เหวินไท่จี๋ต่อว่าต่อขานใส่เย่อู๋เทียนอย่างกับคนบ้ายังไงอย่างนั้น
“ชมประวัติศาสตร์แห่งประเทศหลง!มีราชวงศ์ที่เคยมีชีวิตมา800ปีเหรอ?แกรู้ไหมว่านี่มันเพราะอะไร?ยึดถือสรรพชีวิตเฉกเช่นสุนัข คนๆหนึ่งถือเอาสรรพชีวิตเป็นที่ดินทำกิน จะได้รับเต๋ากลายเป็นเซียน นี่เป็นความเป็นจริงที่ปฏิเสธไม่ได้!ทำไมพอมาถึงที่นี่!ก็ไม่ได้การ ?”
เย่อู๋เทียนพูดออกมาแค่ประโยคเดียว
“เพราะว่ายุคสมัยนี้ มีฉัน เย่อู๋เทียน!ชีวิตนี้ของฉัน ขอเพียงแค่ฝึกหนึ่งเต๋า เต๋าไร้ตน เต๋าที่ไร้หลักธรรมชาติแห่งสวรรค์ เพียงแค่เฝ้ารอคอย ทุกคนราวกับเต๋าแห่งมังกร! ”
เหวินไท่จี๋ยิ้มอย่างเยือกเย็นถึงขีดสุด
“เด็กที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม!แกเพิ่งอายุเท่าไหร่กันเชียว?กูลงความเห็นว่า สักวันหนึ่ง ใจอันบริสุทธิ์ที่น่าขำของแกนั้น เปรอะฝุ่นแน่นอน!”
เย่อู๋เทียนเยาะเย้ย ไม่ได้พูดไร้สาระกับเหวินไท่จี๋อีก
ไม่ใช่ระดับชั้นเดียวกัน
พูดเยอะก็ไม่มีประโยชน์!
ทันใดนั้น เย่อู๋เทียนพูดถามด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
“ฉันถามแกหน่อย ทำไมเมื่อกี้จู่ๆแกก็มาคุกเข่าโขลกศีรษะกับฉันที่นี่?”
เมื่อพูดประโยคนี้ออกไป เหวินไท่จี๋ใจเย็นลงทันที
แต่ว่า ไม่ได้โขลกศีรษะให้กับเย่อู๋เทียนอีก แต่สาดส่องความอาฆาตแค้นออกมาจากนัยน์ตา
เพียงประโยคเดียว เหวินไท่จี๋ ตอนนี้ไม่กลัวใครทั้งนั้นแล้ว !
ในทางกลับกันสูญเสียผลการฝึกตนไปทั้งหมดแล้ว!
สู้ตาย ไปเสียยังจะดีกว่ามีชีวิตอยู่ซะอีก
เหวินไท่จี๋ หัวเราะใส่เย่อู๋เทียนอย่างมีเลศนัย
“แกอยากรู้?แต่กูไม่พูดหรอกนะ!ผลการฝึกตนของแกเกิดการเปลี่ยนไปอย่างไร?ท้ายที่สุดถูกความรักบนโลกผูกมัดไว้ !แกคิดอยากจะได้ทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงไฟระยิบระยับ ขอเพียงแค่ทุกคนยินยอมก็มีโอกาสที่จะก้าวหน้า?งั้นแกก็ต้องเดินไปข้างหน้าสิ!”
“คนๆนั้น ทำไมถึงไม่ทำความรู้จักพบหน้ากันกับแก?เหอะๆ เมื่อไหร่ที่แกใช้ชีวิตมาถึงอายุเท่าฉัน แกก็จะรู้เอง!แกจะต้องตาย!”
“เหลือไม่กี่ปีแล้ว!เหลือไม่กี่ปีแล้ว!ตึกจะทรุดตัวลง!กฎธรรมชาติถูกทำลาย!แม้ว่าเขาเหมือนพระใหญ่ สร้างร่างทองเก้าฟุตของเขา ก็ยากที่จะต้านทานแนวโน้มสถานการณ์โดยรวม!”
แม้ว่าเหวินไท่จี๋ไม่ได้พูดชื่อของเย่ฝูถู ไม่ได้ไขข้อสงสัยของเย่อู๋เทียน
แต่ในเวลานี้ สายตาของหานจื่อเซียน จับจ้องไประหว่างฝ่ามือที่ได้รับบาดแผลจากกระบี่ของเหวินไท่จี๋ทันที
เพียงแค่แวบเดียว หานจื่อเซียนก็เข้าใจทุกอย่าง
เพียงแค่แวบเดียว หานจื่อเซียน……
น้ำตาไหลลงราวกับฝนตก!
โพล่งพูดออกมาหนึ่งประโยค
“เขา ยังมีชีวิตอยู่จริงๆเหรอ!?”
“เรื่องสารเลวนั่นแกไม่ต้องถามมาก เขาจะเป็นหรือตาย! เราสองคนแม่ลูกไม่ต้องสนใจ !หลายปีมานี้ลูกโง่ๆอย่างแก ทำเพื่อเขามากพอแล้ว!อีกอย่าง ตอนนี้ฉันมีแก ยังจะสนใจว่าเขาจะทำอะไร?”
พูดมาถึงตรงนี้ เหมือนว่าหานจื่อเซียนก็คิดบางเรื่องได้ชัดเจนแล้ว สายตาที่มองไปยังเย่อู๋เทียน ซับซ้อนขึ้นมาทันที แถมน้ำเสียงก็เต็มไปด้วยความคับแค้นในใจ พูดเหอะอย่างเยือกเย็น
“เหอะ!กลับว่าเป็นแกที่ไร้มโนสำนึก เกรงว่าเคยเจอกับเขาตั้งนานแล้วสินะ?ไม่เช่นนั้น ผลการฝึกตนนี้ของแก จะมาจากที่ไหนอีก?”
เมื่อเย่อู๋เทียนได้ฟังคำนี้ อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแน่น
เหลือบมองไปยังบ่อน้ำเก่าๆที่ใต้หลังคานั่นในลานบ้านแว่บหนึ่งทันที
รู้สึกแคลงใจที่เหมือนเมฆหมอกปกคลุมไว้ไม่หยุด
หรือว่า แม้แต่แม่แท้ๆของตัวเองก็ไม่รู้ความลับที่อยู่ด้านล่างของบ่อน้ำเก่านั่น?
แต่ในเวลานี้ น้ำเสียงๆหนึ่ง ไม่รู้แผ่ซ่านมาจากไหน กลับว่า เข้าไปในรูหูของเย่อู๋เทียนเท่านั้น
“บนโลกใบนี้ มีเพียงสามคนที่ลงเข้าไปในบ่อน้ำที่ลึกกว่าพันเมตรได้เช่นนี้ มีฉัน มีแก หลานชายตัวน้อยของฉัน อีกคน!เพราะงั้น ลูกชายของฉันไม่จำเป็นต้องเป็นกังวลเรื่องนี้! ”
ได้ฟังคำพูดนี้ ดวงตาของเย่อู๋เทียนจ้องมองทันที และหายไปกับที่เลย
สถานที่ที่เหยียบลง คิดไม่ถึงว่าจะอยู่ท่ามกลางเมืองของตี้ตู ยอดตึกที่สูงที่สุดนั่น
และคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า……
ไม่ใช่พระวัยกลางคนที่บีบหมอดูดวงแห่งพันธมิตรมังกรให้ตายด้วยมือข้างเดียวนั่น ยังจะเป็นใครอีก?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบอหังการ
เรื่องนี้อะไรก็ดีหมด เสียอย่างเดียวคือไม่เข้าใจว่าทำไมเหมือนพยายามจะยัดเยียดพระเอกให้มีเมียมากกว่า1? พระเอกเก่งมีเมียคนเดียวไม่ได้?...