บทที่ 32
“ฉันจะร้ายยิ่งกว่านี้อีก ถ้าเธอยังไม่รีบไปนอน” เขายกมือขึ้นมาขู่อีก
“ก็ได้ๆ ไปนอนก็ได้ ว่าแต่แล้วคืนนี้คุณจะนอนยังไงอะ โซฟาก็ตัวแค่นั้นเอง ฉันว่าคุณมานอนในห้องดีกว่า”
“มีนา…” เขาเค้นเสียงต่ำ ทำท่าจะเอ็ดเธออีก
“ฉันหมายถึง คุณตัวใหญ่ คุณควรจะมานอนบนเตียง ส่วนฉันตัวเล็กกว่า เดี๋ยวฉันไปนอนที่โซฟาเองต่างหากเล่า ฟุ้งซ่านเหมือนกันนะเราเนี่ย” หยอกเสร็จเธอก็รีบเอามือปิดหน้าผากเอาไว้อย่างรู้ทัน แต่…
“โอ๊ย!” เธอร้องลั่น หลังอีกฝ่ายเปลี่ยนเป้าหมายจากหน้าผากมาดีดที่หูแทน
“ไม่ต้องห่วงเรื่องว่าฉันจะนอนยังไง ลืมไปแล้วรึไงว่าฉันเป็นเจ้าของโรงแรม ถ้าฉันนอนไม่สบาย ฉันก็แค่เปิดห้องใหม่ มันจะไปยากอะไร”
“เออ…จริงด้วย ฉันพักอยู่ในโรงแรม แล้วคุณก็เป็นเจ้าของโรงแรม โอเค! งั้นก็ไม่ต้องห่วงอะไร ราตรีสวัสดิ์นะคะผู้ชายที่แสนดี” ทันทีที่นึกขึ้นมาได้ถึงความจริงข้อนี้ เธอก็โบกมือลา แล้วปิดประตูห้องทันที ทำเอาคนที่ยังปรับอารมณ์ไม่ทันถึงกับยืนซึมกะทืออยู่ตรงนั้น
“เมื่อกี้ยังทำท่าว่าอยากได้เราจะเป็นจะตาย แล้วไหงมายอมกันง่ายๆ แบบนี้วะ อย่างน้อยก็น่าจะยื้อกันอีกสักหน่อยสิ ฮึ่ย! ร้ายกาจนักนะยัยตัวแสบ เฮ้ย! แล้วนี่เราจะฟุ้งซ่านทำไมเนี่ย” เขาพยายามสงบสติอารมณ์ด้วยการหายใจเข้าออกลึกๆ แต่แล้วมือก็ดันลั่น ยกขึ้นไปเคาะประตูห้องโดยไม่รู้ตัว
ก๊อกๆๆ ถ้าจะบอกว่ามันคืออารมณ์ชั่ววูบก็คงไม่ผิด แต่คิดได้ตอนนี้ก็คงไม่ทัน เพราะประตูห้องถูกเปิดพร้อมกับหน้าใสๆ ของเธอที่ยื่นออกมา
“เปลี่ยนใจอยากเข้ามานอนด้วยกันเหรอ” เธอถามพลางทำหน้าทะเล้น
“เพ้อเจ้อ ใครจะนอนกับเธอ ฉันมาเอาเสื้อผ้า แล้วก็อาบน้ำต่างหากเล่ายัยเพี้ยน” โดยไม่รอให้เธออนุญาต เขาก็แทรกตัวเข้าไปในห้อง ก่อนจะเดินตรงไปที่ตู้เสื้อผ้า ซึ่งยังมีเสื้อผ้าของเขาแขวนอยู่
“ให้ช่วยไหม” เธอเดินตามมาติดๆ แล้วก็ไม่วายที่จะหยอกเย้าเขาอีก ครั้นพอเห็นเขาหันมาทำหน้าถมึงทึงใส่ก็ยิ่งชอบอกชอบใจ ยั่วโมโหเขาต่ออีก
“ฉันก็แค่จะถามว่าให้ช่วยหยิบไหม มองอย่างกับคิดว่าฉันจะช่วยถูหลังให้อย่างนั้นแหละ คนอุตส่าห์มีน้ำใจจะช่วยดันอคติใส่ซะงั้น ว่าแต่…คิดลึกเหมือนกันนะเราน่ะ” เธอยังแหย่ไม่เลิก ครั้นพอเห็นว่าพ่อคุณยกมือขึ้นมาหมายจะประทุษร้ายร่างกายกันอีก เธอก็รีบขยับถอยห่างอย่างรวดเร็ว
“เฮอะ! ไม่ได้แอ้มหรอกย่ะ” เธอลอยหน้าลอยตาพลางยักคิ้วให้อย่างผู้ชนะ
“แน่ใจนะว่าจะเอาแบบนี้” เขาหยักยิ้มพลางย่างสามขุมเข้าหา ทำเอาคนอวดเก่งก่อนหน้าผงะถอยด้วยความตื่นตระหนก
“ไม่ๆๆ อย่าทำอะไรบ้าๆ นะ ว้าย!” เธอร้องลั่นทันทีที่เขากระโจนใส่ กระทั่งทั้งคู่ล้มไปบนเตียงด้วยกัน
เธอถูกเขาคร่อมเอาไว้ทั้งตัวจนไม่สามารถขยับไปไหนได้ พลันทั้งคู่ก็สบตากันนิ่ง เขาค่อยๆ ก้มลงไปหา ในขณะที่เธอก็ค่อยๆ หลับตาพริ้มอย่างรอคอย แต่…
“เพราะแกสินะไอ้พรศักดิ์ ยัยนี่ถึงได้ทนรอฉันไม่ไหว แล้วก็หลับในอ้อมกอดแก ตายซะเถอะไอ้ตุ๊กตาหมีขี้อ่อย” เขางึมงำพลางหยิบตุ๊กตาออกจากอ้อมกอดเธอแล้วโยนมันไปอีกทาง ประหนึ่งขุ่นเคืองกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน
“ขี้อ่อยอย่างแกต้องปล่อยให้นอนหนาวตายไปเลย” ออกไปแล้วเขาก็เผลอก้มมองตัวเอง
“เฮ้ย! อย่างฉันเขาไม่เรียกว่าอ่อยโว้ย คนเพิ่งอาบน้ำเสร็จที่ไหนเขาก็ใส่กันแบบนี้ทั้งนั้นแหละ ไม่ได้อ่อยเว้ย บ้าฉิบ! แล้วนี่กูคุยกับใครอยู่วะเนี่ย เฮ้อ! ฉันต่างหากที่คิดฟุ้งซ่าน ไม่ใช่เธอ” สุดท้ายเขาก็ได้แต่ถอนหายใจหนักๆ กับตัวเองอย่างช่วยไม่ได้
ก่อนออกไป ความใส่ใจก็ทำให้เขาต้องเอื้อมไปหยิบตุ๊กตาอีกตัวที่วางอยู่ไกลๆ มาให้เธอกอดแทนไอ้ตัวที่เขาเพิ่งเขวี้ยงทิ้งไป แต่จังหวะที่เขากำลังเอื้อมไปจนสุดแขนนั้น แม่คุณก็ดันพลิกตัวมาควานหาตุ๊กตาตัวโปรด ครั้นพอเจอตุ๊กตาตัวใหญ่ก็ดึงมากอดทันที
“เฮ้ย!” เขาอุทานเบาๆ หลังจากถูกฉุดลงไป มิหนำซ้ำยังถูกเธอกอดเอาไว้ประหนึ่งตุ๊กตา และเขาคงจะทำตัวเป็นตุ๊กตาให้เธอได้ ถ้าเพียงไอ้ผ้าขนหนูที่นุ่งอยู่มันไม่ได้เลิกขึ้นมาจนถึงไหนๆ ที่สำคัญอะไรต่อมิอะไรที่มันเคยสงบ มันก็เริ่มไม่สงบอีกต่อไป
“ให้ตายสิ! ขนาดหลับก็ยังหื่น จะหื่นยันจิตวิญญาณเลยรึไง” เขาบ่นพึมพำขณะพยายามจะปัดมือที่กำลังยุ่มย่ามอยู่ที่หน้าอกตัวเองออก ครั้นพอเอามือออกได้ คุณเธอก็พาดขามาแทน
“เฮือก!” เขาสะดุ้งเฮือก หัวใจแทบหยุดเต้น ก็หัวเข่าแม่คุณที่พาดมามันเฉียดกล่องดวงใจเขาไปนิดเดียว ทำเอาคนที่เพิ่งช่วยชีวิตน้องชายตัวเองได้ถึงกับต้องพ่นลมหายใจหนักๆ ออกมา แต่ก็โล่งได้ไม่กี่อึดใจ เมื่อจู่ๆ มือเธอก็เลื่อนลงมาวางแหมะที่กล่องดวงใจ
“เฮือก!” โชคดีที่เขาเลื่อนมือมากุมเป้าได้ทัน ไม่งั้นเขาก็แทบไม่อยากจะคิดว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น และเพื่อสวัสดิภาพของทั้งเขาและเธอ เขาจึงรีบพาตัวเองออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ