บทที่ 159 คุณหนูเจี่ยง
หอมังกรทองชื่อเสียงที่หรูหรา จริงๆแล้วก็คือแผงลอยในที่ร่ม แม้แต่หลินหยุนก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
แต่สิ่งของในนี้ มันดีกว่าข้างนอก หลินหยุนเพิ่งจะเข้าประตูมา ก็รู้สึกถึงกลิ่นอายของชี่ทิพย์ที่เข้มข้น
หลินหยุนเดินไปตามทาง ขอเพียงแค่เห็นวัตถุดิบยาที่เป็นประโยชน์สำหรับการฝึกฝน ซื้อมาทั้งหมด
และยังมีหินหยกเหล่านั้นที่ประกอบด้วยชี่ทิพย์จากฟ้าดิน สิ่งเหล่านี้ใช้เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการรูปขบวนเชิงยุทธวิธี หลินหยุนไม่มีทางปล่อยไปแน่
ซูจื่อเหลียงเห็นวัตถุดิบยาเหล่านี้ หินหยกและวัตถุอื่นๆ ขอเพียงแค่ผ่านมือหลินหยุน ก็หายไปทันที
ซูจื่อเหลียงเห็นฉากนี้ก็รู้สึกประหลาดใจ สำหรับปรมาจารย์อายุน้อยท่านนี้ ก็น่ากลัวเกรงอย่างไม่มีใครเทียบ
เงินในบัตรของหลินหยุนใช้ไปดั่งน้ำไหล ถ้าไม่ได้เก็บชิ่งโจวจากตระกูลฉินและเจียงจงโยว ด้วยระดับความสุรุ่ยสุร่ายของหลินหยุน ก็กลัวว่าเงินไม่กี่ร้อยล้านจะอยู่ได้ไม่กี่วัน
เดินมาตลอดทาง ก็มาถึงชั้น 3 โดยไม่รู้ตัว เห็นได้ชัดว่าลูกค้าหายไปเยอะมาก
อีกอย่างส่วนใหญ่ที่ขายที่นี่ก็คืออาวุธ
กระบี่ชางเยว่ชื่อเรียกอาวุธของหลินหยุนเมื่อชาติก่อน นั่นคือใช้เหล็กนิลแห่งอุดรตีขึ้นมาจากปราณโกลาหล ระดับของมันน่าจะเป็นเครื่องรางชั้นยอด
อาวุธธรรมดาโลกเหล่านี้ เดิมทีก็ไม่ได้อยู่ในสายตาหลินหยุนอยู่แล้ว
แต่ หลินหยุนจู่ ๆ ก็พบว่ามีบางแห่งไม่ถูกต้อง แม้ลูกค้าที่นี่จะมีน้อย แต่หลินหยุนก็รู้สึกได้จากลมหายใจของเขา ว่าคนเหล่านี้ล้วนแล้วคือนักบู๊
อีกอย่างหลินหยุนได้ยินเสียงสองคนพูดคุยเสียงเบาจากด้านหลัง “ไหนบอกว่าที่นี่มีเครื่องรางล่ะ? อยู่ที่ไหน? หอมังกรทองหลอกลวงทั้งนั้น!”
“ไม่หรอก แผ่นป้ายหอมังกรทองอยู่ตรงนั้น ไม่หลอกใครหรอก เรามาหาให้ละเอียดๆหน่อย”
หลินหยุนได้ยิน ก็หลับตาลง 10 วินาทีต่อมา ดวงตาของหลินหยุนมองไปยังที่แผงขายของทางตะวันตกเฉียงใต้
ตรงนั้นคือแผงลอยของชายชรา ชายชราเกรงว่าอายุ 60 กว่าปี หัวขาว ดูเหมือนว่าไม้ใกล้ฝั่ง
หลินหยุนรู้ว่านี่ไม่ใช่การปลอมตัว ชายชราคนนี้เป็นคนแก่ธรรมดา และสุขภาพร่างกายก็ไม่ดีด้วย
หลินหยุนจับตามองไปที่คันธนูสีเทาเข้มบนแผง ลมหายใจที่เขารู้สึกได้ถูกปล่อยออกมาจากคันธนูนี้
เพียงแต่ว่า เป็นธนูไปได้ยังไงล่ะ?
สำนักโลกเซียนนับไม่ถ้วน สำนักฝึกฝนธนูกลับมีเพียง 1คน สำนักว่างเยว่
นั่นคือสำนักที่ลึกลับและน่ากลัวมาก น้อยมากที่ศิษย์จะมีคนออกมาปรากฏตัว โดยทั่วไปแล้วก็อยู่นิ่งๆไม่สุงสิงกับใคร
แต่ เคยมีสำนักบำเพ็ญเซียนออกมาดูถูกพวกเขา จนถึงขั้นตีเข้ามาจนถึงประตูภูเขาของพวกเขา
ผลลัพธ์ในชั่วข้ามคืน สำนักนั้นก็ถูกฆ่ายกครัว ไม่มีศิษย์หนีไปได้แม้แต่คนเดียว
สำนักว่างเยว่ชื่อนี้ ก็กลายเป็นสัญลักษณ์ที่ลึกลับและน่ากลัวในโลกเซียน
แต่ศิษย์ของสำนักว่างเยว่ ไม่ค่อยมีความขัดแย้งกับผู้คน แม้แต่หลินหยุนก็พบเจอน้อยมาก
แต่ ต่อมาหลินหยุนก็กลายเป็นกษัตริย์เซียน มาเยี่ยมสำนักว่างเยว่โดยเฉพาะ ยืมคัมภีร์《วิชายิงตะวัน》ของสำนักว่างเยว่มาอ่าน
ในส่วนขั้นตอนการยืมน่ะหรือ ไม่จำเป็นต้องบรรยายแล้ว
“คิดไม่ถึงว่าจะมีธนูยาวเครื่องรางหลงเหลืออยู่บนโลก? หรือบนโลกก็มีสำนักการฝึกฝนยิงธนูงั้นหรือ?”
หลินหยุนไม่สนใจอาวุธอื่นๆในแผง ชี้ไปที่ธนูยาวคันนั้นแล้วถามว่า “ขายเท่าไหร่?”
“ห้าล้าน!” ชายชราหลังแผงกล่าว
ลูกค้าไม่กี่คนข้างๆเดินผ่านมาพอดี เมื่อได้ยินก็ยิ้มเย้ยหยันทันที “ธนูคันเดียวเอาตั้งห้าล้าน! คุณหน้าเลือดเกินไปหรือเปล่า?”
ชายชราไม่สนใจ เมื่อพูดจบก็นั่งลงบนเก้าอี้และหลับตาลงพักผ่อน
“ผมเอา” หลินหยุนไม่พูดพร่ำทำเพลง จ่ายเงินเลย
ผู้คนที่เดินผ่านไป มองด้วยสายตาที่เห็นคนโง่ “บ้าไปแล้ว! ห้าล้านซื้อธนูเน่าๆคันเดียว!”
เมื่อหลินหยุนกำลังจะหยิบธนูยาว ทันใดนั้นมือเล็กๆสีขาวดั่งหยกก็ยื่นออกมาจากแนวเฉียง คว้าธนูยาวนั้นไว้ก่อน
“เจ้านาย ธนูคันนี้ฉันเอาแล้ว”
“ตระกูลเจี่ยงแห่งเกาะหนันงั้นหรือ? หรือจะเป็นตระกูลเจี่ยง อดีตผู้ร่ำรวยที่สุด?”
มีคนอุทานออกมา
“นอกจากตระกูลเจี่ยงนั่นแล้ว ยังมีใครกล้าเทียบกับตระกูลเจี่ยงแห่งเกาะหนันอีกล่ะ!”
“ที่แท้หญิงสาวคนนี้ก็คือสุภาพสตรีคนโตของตระกูลเจี่ยงแห่งเกาะหนัน เจี่ยงหลินหลิน สมกับที่เป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของเกาะหนัน สวยงามจริงๆ!”
สายตาของผู้ชายบางคนร้อนผ่าวขึ้นทันที
อยู่ดีกินดีที่นี่ ยุคที่เครื่องสำอางเฟื่องฟู หญิงสาวสวยมากมาย แต่ทั้งสวยและร่ำรวย มีเจ้าหญิงจำนวนไม่น้อยที่มีพื้นฐานครอบครัวที่ดี
โดยเฉพาะสุภาพสตรีคนโตที่เคยเป็นคนรวยอย่างตระกูลเจี่ยงแห่งเกาะหนัน
เห็นปฏิกิริยาของผู้คนที่อยู่รอบๆ เจี่ยงหลินหลินสีหน้าภูมิใจ แสดงความพึงพอใจอย่างมากต่อผู้คนที่ตะลึงอย่างเห็นได้ชัด
หลินหยุนดึงมือกลับ ดวงตามองเจี่ยงหลินหลินอีกครั้ง อย่างเย็นชา
“คุณแน่ใจนะว่าจะให้ผมแย่ง?” หลินหยุนถามเนิบๆ แต่ความรู้สึกและแววตาราวกับท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาว ทำให้รู้สึกถึงบรรยากาศที่กว้างขวางเหมือนจักรวาลยังไงอย่างนั้น
เจี่ยงหลินหลินจู่ ๆก็รู้สึก ว่าหลินหยุนที่อยู่ตรงหน้า มีคนประเภทหนึ่งที่ต้องเผชิญกับคลื่นลูกใหญ่ เผชิญหน้ากับภาพลวงตาของพลังแห่งสวรรค์และโลก
เจี่ยงหลินหลินสะบัดหัว อยู่ดีๆก็เกิดความโกรธขึ้นมา ชิงชัง เด็กหนุ่มที่อยู่ด้านหน้าแผงสินค้า คิดไม่ถึงว่าจะน่ากลัว!
“ถ้าแย่งได้ ก็แย่งไปสิ!” เจี่ยงหลินหลินแอบกัดฟันอย่างเงียบๆ กล่าวอย่างภาคภูมิใจ
หลินหยุนสีหน้าไม่แยแส ราวกับว่ามองเห็นคนโง่ “นี่คุณพูดเองนะ”
ที่โรงเรียนหรือในตัวเมือง หลินหยุนจะต้องคิดพิจารณามากมายไม่สะดวกลงมือจัดการ แต่ในสถานที่ห่างไกลเช่นนี้ หลินหยุนสามารถลงมือได้
“รอเดี๋ยว!”
ขณะที่หลินหยุนเตรียมที่จะลงมือ เสียงที่มีเสน่ห์ราวกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิดังขึ้น
ตามมาด้วย สาวสวยสง่างามและมีเสน่ห์มากมายเดินเข้ามา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...