“ท่านราชาโหยวเกิดเรื่องใหญ่แล้ว เท่าที่ผมรู้ มีคนแปลกหน้าเข้ามาในประเทศเยว่มากมาย ไม่เพียงแค่นั้น แต่ยังรวมถึงประเทศเล็กๆ อื่นๆ ด้วย”
นอกเหนือประเทศเวียดนาม ณ คฤหาสน์สุดหรู
โหยวฟางขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ทำไมพวกเขาถึงเร็วนัก?”
“ท่านราชาโหยว อีกเดี๋ยวก็น่าจะรู้ว่าพวกคนแปลกหน้าเหล่านี้มีที่มาที่ไปยังไงแล้ว แต่ที่น่าแปลกก็คือ พวกเขาดูไม่เหมือนคนของเพลิงเสวน ท่าทางดูสุภาพอ่อนโยนอย่างมาก”
“ไม่ใช่คนของเสวียนเจิ้น?” โหยวฟางขมวดคิ้วอีกครั้ง
“อย่างน้อยตอนนี้เราก็ยังไม่รู้เจตนาของพวกเขา แต่น่าจะรู้ในเร็วๆ นี้แล้ว”
ทันใดนั้นเองก็มีคนคนหนึ่งเดินเข้ามาและพูดไปด้วยว่า "ท่านราชาโหยว ดูเหมือนพวกเขาจะกำลังมองหาดอกหาดอกลำโพงม่วง คล้ายกำลังหาที่อยู่ของเสวียนเย่!"
เสวียนเย่?
ผู้คนในห้องรับแขกต่างตกตะลึง
เสวียนเย่เป็นน้องชายของเสวียนเจิ้น หรือว่าเขาจะหนีไปต่างประเทศแล้วงั้นหรือ?
“อ้อใช่ ท่านราชาโหยว พวกเรารู้มาจากชาวบ้านแถวนั้นว่า คนเหล่านี้ดูเหมือนจะมาจากกองทัพ!”
เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวฟางก็ยิ่งขมวดคิ้วมากขึ้น!
กองทัพ!
ดูเหมือนเธอจะคิดอะไรบางอย่างได้ จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้มเหี้ยม "เสวียนเจิ้นช่างวางแผนการได้ดีจริงๆ นั่งเป็นภูดูเสือกัดกัน จากนั้นก็รีบผลประโยชน์!"
ภายใต้คำถามของพวกเขา โหยวฟางก็ค่อยอธิบายเรื่องนี้ออกมา ผู้คนในห้องรับแขกถึงนึกขึ้นได้ว่าแบบนี้เท่ากับเสวียนเจิ้นกำลังยืมดาบฆ่าคน!
“พวกเขายืมมือของเสวียนเย่เพื่อขจัดภัยให้พ้นตัวแล้วโยนไปให้ผู้อื่น ช่างวางแผนมาอย่างดี รวมตัวกับกองกำลังต่างประเทศที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้เพื่อทำการโต้กลับครั้งใหญ่ ทำเหมือนว่าเสวียนเย่หลบหนีไปต่างประเทศได้ แต่ท่านราชาของพวกเราก็ฉลาดไม่เลว เขาไม่ได้วางตัวเองให้อยู่ในที่อันตราย จากนั้นก็อาศัยประโยชน์จากข้อมูลที่ไม่เท่าเทียมกัน ให้ฉันกลายเป็นตัวแทนของเสวียนเย่ได้สำเร็จ และดึงดูดภัยส่วนมากไป!”
มีคนคนหนึ่งขัดจังหวะขึ้น “ท่านราชาโหยวหรือพวกเราจะไปต่อสู้กับเขาโดยตรงดี ถ้าเราฆ่าเสวียนเจิ้นได้ก็จะสามารถครอบครองเพลิงเสวน พวกเราไม่ต้องพึ่งพาคนอื่นและมองดูสีหน้าพวกเขาอีกต่อไป!”
“ฉันเองก็คิดอย่างนั้น เสวียนเจิ้นก็แค่เด็กผู้ชายไร้ขนคนหนึ่ง ทำไมเราต้องเชื่อฟังคำสั่งของเขาด้วย? ฉันไม่คิดว่ามันคุ้มค่า ดังนั้นพวกเราเอาตามที่พี่สามพูด พวกเราไปจัดการเขาซะ ราชาคนนี้ช่างโหดร้ายจริงๆถึงกับใช้ศัครูมากำจัดพวกเรา ในเมื่อเป็นแบบนี้ พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องพูดพร่ำกับเขาอีกต่อไป จัดการซะ!"
เกือบทุกคนในห้องรับแขกเห็นพ้องต้องกัน พวกเขาอยู่ในอารมณ์แห่งการสู้รบ และแทบอยากจะส่งกองกำลังไปในทันที!
เมื่อลองคิดดูแล้วก็จริง เสวียนเจิ้นลงมือโหดร้ายมากเกินไปแล้ว ไม่เห็นแก่หน้ากันเลยสักนิด อย่างไรก็เป็นเพลิงเสวนเหมือนกัน แต่เขากลับไม่รีรอที่จะทำร้าย และลงมืออย่างโหดเหี้ยม!
โหยวฟางคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “ในเมื่อเสวียนเจิ้นลงมือแล้ว พวกเราก็ตามแผนของเขาไปเถอะ ให้พวกเขาตรวจสอบ อีกทั้งยังต้องให้ตรวจสอบอย่างเปิดเผยด้วย ตราบใดที่เสวียนเจิ้นไม่ได้อยู่ประเทศเยว่ พวกเขาก็จะตกอยู่ในทางตัน ก่อนหน้านั้น ฉันต้องทำอะไรสักอย่าง!”
โหยวฟางแสยะยิ้ม “สั่งการออกไป หากไม่มีคำสั่งจากฉัน ทุกคนห้ามหุนหันพลันแล่น!”
ถนนแห่งหนึ่งในประเทศเยว่
“โอ๊ย เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ มาเห็นหรือไงว่าชนคนเข้าให้?”
ใบหน้าของชายหนุ่มที่กำลังเร่งรีบเต็มไปด้วยคำขอโทษ เขารีบก้มตัวลงไปประคองผู้หญิงที่ถูกกระแทกล้มลงพื้นและขอโทษ "ขอโทษด้วย ขอโทษจริงๆ เมื่อครู่รีบร้อนจนไม่ทันเห็นคุณ คุณผู้หญิงไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“ไม่ ฉันเท้าแพลงแล้ว เดินไม่ได้ นายจะต้องรับผิดชอบ ถ้านายไปแล้ว ฉันจะคุยกับใครได้”
ชายหนุ่มมองดูนาฬิกา จากนั้นก็มองผู้หญิงทรานอนอยู่บนพื้น ท่าทางลำบากใจอย่างมาก เขาคิดอยู่สักพักแล้วเอ่ยว่า “คุณผู้หญิง รอสักครู่ ผมขอโทรศัพท์สักหน่อย”
ยังไม่ทันที่ผู้หญิงคนนั้นจะได้โต้ตอบ ชายหนุ่มก็เดินไปด้านหนึ่ง เขาหันหลังให้เธอและโทรศัพท์ น้ำเสียงทุ้มต่ำ จนแทบจะไม่ได้ยินอะไรเลย
ครู่ต่อมา ชายหนุ่มก็หันกลับมาและกล่าวขอโทษ “คุณผู้หญิง ขอโทษด้วย ผมพาคุณไปโรงพยาบาลก่อนแล้วกัน”
“ไม่ต้อง เห็นแก่ท่าทีที่ค่อนข้างจริงใจของนาย ฉันเองก็ไม่ใช่คนไร้เหตุผล และอย่ามาเสียเวลาอันมีค่าของนายเลย บ้านของฉันอยู่ด้านหน้านี้ นายส่งฉันกลับไปก็พอ”
ชายหนุ่มพยักหน้าและช่วยประคองหญิงสาวที่เดินกะเผลกกลับบ้าน
ฉากดังกล่าวเกิดขึ้นทีละภาพ ไม่เพียงแต่ในประเทศเยว่เท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นในที่อื่นๆ ด้วย
ทุกคนระบายออกมาทีละคน ราวกับว่าได้กลายเป็นช่องทางระบายความไม่พอใจไปแล้ว เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเลือกที่จะเพิกเฉยต่อความหมายที่แท้จริงในคำพูดของ เทียนฝู่
เทียนฝู่เงียบไปครู่หนึ่งและพูดว่า "พี่น้องทั้งหลาย ฉันรู้สึกว่าพวกเราถูกหลอกแล้ว"
เทียนกางตอบในทันทีว่า "ใช่ไหมล่ะ? ขอบคุณนายมาก ยุ่งมากขนาดนี้ยังมาทำร้ายฉันได้!"
เทียนฝู่ส่ายหัว "สิ่งที่ฉันต้องการจะพูดไม่ใช่ว่าพวกลูกน้องของเราทำผิดไป แต่เป็นพวกเราคิดผิดตั้งแต่แรก เมื่อใดก็ตามที่สิ่งนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ที่ซับซ้อนของฉัน ฉันจะถือว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ แต่ถ้าสถานที่ทั้งหมดล้วนมีผลลัพธ์แบบเดียวกัน อย่างนั้นสิ่งที่เรียกว่าความน่าอับอายโดยบังเอิญนี้ก็คงไม่ใช่ความบังเอิญแล้ว บางทีอาจมีคนคิดอยากจะบอกอะไรบางอย่างกับเรา!"
ทุกคนเงียบลงจากที่เทียนฝู่พูด ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ!
ไหนเลยจะมีเรื่องบังเอิญมากมายเกิดขึ้นพร้อมกันได้?
“ทุกท่าน หากฉันเดาไม่ผิด คนที่เตือนเราคนนั้นอาจจะกำลังพยายามปกปิดแต่กลับยิ่งมีพิรุธ หรือไม่ก็เรื่องบังเอิญในต่างประเทศพวกนี้ที่เกิดขึ้นก็อาจเป็นเกมระหว่างสองฝ่าย ด้านหนึ่งกำลังเตือน ส่วนอีกด้านหนึ่งก็พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตน”
“พูดถึงวังของเสวียนเย่ก่อน คนคนนั้นจะต้องเป็นคนของเพลิงเสวนแน่ ด้วยความเฉลียวฉลาดของชิงตี้ เสวียนเย่ที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนย่อมไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป เขาจะประมาทขนาดนี้ได้อย่างไร? ดังนั้นจึงมีคำอธิบายได้เพียงว่ามีคนจงใจกระทำเรื่องนี้เพื่อต้องการให้เราทำอะไรบางอย่างแทนพวกเขา"
“ส่วนเรื่องกองกำลังจากต่างประเทศ สิ่งที่ไม่ยากเลยที่จะปฏิเสธก็คือ คนคนนั้นจะต้องเป็นคนของเพลิงเสวนด้วยเช่นกัน หากพวกเขามีการเคลื่อนไหวแบบนี้ ก็บอกได้เพียงว่า พวกเขากำลังต่อสู้กันอยู่ภายในและแตกแยกออกเป็นส่วน!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนก็ตะลึง!
การต่อสู้ภายใน!
การต่อสู้ภายในของเพลิงเสวน?
ช่างเป็นข่าวที่น่าทึ่ง!
แต่นี่ก็เป็นเพียงการคาดเดาของเทียนฝู่
เทียนฝู่เห็นความสงสัยของทุกคน ดังนั้นจึงอธิบายว่า "ถ้าไม่ใช่เรื่องบังเอิญมากมายแบบนี้เกิดขึ้น ฉันก็คงไม่ได้คิดอย่างนี้ แต่ความบังเอิญเหล่านี้เมื่อเกิดขึ้นมาพร้อมกัน นี่จึงทำให้ฉันต้องคาดเดาว่ามีการต่อสู้ภายในระหว่างคนทั้งสองฝ่ายอยู่!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ