เมื่อคำพูดนี้ของอ้ายเสี่ยวเตี๋ยออกมา เย่อู๋เทียนก็รู้สึกหมดคำจะพูด
คำพูดนี้มัน......
อะไรเรียกว่าฉันจงใจจะแกล้งเธอ ?
เย่อู๋เทียนหยิบถั่วลิสงขึ้นมาจากโต๊ะอาหาร มองมาที่อ้ายเสี่ยวเตี๋ยอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นกินและพูดออกมาว่า “รู้ไหมว่าทำไมตอนแรกฉันถึงไม่เลือกที่จะเป็นหมอ ? นั่นก็เพราะว่ากลัวที่จะต้องมาเจอคนไร้เหตุผลอย่างเธอไง ฉันเพิ่งจะช่วยชีวิตเธอมาครั้งหนึ่ง เอาก้างที่ติดอยู่ในคอของเธอออกมา เมื่อเธอดีขึ้นแล้ว แม้แต่ขอบคุณสักคำก็ไม่มี ตอนนี้ฉันช่วยพูดให้เธอเห็นถึงอาการป่วยของเธอ แต่เธอกลับตอบแทนฉันด้วยทัศนคติเช่นนี้ มันช่างน่าเสียใจเหลือเกิน”
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยพูดไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากผ่านไปสักพักก็พูดออกมาว่า “แต่นายก็จะเอาเรื่องส่วนตัวของฉันออกมาพูดแบบนี้ไม่ได้ อีกอย่างนาย นายรู้ได้อย่างไรว่าฉันป่วย ? จากท่าทางของนายมันทำให้ฉันรู้สึกว่านายเป็นคนโกหกที่เร่ร่อนไปทั่ว !”
เย่อู๋เทียนยักไหล่แล้วพูดว่า “โอเค งั้นถือว่าฉันเข้าไปยุ่งเรื่องของเธอมากเกินไปแล้วกัน”
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยกัดริมฝีปากและพูดออกมาว่า “ขอบคุณ”
เย่อู๋เทียนชะงักเล็กน้อย เงี่ยหูแล้วถามว่า “เธอพูดว่าอะไร ? ฉันไม่ได้ยิน”
ดวงตาของอ้ายเสี่ยวเตี๋ยเผยให้เห็นถึงความโกรธ กัดฟันและพูดว่า “ขอบคุณ !”
เย่อู๋เทียนยิ้มออกมาพร้อมพูดว่า “ไม่เป็นไร ที่จริงฉันก็ประทับใจในตัวเธอไม่น้อย นอกจากความมุทะลุ เธอก็ถือว่าเป็นคนจิตใจดี รั่วชิงมีเพื่อนแบบเธอ ฉันเองก็คิดว่าเธอน่าจะมีความสุข อ่าใช่แล้ว ก่อนหน้านี้เธอเคยบอกว่าเธอเคยส่งประวัติย่อให้เทียนจวิน กรุ๊ป ? งั้นพรุ่งนี้เธอก็ไปสมัครงานพร้อมกับรั่วชิงเลย จะต้องสำเร็จอย่างแน่นอน !”
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยยิ้มอย่างเยือกเย็น “แน่นอนฉันต้องสมัครงานสำเร็จอยู่แล้ว แต่มันเกี่ยวอะไรกับนาย ตอนนี้พี่สาวของเสิ่นรั่วชิงเป็นถึงรองประธานของเทียนจวิน กรุ๊ป หากฉันสามารถเข้าไปทำงานในเทียนจวิน กรุ๊ปได้ มันก็เป็นเพราะเห็นแก่หน้าของเสิ่นรั่วชิงไม่ใช่หรือไง !”
เย่อู๋เทียนยิ้มออกมาแต่ไม่ได้อธิบายอะไร
ในตอนนี้เสิ่นรั่วชิงเดินออกมาจากห้องน้ำแล้ว สังเกตเห็นว่าสายตาที่อ้ายเสี่ยวเตี๋ยมองมายังเย่อู๋เทียนนั้นเต็มไปด้วยความไม่พอใจจึงถามออกไปด้วยความสงสัย “พวกเธอสองคนมีเรื่องอะไรกันเหรอ ?”
เย่อู๋เทียนยิ้มออกมาเล็กน้อย “ไม่มีอะไร”
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยพูดอย่างโกรธเคือง “จะไม่มีได้อย่างไง มี !”
เสิ่นรั่วชิงผงะเล็กน้อย “เกิดอะไรขึ้น ?”
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยพูดอย่างโกรธเคือง “สามีของเธอพูดจาแทะโลมฉัน !”
เสิ่นรั่วชิงหัวเราะและพูดว่า “เขาพูดจาแทะโลมเธอเหรอ ? ปกติเขาไม่เคยแม้แต่แกล้งฉันด้วยซ้ำ”
“......”
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยไม่รู้จะพูดอะไรออกมา
แต่ตอนนี้ อ้ายเสี่ยวเตี๋ยขมวดคิ้วขึ้นมาและรู้สึกราวกับว่ามีบางอย่างกระทบกับช่องท้องส่วนล่างของเธอ
ปัสสาวะแตกกะทันหันเหมือนกับน้ำท่วม
ผู้หญิงไม่เหมือนกับผู้ชาย
กลั้นไว้ไม่อยู่
ร่างกายของอ้ายเสี่ยวเตี๋ยสั่นเทา ลุกขึ้นยืนอย่างกะทันหันและวิ่งเข้าห้องน้ำทันที
เสิ่นรั่วชิงมองไปยังเงาหลังของอ้ายเสี่ยวเตี๋ยด้วยความงุนงง ตะโกนออกมาว่า “นี่ เสี่ยวเต๋อ เธอเป็นอะไรไป ?”
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้ตอบอะไรกลับมา ตอนนี้เธอวิ่งเข้าไปในห้องน้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แทบจะร้องไห้ออกมาแล้ว
ราวกับหากช้ากว่านี้อีกสักก้าวเดี๋ยวจะกลายเป็นข่าวใหญ่แห่งปี
เสิ่นรั่วชิงหันกลับมา จ้องมองเย่อู๋เทียนด้วยความสงสัย ถามออกมาว่า “เสี่ยวเต๋อเป็นอะไร ?”
เย่อู๋เทียนยิ้มและตอบว่า “ไม่มีอะไร เมื่อกี้เธอดื่มเบียร์เยอะขนาดนั้น ตอนนี้คงจะทนไม่ไหวแล้ว”
อันที่จริงเมื่อสักครู่เย่อู๋เทียนได้แอบสะบัดถั่วลิสงไปยังท้องน้อยของอ้ายเสี่ยวเตี๋ย เพื่อกระทบกระเพาะปัสสาวะของเธอ ทำให้นิ่วในกระเพาะปัสสาวะของเธอถูกทำลายอย่างง่ายดาย
มิเช่นนั้น หากอ้ายเสี่ยวเตี๋ยไปหาหมอที่โรงพยาบาล เธอจะต้องนอนป่วยอยู่บนเตียงอย่างน้อยสามวัน
เสิ่นรั่วชิงจ้องมองมาที่เย่อู๋เทียนด้วยความสงสัยและพูดว่า “ฉันหมายถึง ทำไมเธอถึงดูไม่พอใจนายถึงขนาดนั้น ? นาย......นายคงไม่ได้ไปพูดจาแทะโลมเธอจริง ๆ ใช่ไหม ?”
เย่อู๋เทียนพูดแบบหยอกล้อเป็นครั้งแรก “ฉันพูดจาแทะโลมผู้หญิงคนอื่น จำเป็นต้องปิดบังเธอไหม ?”
เสิ่นรั่วชิงกัดริมฝีปาก มองมาที่เย่อู๋เทียนด้วยสายตาซึ่งเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
เย่อู๋เทียนยิ้มออกมา “ตอนที่เธอโกรธมันดูน่ารักมาก”
ความพยายามของเสิ่นรั่วชิงถูกทำลายลง กลอกตาขาวมองไปยังเย่อู๋เทียน พูดออกมาด้วยความหงุดหงิด “คนเลว !”
เย่อู๋เทียนถูมือของเขาสองสามครั้ง จงใจไปนั่งด้านข้างของเสิ่นรั่วชิง กระซิบออกมาว่า “ที่รัก เมื่อสักครู่เธอคุยอะไรกับอ้ายเสี่ยวเตี๋ยอย่างนั้นเหรอ ?”
ใบหน้าของแดงจนแทบบ้า ราวกับหยดเลือดจะไหลออกมา พูดออกมาอย่างคลุมเครือว่า “ไม่มีอะไรนิ ก็แค่คุยกันเรื่องของผู้หญิง นายเป็นผู้ชายจะอยากรู้ไปทำไม ?”
เย่อู๋เทียนหัวเราะออกมาดังลั่น “ไม่พูดก็ไม่เป็นไร แค่ไม่พูดให้ร้ายฉันก็พอแล้ว”
เสิ่นรั่วชิงสูดลมหายใจเข้า คีบปลาชิ้นหนึ่งป้อนให้เย่อู๋เทียนด้วยใบหน้าสีแดง พูดออกมาว่า “รีบกินเร็ว กินเสร็จจะได้ไปร้านเหล้า ฉันไม่ได้เจอกับอ้ายเสี่ยวเตี๋ยมานานขนาดนี้ มีเรื่องมากมายอยากคุยกับเธอ”
เย่อู๋เทียนได้รับประโยชน์จากสิ่งนี้ รอยยิ้มของเขาดูชั่วร้าย “ฉันต้องการให้เธอป้อน”
ดวงตาของเสิ่นรั่วชิงเบิกกว้างโดยไม่ตั้งใจ
คิดไม่ถึงเลยว่าเย่อู๋เทียนจะขอร้องอะไรแบบนี้ออกมา
น่าอายมาก
แต่เสิ่นรั่วชิงก็ยังคงช่วยนำก้างปลาออกให้เย่อู๋เทียน จากนั้นมือข้างหนึ่งถือตะเกียบ มืออีกข้างถือจานใส่เนื้อปลา ป้อนเข้าปากของเย่อู๋เทียน
ผู้ชายที่ทานอาหารอยู่โดยรอบเห็นฉากนี้ พวกเขาต่างรู้สึกได้ทันทีว่า ปลาที่อยู่ตรงหน้าของพวกเขารสชาติไม่ได้เรื่อง และสิ่งที่มากกว่านั้นก็คือ ผู้หญิงทุกคนที่อยู่รอบตัวของพวกเขานั้นดูหน้าตาไม่ได้เรื่อง !
เนื่องจากรูปลักษณ์ของเสิ่นรั่วชิงนั้นราวกับเทพธิดา !
ผู้หญิงแบบนี้น่าทะนุถนอมเหลือเกิน และแฟนหนุ่มของเธอยังมาขอให้เธอช่วยป้อนปลาให้อีก !
น่าอิจฉา !
มันช่างน่าอิจฉาเหลือเกิน !
หลังจากนั้นไม่นาน อ้ายเสี่ยวเตี๋ยที่ไปเข้าห้องน้ำก็เดินกลับมา
เห็นว่าเย่อู๋เทียนเข้ามาแย่งที่นั่งของเธอ แถมเสิ่นรั่วชิงก็ยังป้อนปลาให้เย่อู๋เทียนอยู่ด้วย......
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยกัดฟันแน่น !
แอบคิดในใจ
อีกเดี๋ยวเมื่อไปร้านเหล้า จะต้องทำให้เย่อู๋เทียนเมาให้ได้ จากนั้นจะต้องทำให้เขาต้องอับอาย !
เธอไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง มันเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร
อีกด้านหนึ่ง ท่านฮัวที่ร่างเต็มไปด้วยรอยสัก ตอนนี้เขาเดินตามคนที่ถูกเรียกว่าท่านหลิน เขาถามออกมาว่า “ท่านหลิน ทำไมท่านดึกมาดึกขนาดนี้ มีเรื่องอะไรงั้นเหรอครับ ?”
ท่านหลินหัวเราะแล้วพูดว่า “ไปพบคนผู้หนึ่งมา คุณชายของตระกูลหานแห่งตี้ตู”
ท่านฮัวผงะ ไม่ได้ถามอะไรออกมามากกว่านั้น
ทันใดนั้นท่านหลินหยิบโทรศัพท์ของเขาออกมา เปิดรูปให้ท่านฮัวดู สั่งออกไปอย่างใจเย็น “ตามหาคนผู้นี้ จัดการให้เรียบร้อย ส่งเขาไปยังทางด้านของเหล่าซาน เอาไตของเขาออกมาข้างหนึ่ง”
คนในภาพนี้ก็คือ เย่อู๋เทียน
ท่านฮัวมองมัน ยิ้มและถามออกมาว่า “เจ้านี่มันชื่อว่าอะไร ?”
ท่านหลินตอบว่า “เย่อู๋เทียน ไม่รู้เหมือนกันว่าเขามาจากที่ไหน แต่กล้ามายุ่งกับลูกสาวของปู่เฉา ! ปัญหาก็คือ ลูกสาวของปู่เฉาเองก็หลงใหลในตัวเขา !”
ชื่อจริงของท่านหลินก็คือ หลินฟู่เซิง เป็นลูกน้องของฉาวซิง
หลายปีที่ผ่านมาเขาให้ความช่วยเหลือฉาวซิงอย่างลับ ๆ มาโดยตลอด นอกจากช่วยฉาวซิงในเรื่องของธุรกิจแล้ว เขายังช่วยขจัดปัญหาส่วนตัวบางอย่างของฉาวซิงด้วย
ตัวอย่างเช่น ใครที่กล้าเข้ามาใกล้ลูกสาวของฉาวซิง หยางเฟยเอ๋อร์ ขอแค่ฉาวซิงไม่สบอารมณ์ เขาจะสั่งให้หลินฟู่เซิงไปจัดการทันที เบาหน่อยก็ขับไล่ออกไปจากเจียงไห่ แต่ถ้าสถานหนักก็ถึงขั้นทำลายไตของอีกฝ่าย จากนั้นก็ขับไล่ออกจากเจียงไห่ !
ภายใต้สมมติฐานดังกล่าว ในระยะเวลาสองถึงสามปีที่ผ่านมา ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้หยางเฟยเอ๋อร์
หนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ ฉาวซิงส่งรูปภาพของเย่อู๋เทียนให้กับหลินฟู่เซิงผ่านโทรศัพท์มือถือ แต่ไม่ได้บอกให้หลินฟู่เซิงจัดการกับเย่อู๋เทียน แต่แค่ให้หลินฟู่เซิงสืบหาตัวตนของเย่อู๋เทียนเท่านั้น
ฉาวซิงยังพูดกับหลินฟู่เซิงอีกว่า “เย่อู๋เทียนผู้นี้ เฟยเอ๋อร์ชอบมาก จึงจำเป็นต้องทำให้ทุกอย่างงดงามกว่าที่เคยเป็น”
แต่คิดไม่ถึงว่าหลินฟู่เซิงจะเข้าใจความหมายของฉาวซิงผิด คิดว่าฉาวซิงต้องการเหมือนกับก่อนหน้านี้ คือการให้เขาจบชีวิตของอีกฝ่ายเหมือนที่ผ่านมา !
ท่านฮัวบันทึกรูปของเย่อู๋เทียนลงในโทรศัพท์ของตนเองทันที พูดออกมาว่า “วางใจได้ เรื่องนี้จะเสร็จสิ้นภายในสองวัน”
หลินฟู่เซิงตบไหล่ของท่านฮัว ยิ้มและพูดว่า “ต้องรบกวนนายแล้ว”
ท่านฮัวถึงยิ้มและเดินจากไป
แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือ ในตอนที่เขาเพิ่งเดินออกมาจากบาร์ เขาก็ได้พบกับเย่อู๋เทียน
ในตอนนั้นเย่อู๋เทียนกำลังอยู่กับเสิ่นรั่วชิง แถมถูกเสิ่นรั่วชิงควงแขนด้วย
ส่วนอ้ายเสี่ยวเตี๋ย เธออยู่อีกด้านหนึ่งของเสิ่นรั่วชิง กระซิบกับเสิ่นรั่วชิงว่า “เป็นไงบ้าง คนที่มาเที่ยวที่นี่ต่างเป็นสาวสวยเห็นไหม ? นี่แค่ด้านนอก ด้านในมีคนสวยเยอะกว่านี้อีก โดยเฉพาะพนักงานบริการหญิงที่อยู่ด้านใน ส่วนมากพวกเธอจะสวมชุดบันนี่เกิร์ล อ่า แรงดึงดูดช่วงน่ายั่วยวนขนาดนี้ อีกเดี๋ยวเธอต้องเฝ้าดูสายตาสามีของเธอให้ดี หากเขากล้ามองเละละ นั่นก็แปลว่า เขาจะต้องมีความคิดเจ้าเล่ห์อยู่ !”
และเมื่อคำพูดนี้เงียบลง อ้ายเสี่ยวเตี๋ยก็ชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง เงยหน้าขึ้น คนผู้นั้นคือชายร่างใหญ่ที่มีรอยสักอยู่บนศีรษะ
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยรีบขอโทษออกไปทันที “ขอโทษค่ะ ฉันคุยกับเพื่อนฉันอยู่เลยไม่ทันระวัง”
ท่านฮัวหรี่ตามองมาที่อ้ายเสี่ยวเตี๋ย จากนั้นก็หันไปมองเสิ่นรั่วชิง สุดท้ายสายตาของเขาจ้องมองไปยังใบหน้าของเย่อู๋เทียน ยกมือขึ้นลูบริมฝีปาก ถามออกไปอย่างไม่อ้อมค้อม “เย่อู๋เทียน ?”
เย่อู๋เทียนผงะ จากนั้นถามกลับไปว่า “นายคือ......”
ท่านฮัวตอบไม่ตรงคำถาม ยิ้มและพูดว่า “เยี่ยม เป็นคนมีความสามารถอยู่ที่คิด ไม่เพียงทำให้คุณหนูหยางหลงใหลเท่านั้น โดยปกติแล้วนาย......ก็ไม่ทำให้เสียเวลา ! ที่จริงผู้ที่อยู่ข้างกายนาย ก็คือว่าเป็นผู้ที่งดงามมาก !”
เย่อู๋เทียนขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย
รอยยิ้มของท่านฮัวยังคงไม่เปลี่ยนไป เขาพูดออกมาอีกว่า “แต่......ในเมื่อเป็นคนมาหาด้วยตัวเอง มันก็ดี ฉันจะได้ประหยัดเวลาในการตามหานาย ไปกันเถอะ ก่อนอื่นขอเลี้ยงเหล้านายสักแก้ว จากนั้นค่อยจัดการกับนาย นี่คือประเพณี”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบอหังการ
เรื่องนี้อะไรก็ดีหมด เสียอย่างเดียวคือไม่เข้าใจว่าทำไมเหมือนพยายามจะยัดเยียดพระเอกให้มีเมียมากกว่า1? พระเอกเก่งมีเมียคนเดียวไม่ได้?...