งที่บ่าวรับใช้เข้ามาเก็บจาน จานล้วนว่างเปล่าตลอด แถมในเรือนและในลานก็ไม่พบเศษอาหารเหลือ ทุกคนย่อมไม่สงสัยนางอยู่แล้ว
“ท่านพี่ ท่านว่านี่มันก็หลายวันแล้ว บรรพจารย์คนนี้ยังไม่ปรากฏตัวอีก ต้องกำลังคิดวางแผนร้ายอะไรอยู่แน่นอน” หยุนถิงกระซิบ
จวินหย่วนโยวมองดูบ่าวรับใช้ชายคนนั้นครู่หนึ่ง “ข้าต้องอยู่กับซื่อจื่อเฟย ไม่ว่าง!”
บ่าวรับใช้ชายคุกเข่าลงไปกับพื้นทันที “จวินซื่อจื่อช่วยด้วย เจ้าบ้านของข้าถูกคนลอบสังหารได้รับบาดเจ็บสาหัส บอกว่าจำเป็นต้องได้พบจวินซื่อจื่อให้ได้ ขอซื่อจื่อโปรดช่วยให้สมปรารถนา!”
“ท่านพี่ เช่นนั้นท่านก็ไปเถอะ ข้าไปดูคุณชายรองคนเดียวก็พอแล้ว” หยุนถิงเอ่ยปาก
สีหน้าของจวินหย่วนโยวมีความไม่พอใจมากขึ้นเล็กน้อย “ตกลง เช่นนั้นข้าไปดูเจ้าบ้านเวินก่อน เจ้าต้องระวังให้มาก อีกเดี๋ยวข้าไปหาเจ้า!”
“ตกลง”
จวินหย่วนโยวติดตามบ่าวรับใช้ชายจากไป หยุนถิงก็ติดตามเวินหวู่อวี่จากไป
เพียงแต่เมื่อมองดูทางที่เวินหวู่อวี่นำไป หยุนถิงขมวดคิ้วขึ้นมา “คุณชายใหญ่ เจ้าแน่ใจว่านี่คือทางไปลานของคุณชายรอง ทำไมทางนี้มันถึงได้ดูเปลี่ยวเล็กน้อยล่ะ?”
อย่างไรเสียลานของคุณชายรอง ก่อนหน้านี้หยุนถิงเคยแอบไปมาก่อน ดูอย่างไรก็ไม่เหมือน สีหน้าหยุนถิงเคร่งขรึมทันที ในใจมีความคาดเดาขึ้นมาแล้ว
“วันนี้น้องชายคนรองไปเล่นที่ลานหลัง แต่แล้วจู่ๆร่างกายก็ชักกระตุกขึ้นมา บ่าวรับใช้กลัวว่าถ้าเคลื่อนย้ายตามอำเภอใจมันจะไม่ดีต่อสุขภาพของเขา ดังนั้นก็เลยไม่กล้าหามเขากลับไป ซื่อจื่อเฟยติดตามข้าไปก็พอ!” ขณะที่พูดเวินหวู่อวี่ก็เร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น
มองดูความเร็วใต้เท้าของนาง หยุนถิงถึงได้แน่ใจยิ่งขึ้น นางไม่ได้เดินตามต่อไป แต่หันหลังหยิบสัญญาณออกมาจากกระเป๋าเอวโยนขึ้นไปกลางอากาศ
เพียงแต่ว่าสัญญาณนั่นยังไม่ทันได้ลอยขึ้นฟ้า ก็ถูกอาวุธลับชิ้นหนึ่งโจมตี ร่วงหล่นลงไปบนพื้น
“ซื่อจื่อเฟย นี่ท่านจะส่งข้อความให้กับผู้ใด จวินหย่วนโยวหรือ?” เสียงของเวินหวู่อวี่เคร่งขรึมลงมาเล็กน้อย ซักถามขึ้นมา
“เจ้าไม่ใช่คุณชายใหญ่ตระกูลเวิน และก็ไม่ได้พาข้าไปที่ลานของคุณชายรอง เจ้าคือบรรพจารย์ตระกูลเวิน!” หยุนถิงกล่าวอย่างเย็นชา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...