การคาดเดานี้ดูเหมือนว่าจะมีน้ำหนัก!
เทียนซิง เงียบไปครู่หนึ่งและพูดว่า "ถ้าเป็นเรื่องจริง บางทีเราอาจไม่ต้องจับตามาที่ต่างประเทศ เสวียนเย่จะต้องอยู่ในประเทศแน่"
“อย่างนั้นพวกเราจะไม่ทำอะไรเลยงั้นหรือ?” เทียนกางถาม
"ไม่!" เทียนฝู่ส่ายหัวและพูดขึ้น "ไม่ว่าจะเป็นในหรือนอกประเทศ พวกเราล้วนรู้ชัดเจนขึ้นมาบ้างแล้วว่าพวกเขาเพลิงเสวนคิดจะใช้กำลังของพวกเราไปฆ่าฟันกันเอง นี่แทบจะเป็นเรื่องเพ้อฝัน ดังนั้นพวกเราจะไม่เคลื่อนไหวอะไรทั้งนั้น และประกาศออกไปว่าการค้นหารังของเพลิงเสวนล้มเหลว!”
ทันทีที่คำพูดนี้ดังออกไป พี่น้องทุกคนก็ตกตะลึง!
เทียนกางรีบถามว่า “ดังนั้นครั้งนี้พวกเราล้มเหลวงั้นหรือ? พวกเราไม่ทำอะไรนอกจากนี้แล้ว?”
“พวกเราต้องยอมรับว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ล้มเหลวแล้วอีกทั้งเรายังแหวกหญ้าให้งูตื่น หากยังเคลื่อนไหวต่อไปก็คงมีแต่ทำให้เพลิงเสวนทำตัวเป็นผู้นั่งบนภูดูเสือกัดกัน ตอนนี้ความหวังเดียวที่เหลือก็คือรอให้พี่ใหญ่ตื่นขึ้นมาโดยเร็ว”
ในใจของผู้คนดูเหมือนจะปกคลุมไปด้วยหมอกครึ้ม
ไม่ง่ายเลยที่จะเป็นฝ่ายเริ่มโจมตีก่อน แต่สุดท้ายพวกเขาก็ล้มเหลว ใครจะรู้สึกดีได้ นี่แทบจะส่งผลต่อความมั่นใจในตนเองของพวกเขาอย่างมาก!
เทียนฝู่ยิ้ม “อันที่จริงก็ไม่มีอะไร ความล้มเหลวในการค้นหาของเราครั้งนี้ ไม่ได้แปลว่าพวกเราคว้าน้ำเหลว อย่างน้อยพวกเราก็พอยืนยันได้ว่ากองกำลังของเพลิงเสวนนอกจากประเทศหวาแล้ว ก่อนหน้านี้ทหารต่างประเทศที่โจมตีอย่างบ้าคลั่งในตอนนั้นก็เกิดจากการควบคุมของพวกเขาเช่นกัน อีกทั้งพวกเรายังสามารถวิเคราะห์การแบ่งตัวของกองกำลังเพลิงเสวน จุดนี้คือสิ่งที่เราไม่เคยพบมาก่อน"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ อารมณ์หดหู่ของทุกคนก็คลายลงชั่วคราว
“ในเมื่อพวกเขาต้องการเล่น อย่างนั้นพวกเราก็มาดูพวกเขาเล่นกัน ดังนั้นการที่เราอยู่นิ่งๆถือเป็นการดีที่สุด ฉันอยากจะเห็นนักว่าพวกเขาจะซ่อนไปได้ถึงเมื่อไหร่” เมื่อพูดถึงเรื่องนี้จู่ๆ เทียนฝู่ก็ยิ้มขึ้นมา "เป็นไปได้อย่างยิ่งที่เราจะเห็นว่าเพลิงเสวนที่แท้แล้วไม่ได้เป็นกลุ่มก้อนอย่างที่เราคิดไว้ ซึ่งนี่เอื้อต่อแผนการต่อไปของเรา แม้ว่าการเคลื่อนไหวจะล้มเหลวแล้ว แต่พวกเรากลับรู้ถึงปัจจัยสำคัญอย่างการแบ่งแยกอำนาจ ถึงจะล้มเหลว แต่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญของความสำเร็จ!"
ผู้คนพยักหน้าด้วยความรู้แจ้งขึ้นมาทันที พวกเขารู้แล้วว่ากองกำลังของเพลิงเสวนแตกแยกออกจากกัน สิ่งต่อไปที่ต้องทำคือการสังเกตการณ์และจับตาดู รอให้พวกเขาโผล่ขึ้นมาเอง!
——
ภูเขาเสินเจี้ย ตำหนักข้างห้องหนังสือ
“ท่านอาจารย์ ดูเหมือนว่าแผนการของเราล้มเหลวแล้ว”
เมื่อได้ยินข่าวที่ดังขึ้นมาบนโต๊ะ เสวียนเจิ้นก็ยิ้มอย่างขมขื่น
“ไม่เป็นไร โหยวฟางไม่ใช่ตะเกียงไร้น้ำมัน พวกเราน่าจะคิดได้อยู่แล้ว ผู้หญิงคนนี้จะปล่อยไปไม่ได้ แผนการยืมดาบฆ่าคนครั้งนี้ช่างน่าสนใจจริงๆ จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังคิดไม่ออกว่าโหยวฟางคิดอะไรอยู่ นี่คือสิ่งที่ทำให้ฉันไม่เข้าใจมากที่สุด"
“อันที่จริงฉันเองก็ไม่ได้มีความคิดอะไรเลย ฉันก็แค่อยากจะหาเรื่องโหยวฟางก็เท่านั้น แต่ที่ไม่คาดคิดก็คือ ผู้หญิงคนนั้นจะโต้กลับได้รวดเร็วอย่างยิ่ง” เสวียนเจิ้นเอ่ยเยาะเย้ย "แต่ก็เพราะแบบนี้แหละที่สามารถกระตุ้นความสนใจของฉันได้ อันที่จริงหลังจากการล่มสลายของจอมพลโผ้จวิน ฉันก็มักจะรู้สึกว่างเปล่าอยู่ในใจ อะไรก็น่าเบื่อไปหมด โหยวฟางถือว่ามาให้ฉันฝึกมือได้จังหวะพอดี"
“ไม่ได้นะ ท่านราชา” ชายชรารู้สึกประหลาดใจ จากนั้นก็เอ่ยขึ้น “ในเมื่อโหยวฟางแยกตัวออกไปแล้ว สิ่งที่สำคัญของเราตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่ที่ตัวเธอแล้ว ทำแบบนี้จะเสียเวลาไปเปล่าๆ เราควรให้ความสำคัญกับสถานการณ์โดยรวมและรวบรวมกำลังของเธอกลับมาอย่างรวดเร็ว”
“อาจารย์ ความกังวลของคุณ ผมเองก็เข้าใจ แต่แม้ว่ากองกำลังต่างประเทศจะไม่น้อย แค่เพียงปลายนิ้วก็สามารถแตกหักได้ แต่กลับทำให้พวกเราต้องลงแรงไปนานเป็นสิบปีถึงสามารถเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้ การส่งมอบมันออกไปด้วยสองมือของตน ผมเองก็ทำไม่ได้อย่างแน่นอน ในความคิดของผม พวกเรายังคงมุ่งความสนใจไปที่โหยวฟางก่อน เมื่อจัดการเธอได้แล้ว พวกเราถึงสามารถดำเนินการในขั้นต่อไปได้!”
“ไม่ได้ โหยวฟางไม่ใช่เรื่องที่เราต้องกังวล ไม่จำเป็นต้องเสียเวลากับเธอ” ชายชรายืนกราน “ท่านราชา มีเวลาเหลือน้อยแล้วก่อนที่จ้าวขุมนรกจะปรากฏขึ้น ไม่จำเป็นต้องเสียเวลากับเธอ มีเพียงยึดอำนาจมาไว้ที่เราอย่างแน่นหนาเท่านั้นถึงจะทำให้เราไม่ต้องกลัวจ้าวขุมนรกได้ การแยกตัวออกไปของโหยวฟางทำให้พวกเราตื่นตระหนก ดังนั้นเราควรมุ่งเน้นไปที่สถานการณ์โดยรวมดีกว่า”
“ฉันแพ้เพราะฉันทนไม่ได้ที่จะทำร้ายซึ่งกันและกัน ทนไม่ได้ที่จะต้องเกิดการต่อสู้ระหว่างพี่น้อง แต่ฉันคิดไม่ถึงว่า ความใจอ่อนของฉันจะกลายเป็นกุญแจที่ทำให้นายลงมืออย่างโหดเหี้ยมสู่!” เสวียนเย่หัวเราะลั่น "ในตอนแรกฉันเอาแต่ถามตัวเองตลอด ทำไมฉันถึงได้ใจดีมีเมตตาขนาดนี้? ทำไมฉันถึงถูกเรียกว่านายน้อย แต่ไม่ใช่ราชา มาตอนนี้ฉันพอจะเข้าใจแล้ว เป็นเพราะฉันไม่โหดเหี้ยมพอ มีเมตตาเกินไป เอาแต่คิดมีอนาคตไปกับนาย
มาตอนนี้ ฉันถึงค่อยค้นพบว่าตัวเองคิดผิดไปแล้ว ผิดจนเลอะเลือน
“ดังนั้นนายไม่จำเป็นต้องมาทำตัวชั่วร้ายใส่ฉันหรือว่าจงใจดูถูกฉันอีกต่อไป ที่ฉันมีวันนี้ก็ล้วนเป็นเพราะฉันรนหาที่เอง ทำเองย่อมต้องแบกรับเอง”
เสวียนเย่มองไปที่เสวียนเจิ้น ดวงตาที่ขุ่นมัวของเขาฉายแววอันแข็งแกร่ง ปราศจากแววทรุดโทรมเหมือนก่อนหน้านี้ “ฉันหวังว่าตัวเองจะได้เห็นวันที่นายต้องรับกรรม ดังนั้นฉันถึงยังไม่ยอมตกต่ำ ฉันจะให้นายได้รู้ อธรรมไม่อาจข่มความดี สิ่งที่นายเลือก เป็นการตัดสินใจที่ผิด! "
“เสวียนเจิ้น ฉันรู้ว่ามันสายเกินไปที่จะให้นายหยุดมือลงตอนนี้ แต่ฉันหวังว่านายจะสามารถปฏิบัติต่อผู้คนให้ดีได้ รักษาจิตสำนึกของนายเอาไว้ เคารพในจิตใจดั้งเดิมของนายถึงสามารถลดทอนบาปของนายลง และทำให้นายสามารถเผชิญหน้ากับพ่อของนายได้บ้างสักเล็กน้อยเมื่อนายตายไปสู่ปรโลก!”
“พอได้แล้ว หุบปาก!” เสวียนเจิ้นคำรามออกมาและพูดด้วยน้ำเสียงที่เกรี้ยวกราด "เสวียนเจิ้น นายอย่าลืมตัวตนนาย ตอนนี้นายเป็นแค่นักโทษที่อยู่ในอาณัติของฉันเท่านั้น นายยังคิดว่าตัวเองเป็นพี่ชายของฉันหรือไง? เอาแต่สั่งสอนฉัน ทำตัวเหมือนพวกผู้อาวุโส!"
"โกรธหรือไง?" เสวียนเย่เยาะเย้ย “ไม่ใช่สิ น่าจะเป็นละอายใจมากกว่า? หรือว่าฉันไปจี้ใจดำนายแล้ว? เห็นนายร้อนรนรีบมาแสดงออกถึงการมีตัวตนอยู่ของตัวเองต่อหน้าฉันแบบนี้ ฉันคิดว่าตอนนี้สถานการณ์คงจะไม่ดีอย่างมากใช่ไหม? เสวียนเจิ้นนายอย่าลืมสิ ฉันเป็นพี่ชายของนาย แม้ว่าตอนนี้ฉันจะเป็นนักโทษใต้อาณัติของนาย แต่ฉันก็ยังเป็นพี่ชายของนายอยู่ดี นี่คือสายสัมพันธ์ที่นายไม่สามารถลบออกไปได้แม้กระทั่งจากในกระดูก!”
“ให้ฉันเดา อะไรกันแน่ที่ทำให้นายมาที่นี่เพื่อสร้างความรู้สึกมีตัวตนของนายขึ้นมา? ชิงตี้คงเป็นไปไม่ได้ นั่นเพราะถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่ปรากฏตัว ไม่อย่างนั้น ตอนนายมาถึงก็คงเอ่ยปากออกมาตรงๆแล้ว อย่างนั้นก็คงจะเป็นสัตว์ประหลาดแก่ๆ รักสันโดษพวกนั้นเท่านั้น พวกเขาน่าจะไม่เต็มใจฟังคำสั่งของนาย ดังนั้นจึงยกก้อนหินขึ้นกระแทกเท้าตัวเอง!"
พูดไป รอยยิ้มบนใบหน้าของเสวียนเย่ก็ยิ่งลึกมากขึ้น "ไม่รู้ว่า พี่ชายเดาถูกหรือไม่?"
เสวียนเย่จงใจกัดน้องชายของเขาอย่างแรงเพื่อกระตุ้นให้เสวียนเจิ้นเกิดความกดดันทางจิตใจ!
เขาต้องการความรู้สึกมีตัวตนอยู่ ดังนั้นทำไมเสวียนเย่จะไม่ปิดกั้นความรู้สึกนั้นให้เขาอีกสักหน่อยกัน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ