จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ นิยาย บท 56

บทที่ 55

คนถูกขู่กำหมัดแน่นอย่างกำลังบันดาลโทสะ แต่ก็ยังไม่ทันจะได้ลุกขึ้น คนข้างๆ ก็ส่งเด็กน้อยมาให้อุ้ม ครั้นพอจะอ้าปากถาม รายนั้นก็เดินดุ่มๆ ไปหาตีรณาแล้ว

เพียะ!

“นี่สำหรับที่เธอใช้เด็กที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่เป็นเครื่องมือ เพียงเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ” มีนาตวัดฝ่ามือลงบนหน้าสวยๆ ของอีกฝ่ายฉาดใหญ่ เสียงฝ่ามือกระทบใบหน้าทำเอาคนรอบข้างพากันสะดุ้งไปตามๆ กัน ในขณะที่คนถูกตบก็โกรธจนเลือดขึ้นหน้า

“นัง…” คนถูกตบเงื้อมือหมายจะตบคืน แต่ก็ถูกคนที่ไวกว่าคว้าข้อมือเอาไว้ จากนั้นก็ตวัดฝ่ามือไปอีกฉาดหนึ่ง

เพียะ!

“นี่สำหรับคนที่ไร้มนุษยธรรมอย่างเธอ อย่าว่าแต่จิตสำนึกของคนที่เป็นสายเลือดเดียวกัน แม้แต่สามัญสำนึกของความเป็นคนเธอก็ไม่มี ส่วนนี่...สำหรับที่เธอตีฉันเมื่อกี้ยัยชะนีหน้าขาว” สิ้นเสียงเธอก็ตวัดฝ่ามือลงไปอีกครั้ง

เพียะ!

“ตีมาได้ หลังคนนะเว้ยไม่ใช่ลูกกอล์ฟ ยัยบ้าเอ๊ย! หวดมาซะเต็มแรง”

“กร๊ด…! นังบ้า ฉันจะฆ่าแก” คนถูกตบซ้ำๆ โถมตัวเข้าใส่ด้วยความคลุ้มคลั่ง ทำเอาเขาจำต้องฝากให้แม่บ้านที่ยืนอยู่ตรงนั้นช่วยอุ้มลูกสาว และก็นับว่าโชคดีที่หนูน้อยนั้นเอาแต่ซุกหน้าด้วยความกลัว จึงทำให้ไม่ต้องเห็นเหตุการณ์รุนแรง

“โอ๊ย!” คนที่กำลังคลุ้มคลั่งร้องเสียงหลง หลังจากถูกผลักจนล้มลงไปกองกับพื้น แน่นอนว่าคนที่เผลอผลักกลับไม่แม้แต่จะหันมาสนใจไยดี ด้วยมัวแต่สนใจอีกคนมากกว่า ก่อนที่เสียงกรีดร้องจะดังขึ้นอีก

“กรี๊ด…! พวกแกจะต้องชดใช้ที่ทำกับฉันแบบนี้ ฉันจะทำให้พวกแกต้องคลานเข้ามากราบฉันคอยดู” ตีรณาลุกขึ้นด้วยสีหน้าเกรี้ยวกราด ก่อนจะเดินตรงดิ่งไปหาเด็กน้อยที่ถูกแม่บ้านอุ้มอยู่ ถ้าไม่ติดว่าดันถูกขวางเอาไว้เสียก่อน

“คิดจะทำอะไร” เจตต์ที่กระโจนเข้ามาขวางมองนัยน์ตาแข็งกร้าวอย่างพยายามจะปกป้องไม่ให้จิตใจลูกสาวต้องบอบช้ำอีก

“ถอยไป ณาจะเอาเด็กนั่นไปด้วย” ตีรณาพยายามจะฝ่ากำแพงมนุษย์เพื่อไปเอาตัวเด็กน้อยมาให้ได้

“เธอไม่มีสิทธิ์” เขาตวาดเสียงเขียวนัยน์ตาดุวับ

“คนที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องเลยอย่างพี่ต่างหากที่ไม่มีสิทธิ์ ถอยไป” ตีรณาตะโกนใส่หน้าอย่างไม่เกรงกลัว

มีนาที่เห็นท่าไม่ดีจึงรีบวิ่งเข้าไปอุ้มหนูน้อยมากอดไว้ เห็นแบบนั้นตีรณาก็ยิ่งอาละวาดเพื่อจะได้เข้าถึงตัวเด็กน้อย เธอจึงทั้งผลักทั้งทุบเจ้าของบ้านเป็นพัลวัน กระทั่ง…

“เขาไปพูดอะไรกับแม่ใช่ไหม อย่าไปเชื่อนะคะ ผู้ชายคนนี้โกหก พ่อกับแม่ต้องเชื่อณา เชื่อณาคนเดียวเท่านั้นค่ะ” ตีรณาวิ่งไปจับแขนทั้งคู่ด้วยแววตาเว้าวอน

“พอเถอะ เลิกสร้างเรื่องวุ่นวายสักที แล้วก็กลับบ้านกับพ่อซะ” ผู้เป็นพ่อบอกเสียงห้วน

“พ่อกับแม่ไม่ใช่เด็กอมมือนะณาที่จะปล่อยให้ใครมาจูงจมูก แม่เลี้ยงแกมากับมือ ทำไมแม่จะไม่รู้ว่าแกเป็นคนยังไง ที่สำคัญเรื่องของจันทร์เจ้า พ่อกับแม่ก็รู้มาตั้งนานแล้ว ก่อนตายพี่แกเป็นคนบอกแม่เอง แล้วเขาก็เป็นคนขอร้องให้เจตต์เป็นคนดูแลจันทร์เจ้า เราต่างหากที่ไม่มีสิทธิ์ พอเถอะนะ อย่าใช้หลานเป็นเครื่องมือเพราะเรื่องของตัวเองอีกเลย แกมีค่าเกินกว่าจะทำตัวไร้ค่านะณา กลับบ้านกับแม่นะ” ผู้เป็นแม่พยายามปลอบโยนโน้มน้าวให้ลูกสาวคิดได้

“ไม่! แม่โกหก ทำไมแม่ไม่บอกเรื่องนี้กับณาตั้งแต่แรก ปล่อยให้ณาเป็นอีโง่ให้คนหัวเราะเยาะได้ยังไง ณายังใช่ลูกแม่อยู่รึเปล่า หรือแม่มีพี่นีเป็นลูกแค่คนเดียว” ตีรณาฟูมฟายพลางสะบัดแขนผู้เป็นแม่ออก

“ไม่ใช่แบบนั้นนะลูก ทั้งนีและณาต่างก็เป็นลูกที่แม่รัก ตอนนี้นีไม่อยู่แล้ว แม่ก็มีแค่ณาเท่านั้นนะ แล้วที่แม่ต้องพูดก็เพราะแม่หวังดี ไม่อยากให้ใครต้องมองลูกของแม่ไม่ดี ถึงใครจะไม่ต้องการณา แต่พ่อกับแม่ต้องการณานะลูก” ผู้เป็นแม่บอกเสียงขื่นพลางยื่นมือไปข้างหน้า แต่รายนั้นกลับยืนละล้าละลังที่จะยื่นมือมาจับตอบ

“นี่แม่คุณ โชคดีเท่าไหร่แล้วที่มีพ่อกับแม่ที่เข้าใจแล้วก็พร้อมให้โอกาสขนาดนี้ ยังจะมาทำเป็นเล่นตัวอยู่ได้ วันไหนถูกตัดหางปล่อยวัดขึ้นมาแล้วจะรู้สึก พ่อแม่ดีๆ แบบนี้นี่ถ้าไม่เอาฉันเอานะ พ่อขา แม่ขา หนูขอสมัครเป็นลูกสักคนได้ไหมคะ” มีนาแสร้งยื่นมือจะไปจับมืออีกฝ่าย แต่ก็ถูกตีรณาปัดออกทันควัน

“อย่ามายุ่งกับพ่อแม่ฉัน ผู้ชายเธอก็แย่งไปทีหนึ่งแล้ว ถ้าจะมาแย่งพ่อแม่ฉันอีก ฉันเอาเธอตาย” ตีรณาขู่เสียงเขียว แต่คนถูกขู่กลับไม่กลัวสักนิด มิหนำซ้ำยังยิ้มร่า

“งั้นก็รักษาครอบครัวของเธอเอาไว้ให้ดีแล้วกัน เพราะถ้าขาดพวกเขาเมื่อไหร่ เธอนั่นแหละที่จะรู้สึกโดดเดี่ยวเหมือนอยู่ตัวคนเดียวบนโลกใบนี้” เธอบอกอย่างคนที่สะท้อนถึงเรื่องนี้ได้ดีสุด และแน่นอนว่าเจตต์เองก็เข้าใจความรู้สึกนี้ของเธอ จึงเดินเข้ามาลูบหัวปลอบ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ