ทุกคนในตระกูลฟางต่างโกรธแค้นเป็นอย่างมาก แต่พวกเขาต้องข่มอารมณ์โกรธนี้ไว้ ต้องทำให้ฟางเหมี่ยวสงบสติอารมณ์ลงให้ได้ ถ้าหากฟางเหมี่ยวขาดสติ ตระกูลฟางจะล่มสลายทันที อาณาจักรธุรกิจของตระกูลฟางก็จะถูกทำลายลงเช่นกัน
“ผู้นำตระกูลครับ ตอนนี้คุณไม่ได้ตัวคนเดียว คุณเป็นตัวแทนของทั้งตระกูล เราเสียคุณชายฟางเหยียนไปแล้ว ถ้าหากตอนนี้ขาดคุณไปอีกคน ตระกูลฟางคงจบสิ้นแน่นอน คุณอย่าวู่วามเด็ดขาด อย่าตกหลุมพรางของเพลิงเสวนนะครับ พวกเราเสียชีพได้แต่ไม่ยอมเสียศักดิ์ศรี หากคุณล้มลง ก็จะเข้าทางเพลิงเสวนพอดี ใจเย็นไว้นะครับ ต้องใจเย็นเข้าไว้!”
ฟางเหมี่ยวค่อย ๆ ดิ้นรนขัดขืนน้อยลง จนในที่สุดก็สงบนิ่งลง
ทุกคนจึงได้ปล่อยตัวฟางเหมี่ยว แต่ก็คอยจ้องมองเขาอยู่ตลอด กลัวว่าเขาจะหุนหันพลันแล่นขึ้นมาอีก!
“เอาล่ะ ไม่ว่าใครจะใจร้อนวู่วาม แต่ทุกท่านในที่นี้ล้วนเป็นแขกผู้สูงส่งของเพลิงเสวนทั้งนั้น!”
หยินฮว่าจงใจเน้นที่คำว่าแขกผู้สูงส่ง เพื่อกดดันทุกคนที่อยู่ตรงนี้ ทำให้พวกเขารู้สถานะของตัวเองอย่างชัดเจน!
“จริงสิ ทุกท่านคงอยากรู้ล่ะสิ ว่าทำไมฉันถึงได้พาทุกท่านมาที่ผาจินสุ่ยแห่งดินแดนตะวันตก ใช่ไหม?”
ไม่มีใครตอบคำถาม
หยินฮว่ายิ้มแล้วเอ่ยพูด : “เพราะที่นี่เกี่ยวข้องกับพวกเราเป็นอย่างมาก”
ขณะที่พูด เขาได้หันหลังให้ทุกคน ชี้ไปยังภูเขาทิพย์ แล้วยิ้มพลางเอ่ยพูด : “ภูเขาลูกนั้นคือภูเขาทิพย์ที่เป็นจุดจบของเทพแห่งสงครามอันเป็นที่พึ่งผู้ยิ่งใหญ่ของพวกท่านไงล่ะ ฉันคิดว่าทุกคนคงเดาได้ ถูกต้องแล้ว ฉันอยากบดขยี้ความหวังสุดท้ายของทุกคนลงซะ เทพแห่งสงครามของพวกท่านถูกฟ้าผ่าตายไปแล้ว สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สู้เชิญพวกท่านมาสัมผัสกับความสิ้นหวังด้วยตัวเองดีกว่า จึงได้พาทุกท่านมาในวันนี้”
“แน่นอนว่า นอกจากทำลายความหวังของทุกท่านลงแล้ว สิ่งที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคืออยากแบ่งปันสาวสวยที่สุดในโลกคนหนึ่งให้กับทุกท่านได้เชยชม คนคนนั้นก็คือเย่ชิงหยู่ภรรยาของจอมพลโผ้จวิน ฉันเชื่อว่าด้วยความแข็งกร้าวของทุกท่าน คงจะไม่ยินดีทำลายภรรยาของท่านจอมพล งั้นฉันคงจำเป็นต้องใช้วิธี ทำให้ผาจินสุ่ยกลายเป็นสถานที่พักผ่อนสุดท้ายของทุกท่าน”
“จริงสิ ทำไมภรรยาของจอมพลโผ้จวินถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ เรื่องนี้มีต้นสายปลายเหตุ เธอซื่อสัตย์ภักดีไม่เปลี่ยนแปลง ยอมตายแต่ไม่ยอมจำนน ได้ตายไปพร้อมกับเทพแห่งสงครามในที่ที่เธอเสียใจ ถือเป็นเรื่องราวดี ๆ เรื่องหนึ่ง ทุกท่าน เหลือเวลาอีกไม่มากแล้วนะ!”
“ตอนนี้ ถึงเวลาที่ทุกท่านต้องแสดงท่าทีแล้วล่ะ!”
เมื่อพูดจบ ทั้งหมดก็เงียบกริบ
ทุกคนในที่นี้ล้วนเป็นตระกูลขุนนางและสำนักที่ยอมตายแต่ไม่ยอมจำนนต่อเพลิงเสวน ตอนนี้เพลิงเสวนจับตัวพวกเขามา เพื่อบีบบังคับพวกเขาให้ยอมร่วมมือกัน ทำลายความหวังสุดท้ายของพวกเขา
พูดได้ว่า ตระกูลขุนนางและสำนักที่อยู่ในผาจินสุ่ยตอนนี้ ต่างไม่มีทางร่วมมือกับเพลิงเสวนเพื่อทำความชั่ว และไม่มีทางทำลายเกียรติและศักดิ์ศรีของภรรยาจอมพลโผ้จวิน
ในที่สุด ก็มีคนแสดงท่าทีออกมาแล้ว!
“จะฆ่าก็ฆ่าเลยสิ มามัวทำให้พวกฉันขยะแขยงอยู่ทำไม?”
หยินฮว่าจ้องไปยังชายชราที่เอ่ยพูด ชายชราผู้นี้ผมขาวไปทั้งหัว ดูจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ เป็นเจ้าสำนักของสำนักเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง นั่นคือสำนักเทียน
“สำนักเทียน?” หยินฮว่ายิ้มออกมา : “จากที่ฉันรู้ สำนักเทียนต่อต้านเพลิงเสวนได้สูญเสียผู้คนไปมากมาย เจ้าสำนักแห่งสำนักเทียน แกนี่มันกระดูกแข็งจริง ๆ ฉันทนไม่ได้ที่จะฆ่าแกทิ้ง เอาแบบนี้แล้วกัน ฉันจะให้โอกาสแกเลือกอีกครั้ง ยอมจงรักภักดีต่อเพลิงเสวน แล้วฉันจะไว้ชีวิตแก เป็นไง?”
“ให้ฉันเป็นสุนัขรับใช้ของเพลิงเสวน ฉันคงละอายใจต่อคนของสำนักเทียนที่ตายไป ถึงแม้สำนักเทียนเป็นสำนักที่ไม่ได้เก่งกาจ แต่พวกเราเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้อง ทำร้ายประเทศชาติและประชาชนเป็นสิ่งที่พวกเรารังเกียจ ต่อให้ทำลายทั้งสำนักเทียนแล้วยังไงล่ะ? การทรยศหักหลังเดินในทางที่ผิดต่างหากถึงจะเป็นเรื่องน่าเศร้าสลดมากที่สุดของสำนัก! ฉะนั้น ฉันยอมตายทั้งยืน แต่จะไม่ยอมคุกเข่าเพื่อให้มีชีวิตต่อไป!”
หยินฮว่าฟาดมือไปรวดเดียวสามครั้งติดต่อกัน ทุกครั้งที่ตบ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาดูอำมหิตมากขึ้น!
ถูกต้อง เขาคิดจะฆ่าเจ้าสำนักแห่งสำนักเทียน!
แต่ทว่าเจ้าสำนักแห่งสำนักเทียนไม่มีความหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย ทั้งยังแสยะยิ้มแล้วเอ่ยพูด : “ในเมื่อไม่ลงมือ งั้นก็รบกวนชี้แนะด้วยนะ!”
พูดจบ เขาได้จู่โจมอย่างกะทันหัน พุ่งเข้าใส่หยินฮว่า!
ทั้งสองคนมีพลังอยู่ในระดับต้าชี่ชั้นปลายเหมือนกัน ต่อสู้กันอย่างไม่ยอมถอยเลยแม้แต่น้อย
ใกล้แล้ว!
ฉึบ!
ร่างของเจ้าสำนักแห่งสำนักเทียนล้มลงไปบนพื้น!
สิ้นใจแล้ว!
ห๊ะ นี่......
ทุกคนรู้สึกเพียงเหตุการณ์ตรงหน้าเกิดขึ้นอย่างเลือนราง เพียงชั่วพริบตาก็สู้กันเสร็จสิ้นแล้ว?
ทุกคนตกตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก ในหัวเกิดเครื่องหมายคำถามขึ้นมากมาย!
ผู้ที่มีพลังเหมือนกันทั้งสองคน แต่เจ้าสำนักแห่งสำนักเทียนกลับสู้ไม่ได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว!
ในบรรดาผู้คนที่อยู่ตรงนี้ ความสามารถของเขาถือว่าไม่แย่นัก กลับกันยังมีความสามารถเหนือคนบางคนที่อยู่ตรงนี้ด้วยซ้ำ
ไม่มีใครบอกพวกเขาว่าเกิดอะไรขึ้น ร่างไร้วิญญาณของเจ้าสำนักแห่งสำนักเทียนนอนกองอยู่ตรงนั้น ราวกับกำลังบอกอะไรอย่างอยู่เงียบ ๆ!
หยินฮว่ายิ้มออกมา รอยยิ้มที่เผยออกมานั้น ดูสวยงามมาก ราวกับดอกไม้ไม่มีผิด
หยินฮว่ายิ้มอย่างเย็นชา “พวกแกเนี่ยนะ? มาสิ!”
ฮึกเหิมมาก ไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย!
ทันใดนั้นมีคนรวมกลุ่มกันแล้วพุ่งตัวออกไป หยินฮว่ายิ้มให้กับทุกคน ไม่มีทีท่าจะลงมือเลยสักนิด
ทั้งหมดอยู่ในการควบคุม มีความมั่นใจในตัวเองสูง นี่เป็นความอวดดีที่หยินฮว่ามี!
จากที่เขาดู พวกหัวมังกุท้ายมังกรที่ฝีมือไม่ได้เรื่องพวกนี้ เป็นเพียงมดฝูงหนึ่งเท่านั้น ส่วนพวกที่เป็นคนของสำนัก อย่างมากก็เป็นแค่มดที่ค่อนข้างแข็งแกร่งหน่อยเท่านั้นเอง!
มด ก็เป็นแค่มดอยู่วันยังค่ำ ต่อให้แข็งแกร่งแค่ไหนก็ได้เท่านี้แหละ!
การต่อสู้ไม่มีสีสันอะไรแม้แต่น้อย เพียงแค่หยินฮว่าลงมือ ทั้งหมดก็ล้มกลิ้งลงไปบนพื้น เหมือนผู้ใหญ่รังแกเด็ก ไม่น่าเชยชมเลยสักนิด แต่ต้องบอกว่ายังมีศิษย์จากสำนักต่าง ๆ ที่ฝีมือไม่เลวอยู่อีกจำนวนหนึ่ง สามารถต้านทานไว้ได้หลายกระบวนท่า แต่ตามร่างกายก็ยังเห็นบาดแผลสาหัสน่าตกใจอยู่
สถานการณ์ดูมีแนวโน้มที่จะพ่ายแพ้
หยินฮว่าเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ราวกับหมาป่าที่กระโจนเข้าหาฝูงแพะ สามารถจัดการได้อย่างสบาย ๆ โดยที่ตัวไม่เปื้อนเลือดเลยสักนิด!
เมื่อมีคนล้มลงไปบนพื้นมากขึ้นเรื่อย ๆ ความน่ากลัวที่ปกคลุมหัวใจของทุกคนก็ได้มีมากขึ้นเรื่อย ๆ ความสิ้นหวังก็เช่นกัน
หยินฮว่าแข็งแกร่งเกินไปแล้ว แข็งแกร่งอย่างไร้ซึ่งเหตุผลโดยสิ้นเชิง!
นี่คือข้อดีของการมีกำลังที่แข็งแกร่ง และเป็นสิ่งที่ทำให้เขาโอหังอวดดี!
หากเป็นอย่างนี้ต่อไป ใครต่างก็รู้ดีว่า คนเหล่านี้ต้องถูกฆ่าตายจนหมดแน่นอน!
“ฉันนี่มันไม่ได้เรื่องจริง ๆ ฆ่าพวกแกต้องใช้เวลาตั้งสามนาที” หยินฮว่าท่าทางหงุดหงิดมาก กระสับกระส่ายเหมือนเด็กสาวที่สูญเสียชายอันเป็นที่รักไป ดูแล้วน่าเห็นใจมาก แต่ทันใดนั้น เขาได้เปลี่ยนจากท่าทีหดหู่ มาชี้นิ้วใส่คนที่ยืนอยู่ด้านข้างด้วยความโมโห แล้วพูดเสียงเย็นชาว่า : “ขั้นตอนนั้นไม่สำคัญ สิ่งที่ฉันต้องการคือผลลัพธ์ต่างหาก ฆ่าพวกแกก็เหมือนกัน ยังไงซะความอดทนของกูก็มีขีดจำกัด!”
“ตอนนี้ กูไม่อยากเล่นแล้ว ในเมื่อไม่ชอบผู้หญิง งั้นพวกมึงก็ต้องตายซะ!”
พูดจบ หยินฮว่าได้มีไอสังหารที่แรงกล้าแผ่ซ่านออกมา!
คนที่ยังมีชีวิตรอดอยู่ต่างพากันหวาดกลัว วิตกกังวล!
“มึงเนี่ยนะ? คู่ควรเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ