ณ เจียงตู บ้านตระกูลฟาง!
หลังจากตระกูลฟางได้ผ่านเหตุการณ์ที่ถูกทำลายจนย่อยยับ วันนี้ตระกูลฟางได้รับการปรับปรุงใหม่บนพื้นฐานเดิม ได้กลับมาเป็นคฤหาสน์ที่หรูหราอีกครั้ง แม้จะบูรณะใหม่ให้สมบูรณ์แล้ว แต่ก็ยังสามารถเห็นกำแพงพังยับเยินที่ถูกทำลายไปก่อนหน้านี้ เป็นหลักฐานว่าตระกูลฟางได้รับความเสียหายมากน้อยเพียงไหนในตอนแรก
ตระกูลฟางใช้โอกาสนี้ในการสร้างความสง่างามสูงสุดให้แก่ตระกูลฟาง ซึ่งงดงามยิ่งกว่าก่อนถูกทำลาย อำนาจที่หอมหวานมันบังคับคนให้เป็นแบบนี้ ถ้าเป็นตระกูลอื่นคงสูญสลายไปแล้ว ตระกูลฟางคือตระกูลอันดับต้นๆ ของประเทศหวา ที่สำคัญที่สุดคือมีเงิน ตราบใดที่ยังทำทุกอย่างได้ด้วยเงินก็ไม่ถือว่าเป็นปัญหาสำหรับตระกูลฟาง
ไม่สลายไปในความพินาศ แต่ผุดขึ้นมาจากกองเถ้าถ่าน!
นี่คือรากฐานความแข็งแกร่งของตระกูลฟางในฐานะตระกูลอันดับต้นๆ ของประเทศหวา!
แต่สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงสิ่งของนอกกาย ของที่ไม่ได้ติดตัวมาตั้งแต่เกิดและตอนตายก็นำติดตัวไปไม่ได้ ไม่มีใครสามารถหนีคำว่าความตายสองคำนี้ได้!
ตระกูลฟางที่มีแต่สง่าราศีนั้นหนักหนาสาหัสมากในขณะนี้ ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมของทุกคนและแพทย์ที่เดินเข้าออกต่างก็ส่ายหัวแล้วถอนหายใจ พวกเขาหมดหนทางในการช่วยเหลือ
ฟางจินหยวนผู้นำตระกูลฟางกำลังจะตายเพราะป่วยหนัก เขาเริ่มป่วยตั้งแต่ตระกูลโดนโจมตี ร่างกายของเขาก็ทรุดโทรมลงเรื่อยๆ พยายามประคับประคองจนถึงวันนี้ ในที่สุดเขาก็ไม่สามารถมีเรี่ยวแรงฟื้นตัวขึ้นมาได้
วันนี้คนของตระกูลฟางทั้งหมดต่างจมอยู่ในความเศร้าโศก
ข่าวฟางจินหยวนผู้นำตระกูลฟางป่วยหนักดังจนเป็นข่าวใหญ่!
ด้วยเหตุนี้ทำให้บ้านตระกูลฟางหนาแน่นไปด้วยผู้คน แต่ทุกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยดี ทุกคนนิ่งเงียบไม่พูดอะไรสักคำ คนเดินเข้าออกไปมา พูดไม่เกินจริงในขณะนี้บ้านตระกูลถูกล้อมรอบอย่างแน่นหนาสาหัส อย่าว่าแต่ขับรถเลย เดินยังเดินไม่ได้
คนเบียดกันมากจนเดินไม่สะดวก!
นี่คืออิทธิพลของตระกูลฟางและความรุ่งโรจน์ของตระกูลอันดับต้นๆ ของประเทศ!
บรรดาผู้ที่มานั้นล้วนเป็นนักธุรกิจคู่ค้าต่างๆ รวมทั้งข้าราชการชั้นสูงและผู้มียศถาบรรดาศักดิ์มากมาย ส่งผลให้การจราจรรอบๆบ้านตระกูลฟางกลายเป็นอัมพาตในทันที แม้จะมียามหลายคนรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ผลก็คือพวกเขาไม่สามารถรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยได้ ตรงกันข้ามกลับมีแต่ความโกลาหลเละเป็นโจ๊กหม้อใหญ่ ทุกคนในตระกูลฟางพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อย
ภายในห้องส่วนตัวของฟางฟัง มีเพียงคนสองคนเท่านั้นคือฟางไห่อิงนอนอยู่บนเตียง ในขณะที่ฟางฟังกำลังจับจ้องไปที่โทรศัพท์ด้วยท่าทางที่กังวลโดยไม่สนใจสถานการณ์ภายนอก เธอขี้เกียจที่สนใจเรื่องความเป็นระเบียบเรียบร้อย
ทันใดนั้นเธอก็มองไปที่ฟางไห่อิงแล้วลองถามอย่างไม่แน่ใจ“คุณน้าคิดว่าพี่เหยียนจะมาไหม?”
ฟางไห่อิงฝืนยิ้ม“มันไม่ใช่ว่าเขาจะมาหรือไม่มา แต่ใครบางคนจะปล่อยให้เขามาหรือเปล่า!?”
ฟางฟังนิ่งเงียบและพูดไม่ออก
เธอไม่เข้าใจสิ่งที่น้าพูดได้อย่างไร แม่ของเธอและป้าหลี่เยว่เป็นคนที่อยากเห็นฟางเหยียนมามากที่สุด!
การทะเลาะขัดแย้งกันของผู้นำตระกูลมักจะเป็นดาบคมที่จะฉีกความรักของตระกูลที่ร่ำรวย!
ภายในห้องของฟางไห่เซิง
ภรรยาของฟางไห่ถางเดินไปพูดไป "สะใภ้ใหญ่ คุณเดาได้ไม่ผิดเลย ฟางฟังได้โทรไปหาฟางเหยียนไอ้คนอกตัญญูคนนั้นจริงๆ ไม่รู้จริงๆ ว่าลูกสาวของฉันคิดอะไรอยู่ มักจะไปช่วยคนอื่นมากกว่าคนพวกเดียวกัน"
“สะใภ้สาม คุณต้องโทษที่คุณสั่งสอนลูกได้ไม่เข้มงวดพอแล้วล่ะ แม้ว่าคุณจะไม่มีลูกชาย แต่อย่าลืมว่าคุณปู่คงหวังว่าฟางเหยียนไอ้คนอกตัญญูคนนั้นจะกลับมารับตำแหน่งผู้นำตระกูลก่อนเขาตาย พวกเราต้องวางแผนร่วมมือกันทำยังไงก็ได้อย่าให้ฟางเหยียนไอ้คนอกตัญญูกลับมาได้”
“สะใภ้ใหญ่ สิ่งที่คุณพูดฉันรู้ดีอยู่แล้ว ตระกูลฟางจะมั่นคงก็ต่อเมื่อพวกเราควบคุมไว้ในมือ ฟางหยียนเป็นเพียงคนนอก คุณปู่ก็ช่างลำเอียงเกินไปจริงๆ ให้ความสำคัญแต่กับฟางเหยียนมาโดยตลอด ไม่เคยมีฟางเหมี่ยวอยู่ในสายตาเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพี่ใหญ่ฟางไห่เซิง ฉันสงสัยว่าคุณปู่ไม่เคยเอาคนในตระกูลฟางคนอื่นไว้ในใจเลย ในใจของคุณปู่ทุ่มไปที่ฟางเหยียนคนเดียวทั้งหมด"
“คุณพูดถูก ดูสิว่าคุณปู่กำลังทำอะไรในทุกวันนี้? อย่างแรกคือไม่สนใจเสียงคัดค้านของคนอื่น เขาตั้งบริษัทขนาดใหญ่ใน เมืองจินโจวที่คนทั้งตระกูลไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ มีสิทธิ์อะไร? ฟางเหยียนไอ้คนอกตัญญูนี้ดีจัง ไม่รู้จักพระคุณคนอื่นแล้วยังคิดจะทำลายทั้งตระกูลฟางอีก เป็นหมาที่เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ!”
ภรรยาของฟางไห่ถางยิ้มอย่างขมขื่น “สะใภ้ใหญ่ คุณพูดโกหกคนอื่นก็ช่างเถอะ ใครไม่รู้ความฉลาดและแผนการของคุณ ฉันไม่สน ไม่มีอะไรที่เชื่อถือได้ ให้คุณพูดถึงเรื่องตัวเลขเลยแล้วกัน หลังจากเรื่องสำเร็จแบ่งหุ้นห้าสิบเปอร์เซ็นต์ให้กับฉัน รวมทั้งบริษัทที่ตั้งอยู่ในเมืองจินโจว!"
จิตใจละโมบโลภมากจริงๆ !
หลี่เยว่หัวเราะเยาะ "สะใภ้สาม คุณหมายถึงอะไร? คิดว่าฉันเป็นคนโง่งั้นเหรอ ต้องการหุ้นห้าสิบเปอร์เซ็นต์แล้วยังต้องการ บริษัทในจินโจวอีก โลภเกินไปแล้วมั้ง!?"
“เกินไปเหรอ? ฉันคิดว่าฉันยังได้น้อยไปนะ” ภรรยาของฟางไห่ถางไม่ถือสิ่งนั้นเกินไป “เมื่อฟางเหมี่ยวได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลโบยบินขึ้นไปได้สูง มีอนาคตที่สดใส ผลประโยชน์ตกมาที่คุณมากมายแน่นอน หลังจากนั้นฉันกับฟางไห่ถางจะไปให้ไกลจากเจียงตู อยู่อย่างไม่เปิดเผยตัวตนและฉันจะไม่รบกวนคุณอย่างแน่นอน"
หลี่เยว่ขมวดคิ้วแน่น
“สะใภ้ใหญ่ ต้องโทษที่ฉันขี้ระแวงเกินไปแล้วล่ะ ถึงเวลาที่ฟางเหมี่ยวขึ้นเป็นผู้นำตระกูลอันสูงส่งอยากได้อะไรก็ได้ง่ายงั้นเหรอ? อย่าเสียดายส่วนเล็กน้อยจนต้องเสียส่วนใหญ่ มันจะได้ไม่คุ้มเสีย แน่นอน คุณสามารถเลือกที่จะฆ่าปิดปากฉันแต่ก่อนที่คุณจะฆ่าฉัน ฉันจะบอกอะไรคุณ ฟางไห่ถางรู้ว่าฉันมาที่นี่ ถ้าฉันไม่ออกไปภายในครึ่งชั่วโมงแล้วเขาไปพูดอะไรดีๆ กับคุณปู่ ถึงเวลานั้นกลืนไม่เข้าคายไม่ออกก็อย่าโทษฉันเท่ากัน!”
หลี่เยว่กัดฟันแล้วพูดว่า "ถือว่าคุณเด็ดเดี่ยวมากเลยทีเดียว!"
“ต่างฝ่ายต่างก็เหมือนกันนั่นแหละ ทีแรกฉันก็ไม่อยากฉีกหน้าคุณ แต่พอคุณไปเรียกตระกูลตงฟางมาช่วย ดังนั้นฉันจึงต้องระมัดระวังสักหน่อย ยังไงซะในเมื่อคุณฆ่าฟางเหยียนได้ ก็ฆ่าฉันหลิวหลานได้เหมือนกัน!”
“หุ้นห้าสิบเปอร์เซ็นต์นั้นมากเกินไป เป็นไปไม่ได้ชั่วคราวที่ให้คุณมากมายขนาดนี้ ส่วนบริษัทที่จินโจวสามารถให้คุณได้เลย และฉันไม่คิดที่จะเอาคืนด้วย”
หลิวหลานถูกบังคับให้ถามว่า "แล้วคุณวางแผนจะทำอย่างไร?"
“หุ้นสามสิบเปอร์เซ็นต์ ฉันให้ได้มากสุดเท่านี้แล้ว เพราะฉันยังต้องแบ่งให้ตระกูลตงฟางด้วย!”
“สี่สิบเปอร์เซ็นต์! น้อยกว่านี้ไม่ต้องมาคุยกัน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ