จอมยุทธ์กบฏโลก นิยาย บท 21

บทที่21 ของขวัญที่พ่อให้ลูก

เพี๊ยะ!

ยังไม่ทันได้รอให้ฉู่เทียนเจียงได้ลงมือ หน้าของหลี่เหม่ยก็โดนตบไปแล้วหนึ่งที แล้วก็เป็นฮัวจิ่นถิงที่พุ่งเข้ามาตบ

“ทำไมแกถึงทำใจตบความไร้เดียงสาของเด็กผู้หญิงคนนึงทิ้งได้ลงคอ แกมันอีกะหรี่ชัดๆ” 

หลี่เหม่ยบ้าไปแล้ว โดนตบต่อหน้า กำลังจะเอาคืน แต่พอเหลียนเฉิงเห็นฉู่เทียนเจียงโกรธ ก็รีบดุทันที

“ออกไปให้หมด”

ดังนั้น ครอบครัวของฮัวฝู้โก๋ก็ถูกพาไปที่ข้างรถเบนซ์อย่างหดหู่ใจ

“คุณพ่อ ปล่อยไปแบบนี้ไม่ได้นะครับ”

ฮัวว่านถงตาแดงเป็นแถบ ตัวเองโดนตบ ภรรยาก็โดนตบ บวกกับแขนของภรรยาก็โดนฉู่เทียนเจียงทำหักด้วย นี่ไม่ใช่อะไรนอกจากความแค้นจนอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ตั้งแต่แรกแล้ว

“หุบปาก ฉู่เทียนเจียงน่ะรู้จักเหลียนเฉิง กลับไปค่อยว่ากัน ยังขายหน้าไม่พออีกรึไง”

ครืน!

ประตูรถเพิ่งจะเปิดออก จู่ๆ ก็มีเสียงนึงดังขึ้นจากที่ไกลๆ มาใกล้ๆ ก็หันกลับไปโดยสัญชาตญาณ แล้วทั้งครอบครัวของฮัวฝู้โก๋ก็พากันตะลึง

เห็นแค่รถถังคันนึงกำลังขับมา อารมณ์ของสัตว์เหล็กดุร้ายแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องหาคำไหนมาอธิบายแล้ว

“นี่……ทำไมถึงมีรถถังให้เห็นด้วยล่ะ”

ฮัวว่านถงบ่นพึมพำไปสองสามประโยค แล้วฮัวฝู้โก๋ก็ถอนหายใจ

“สนใจอะไรนักหนา ไป!”

ตอนที่จะขึ้นรถ ทุกคนในบ้านต่างได้ยินเสียงของฉู่เทียนเจียง แล้วแววตาก็เต็มไปด้วยความงุนงง

“อีอี เห็นรถถังคันนั้นรึยัง นั่นก็คือของขวัญที่พ่อเตรียมไว้ให้ลูกนะ”

เวลาแห่งความสุขนั้นมักจะสั้นเสมอ ในตอนที่ฉู่เทียนเจียงกลับถึงบ้านนั้น ก็เป็นเวลาสิบเอ็ดโมงตอนกลางคืนแล้ว อีอีนั้นก็หลับไปบนรถ

พอพาอีอีไปไว้ชั้นบนแล้วก็กลับไปที่ห้องรับแขก แล้วฮัวเหวินฮุยก็เริ่มพูดก่อน

“เทียนเจียง งานในวันนี้ทำได้สวยงามมาก ทั้งครอบครัวของอารองของแกนั้นถูกเปิดโปงหน้ากันหมดแล้ว แต่ยังไง พวกเราก็ไม่ต้องกลัวเขาหรอก เทียนเจียง แกมีความมุ่งมั่นที่จะกำหนดทางเดินให้กับอีอี พ่อก็สนับสนุนเหมือนกัน”

หลิวหลานก็หัวเราะแล้วพูด

“นั่นสิ ที่แกเข้าเกณฑ์มาตั้งสี่ปีนั้นถือว่าไม่สูญเปล่า รู้จักเถ้าแก่ใหญ่แบบนั้นอย่างเหลียนเฉิง ทำไมไม่บอกแต่แรกล่ะ”

“ผมไม่ได้รู้จักเหลียนเฉิงนะครับ”

จากนั้น คำพูดของฉู่เทียนเจียงก็ทำเอาหลายคนพากันอึ้งไปสักพัก

“นี่ พี่เขย พี่นี่พูดจาขบขันเก่งจริงๆ รู้จักถ่อมตนอีกด้วย”

ตอนนี้ฮัวเมิ่งหยวนเรียกพี่เขยอย่างเต็มปากเต็มคำ เรียกซะหวานเชียว

ฉู่เทียนเจียงทำอะรไม่ถูก ที่เขาพูดนั้นคือความจริง คนเล็กๆ อย่างเหลียนเฉิง เขาไม่รู้จักจริงๆ แต่ก็ให้หม่าเหลียงจัดการให้ก็สิ้นเรื่อง

จู่ๆ ฉู่เทียนเจียงก็นึกอะไรบางอย่างออก ยืนขึ้นกะทันหัน ทำให้หลายคนตกใจไปที

“ซวยแล้ว ลืมใส่แพมเพิสให้อีอี”

เห็นฉู่เทียนเจียงขึ้นบันไดอย่างเร่งรีบแล้ว สีหน้าของคนทั้งบ้านก็พากันประหลาดใจสุดๆ พอรู้ตัวอีกที จู่ๆ ฮัวเมิ่งหยวนก็ค้องแขนอ้อนฮัวจิ่นถิงแล้ว

“พี่ พี่ดูเบนซ์ที่ขับสิ เปลืองน้ำมันจัง พี่ให้พี่เขยให้เงินค่าขนมฉันสักแสนสักแปดหมื่นก่อนสิ”

อะไรกัน มองดูน้องสาวอย่างเหลือเชื่อ ฮัวจิ่นถิงแทบจะหัวเราะแล้ว

“แกคิดว่าพี่เขยแกเปิดธนาคารรึไง ยังจะขอค่าขนมสักแสนสักแปดหมื่นอีก นับถือแกที่กล้าพูดออกมาจริงๆ”

แล้วฮัวเมิ่งหยวนก็ไม่พอใจ

“เชอะ! ฉู่เทียนเจียงน่ะเขาต้องมีเงินอยู่แล้ว แต่ตอนนี้พี่น่ะละเลยเขามากเกินไป เขาเลยไม่ยอมเอาออกมาทุกอย่าง คืนนี้พี่ลองนอนกับเขาดูสิ พรุ่งนี้ต้องมีทุกอย่างแน่นอน”

ฮัวรุ่ยรุ่ยยิ้ม แล้วเขย่าของเล่นชิ้นนึงที่อยู่ในมือ

“วันเกิดของเล่อเล่อ ฉันต้องอยู่แน่นอน นี่ก็ยังไม่ถึงเที่ยงคืนหนิ เอาของขวัญวันเกิดไปให้ข้างตัวเขา ก็ถือว่าเป็นความตั้งใจของป้าคนนี้อย่างฉันแล้วล่ะ ว่านถง นายรอฉันเอากระเป๋าเดินทางไปเก็บก่อนนะ แล้วเดี๋ยวเราไปดูเล่อเล่อด้วยกัน”

เดินไปไม่กี่ก้าว ฮัวรุ่ยรุ่ยที่ชาญฉลาดนั้นก็ดูออกว่ามีอะไรแปลกๆ ก็เลยเดินไปที่ข้างโซฟาห้องรับแขกแล้วก็ถาม

“สีหน้าแต่ละคน เกิดอะไรขึ้นกันหรอคะ”

“เป็นผู้หญิงจะมาฟังอะไร ไปทำงานของแกซะ”

ฮัวฝู้โก๋พูดด้วยความไม่พอใจ ลูกสาวคนนี้ฉลาดมากแล้วก็มีความสามารถ พอจบจากมหาลัยนั้น ตอนแรกก็คิดอยากจะให้ช่วยตัวเองทำงาน แต่สรุปแล้วกลับอยากจะเผชิญด้วยตัวเองสักตั้ง

อย่าเพิ่งพูด ถึงแม้ว่าบริษัทเล็กๆ นี้จะเปิดขึ้นภายใต้การช่วยเหลือจากเงินทุนของเขา แต่ก็เติบโตใช้ได้จริงๆ 

“ว่านถง แกพูดสิ”

ฮัวว่านถงนั้นน่ากลัวสำหรับพี่สาวคนนี้มาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว แอบเหลือบมองหน้าพ่อไปทีนึง พอเห็นว่าไม่มีท่าทีอะไร บวกกับในใจก็ตื่นตระหนกด้วย เลยบอกเรื่องทั้งหมดตั้งแต่ที่ฉู่เทียนเจียงกลับมาจนถึงตอนนี้ให้กับพี่สาวที่เพิ่งจะไปประชุมต่างประเทศมาเกือบอาทิตย์นึงฟัง

พอฟังจบแล้ว ฮัวรุ่ยรุ่ยหน้าสั่น แล้วก็โมโหสุดๆ

“ไอ้ฉู่เทียนเจียงนี่ พอกลับมาจากเกณฑ์ทหารแล้วก็ไม่รู้จักนามสกุลตัวเองซะแล้ว ถึงกล้าบังอาจมากดขี่ตระกูลเราแบบนี้”

“พ่อคะ ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว ตอนแรกหนูกะจะรอให้โตกว่านี้หน่อยค่อยแนะนำให้แฟนหนูรู้จักกับทุกคน แต่ดูจากตอนนี้แล้ว คงต้องบอกก่อนแล้วล่ะ”

ฮัวฝู้โก๋ขมวดคิ้ว

“แกมีแฟนแล้วหรอ ยังเช็กบิลคนอย่างเหลียนเฉิงได้ด้วยหรอ ถ้าคุณมีแฟนที่เก่งขนาดนี้ ทำไมคนที่เป็นพ่ออย่างฉันถึงไม่ได้ข่าวสักนิดเลยล่ะ”

มุมปากค่อยๆ ยกขึ้น และฮัวรุ่ยรุ่ยที่หยิบโทรศัพท์ออกมานั้นก็มีความมั่นใจสูงมาก

“จะสามารถเช็กบิลเหลียนเฉิงได้รึเปล่านั้นหนูไม่รู้ แต่การที่จะจัดการกับทหารปลดเกณฑ์อย่างฉู่เทียนเจียงนั้น เป็นเรื่องง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือเลยล่ะ”

“เพราะแฟนของหนู เป็นพลเอกที่เกษียณแล้ว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมยุทธ์กบฏโลก