ทุกคนตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เหมียวถงยังคิดว่าแก๊งของเมิ่งเวิ่นซ่านมาหาเรื่องอีกแล้ว
แต่เมื่อเธอเห็นหลิงเหยาในฝูงชน ความกังวลในใจของเธอก็หายไปในทันที
ทุกคนรู้ว่า จวินเซียนเป็นลูกศิษย์ของหลิงเหยา
การปรากฏตัวของหลิงเหยา หมายความว่าเธอมาที่นี่เพื่อเป็นหน้าเป็นตาให้กับลูกศิษย์ของเธอ เธอเป็นถึง
ซุปเปอร์สตาร์ ทันใดนั้น ผู้ที่ดูถูกดูหมิ่นเมษและจวินเซียนก็เปลี่ยนทัศนคติของพวกเขาในทันที
“หลิงเหยามาจริงๆด้วย แม่เจ้า โทรศัพท์อยู่ไหน โทรศัพท์ของฉันอยู่ที่ไหน?รีบถ่ายรูปสิ!”
“ทุกคนคิดว่าวันนี้ไม่มีดาราดังมาแล้ว ใครจะไปรู้ว่าคนที่มาจะเป็นซุปเปอร์สตาร์เลย”
“ยังไงซะ จวินเซียนก็เป็นลูกศิษย์ของหลิงเหยา ดังนั้นอาจารย์สนับสนุนลูกศิษย์ มันก็เป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้ว”
ทุกคนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป
พิธีกรก็ตกตะลึงมาก เหมือนในรายการไม่ได้เตรียมฉากนี้ไว้นิ? ถ้าเขารู้ว่าหลิงเหยาจะมาแต่แรก เขาจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้ฉากนี้ยิ่งใหญ่ขึ้นแน่นอน
เมื่อทุกคนกำลังตื่นเต้นและประหลาดใจ สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นก็เกิดขึ้น
ดาราดังๆหลายคนก็ปรากฏในภายหลัง ทั้งหมดเป็นศิลปินของโม่เอนเตอร์เทนเมนต์ พวกเขาล้วนเป็นดาราดังในตลาด ปกติมีเงินก็ไม่สามารถเชิญมาได้ วันนี้ พวกเขาได้เข้าร่วมงานแต่งงานของเมษและจวินเซียนพร้อมกัน
ให้เกียรติเต็มที่จริงๆ
นักข่าวรีบเปิดกล้อง เปิดไมโครโฟน หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา และบันทึกทุกอย่างในที่เกิดเหตุ
ข่าวใหญ่!
เดิมที คิดว่าวันนี้มันจะกลับไปโดยมือเปล่า แต่ใครจะรู้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
เยี่ยมมาก เยี่ยมจริงๆ
คลิกคลิกคลิก เสียงการถ่ายภาพไม่หยุด
ภายใต้คำเชิญของพิธีกร หลิงเหยาได้ขึ้นเวทีเพื่อแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว และยังได้ร้องเพลง "ขอเคียงข้างกันชั่วชีวิต"
นี่มันเป็นเกียรติขนาดไหน?
ผู้คนที่อยู่ที่นี่ในตอนนี้ โดยทั่วไป ไม่มีโอกาสได้เห็นหลิงเหยาแน่นอน
วันนี้ไม่เพียงแต่ได้เห็นหน้า แต่ยังได้ยินเสียงร้องที่ไพเราะและสมบูรณ์แบบของหลิงเหยาด้วย คิดดูแล้วก็ถือว่าคุ้มมาก
งานแต่งงานครั้งนี้คุ้มค่ามาก!
ต่อมา ท่ามกลางคำอวยพรของทุกคน เมษจับมือของจวินเซียนขึ้นไปบนเวทีและมอบแหวนเพชรที่แสดงถึงความรักที่มีต่อจวินเซียน
จากนี้ไป จวินเซียนจะกลายเป็นภรรยาของเมษ
รักกันตลอดไป
เมื่อทั้งสองพูดคำว่า"ยินดี" คู่บ่าวสาวได้รับการอวยพรจากทุกคน
นอกจากนี้ จวินเซียนยังได้ร้องเพลงใหม่ให้กับแขกรับเชิญในงาน
ได้ฟังการร้องเพลงของคนดังที่มีชื่อเสียงอย่างหลิงเหยา และยังได้เพลิดเพลินกับการแสดงที่สมบูรณ์แบบของดาวรุ่งอย่างจวินเซียน งานแต่งงานนี้ก็มาถึงจุดที่ดีที่สุด
แน่นอนว่า ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณเจียงชื่อ
แม้ว่าเมษอยากจะจัดแบบง่ายๆ แต่ยังไงซะ นี่ก็เป็นงานแต่ง
มีใครบ้างไม่อยากให้งานแต่งของตนเองคึกคักและสนุกสนาน?
สวี่จุ้นปิดประตูด้วยตนเอง ดึงเจียงชื่อไปนั่งบนโซฟาและถามอย่างประหม่า"เทพสงคราม ผมได้ยินมาว่าคุณได้ทำการประลองกับชายชื่อเจียงจงฉวน เมื่อไม่กี่วันก่อนเพื่อชิงสิทธิการดูแลดาวฟ้า? "
เจียงชื่อพยักหน้า
เรื่องแบบนี้ ทุกคนในเมืองหลวงรู้กันหมด ไม่มีอะไรต้องปิดบัง
“อืม เทพสงคราม ตอนนี้คุณยังจำเขาได้ไหม?”
เจียงชื่อขมวดคิ้วเล็กน้อย“แน่นอน ผมจำเขาได้”
“โอเค คุณมากับผม”
สวี่จุ้นพาเจียงชื่อไปที่ห้องชันสูตรพลิกศพ โดยวางศพไว้บนโต๊ะชันสูตรพลิกศพ คลุมด้วยผ้าขาว
เขากล่าวว่า“เราพบศพนี้เมื่อวันก่อน ตอนนั้นเราได้รับการแจ้งความจาากชาวนา บอกว่าเขาพบศพตอนที่เขากำลังหาผักในป่า เราจึงรีบส่งตำรวจไปดูทันที และขุดร่างนี้ออกมาแล้วนำส่งโรงพักทันที”
"เทพสงคราม คุณดูซิว่าศพนี้เป็นใคร?"
เจียงชื่อก้าวไปข้างหน้า และยื่นมือออกมาเปิดผ้าขาว
ภายใต้ผ้าขาว มีใบหน้าซีดเซียวที่เต็มไปด้วยริ้วรอยปรากฏ เจียงชื่อรู้ในทันทีว่าคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเจียงจงฉวนที่เคยทำการแข่งขันกับเขาเมื่อสองสามวันก่อน
อันที่จริง ก่อนที่จะเปิดผ้าคลุมสีขาวเจียงชื่อก็เดาได้บ้างแล้ว เพราะว่าสวี่จุ้นได้ให้คำใบ้ชัดเจนขนาดนั้นแล้ว
สวี่จุ้นมองไปที่เจียงชื่อ และพบว่าสีหน้าของเจียงชื่อไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ดูสงบมาก เขาอดไม่ได้ที่จะชื่นชม
สมแล้วที่เป็นเทพแห่งสงครามชูร่าที่ผ่านสนามรบมามากมาย เผชิญหน้ากับศพที่เต็มไปด้วยเลือดและน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ เขาไม่แม้แต่จะขมวดคิ้วเลย จิตใจของเขาต้องแข็งแกร่งมาก
ต้องรู้ว่า แม้แต่สวี่จุ้นเอง ครั้งแรกที่เห็นสภาพศพเช่นนี้ก็ขยะแขยงเป็นเวลานาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบท้าโลก
บทที่ 1 2 3 หาย...