จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1921

ในขณะที่อจละได้ทำการสลายเต๋าอย่างต่อเนื่องนั้น ในอากาศ กลิ่นอายลมหายใจของอมิตาพุทธหมิงหนี ก็ค่อย ๆ ลดลงด้วย โดยแก่นแท้ทั้งหมดของผู้บำเพ็ญเซียนสำนักพระธรรมนั้น ก็คือต้าเต๋าแห่งบูชา

ซึ่งล้วนเป็นต้าเต๋าแห่งบูชาของอมิตาพุทธหมิงหนี

เพราะว่าเขาคือผู้ควบคุมและครอบครองต้าเต๋าแห่งบูชาเพียงคนเดียว

นี่ก็เหมือนกับสวรรค์ชางฉองที่หลินหยุนได้เปิดขึ้นใหม่

โดยรวบรวมต้าเต๋าภายในสวรรค์ชางฉองได้จำนวนมากเท่าไร พลังความสามารถของหลินหยุนนั้นก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น!

สิ่งที่แตกต่างกันก็คือต้าเต๋ากับหมื่นเต๋า

เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ท่ามกลางแท่นบัวทองก็พลันเกิดเสียงคำรามที่โกรธแค้นขึ้น จากนั้น มังกรฟ้าขนาดใหญ่ยักษ์ตัวหนึ่งก็พลันเหาะเหินออกมา และตวาดใส่อจละด้วยความโมโห “อจละ นายเป็นบ้าไปแล้วหรืออย่างไร? ”

“นายรู้ไหมว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่? ”

“นายกำลังสละละทิ้งพระธรรม! ”

“นายกำลังสละละทิ้งตนเอง! ”

“นายกำลังตกต่ำลง! ”

“นายกำลังทรยศหักหลัง! ”

“ลำพังแค่คำพูดเล็กน้อยของเขา นายทำไมถึงได้ยอมสละละทิ้งต้าเต๋าที่นายได้บำเพ็ญฝึกฝนมาอย่างยาวนานลงอย่างนี้? และสละละทิ้งพระโพธิสัตว์ของตนเองด้วย? ”

“หรือว่านายจะสละละทิ้งพระธรรม แล้วยอมตกต่ำลงไปสู่สภาพที่ทุกข์ทรมานอย่างนั้นเหรอ? ”

ใบหน้าของอจละเต็มไปด้วยความสงบนิ่งและอิ่มเอมใจ โดยที่ไม่ได้หวงแหนร่างทิพย์และต้าเต๋าของเขา รวมถึงความเพียรพยายามที่มีมาอย่างยาวนานแม้แต่น้อยเลย

กลับตรงกันข้าม

ในเวลานี้อจละมีสีหน้าที่ผ่อนคลาย แววตาเต็มไปด้วยความปรารถนา เพราะว่าเขาได้มองเห็นโลกแห่งใหม่แล้ว

โลกที่ทั้งจักรวาลสามารถเป็นพุทธะได้

เขาเงยหน้ามองไปที่มังกรฟ้าอรหันต์ พร้อมกับพูดขึ้นว่า “ฉันได้ตั้งปณิธานความหวังอันยิ่งใหญ่ไว้แล้ว! โดยที่ไม่ได้สละละทิ้งพระธรรมแต่ฉันได้ค้นพบพระธรรมที่แท้จริงแล้ว! ฉันกำลังจะเดินไปอีกเส้นทางหนึ่งนั่นก็คือเส้นทางของนิกายมหายาน! ”

“มังกรฟ้า! ” เขามองไปยังใต้แท่นบัวทองที่หมิงหนีนั่งอยู่ “ผู้ร่วมสำนักทุกท่าน หรือว่าการที่จะช่วยให้สรรพสัตว์พ้นทุกข์กลายเป็นพุทธะ ทำให้ทะเลแห่งทุกข์นี้กลายเป็นเส้นทางไปสู่ดินแดนนิพนานที่แท้จริงนั้น ไม่ใช่สิ่งที่พวกเรากำลังแสวงหากันอยู่หรอกเหรอ? ”

“วันนี้ ฉันได้เดินออกมาก้าวหนึ่งแล้ว! ”

“ฉันหวังว่าผู้ร่วมสำนักทุกท่าน จะตัดสินใจเลือกเส้นทางแบบเดียวกันกับฉัน! ”

“พุทธะในอดีตนั้น เพียงแค่ทำให้ตนเองพ้นทุกข์ ไม่ได้ช่วยให้สรรพสัตว์พ้นทุกข์ ซึ่งไม่ใช่ตามที่โยมหลินหยุนบอกว่าเป็นนิหายหินยานหรอกเหรอ? อจละไม่ได้ต้องการที่จะทำให้สำนักพระธรรมต้องแตกแยก แต่กำลังตั้งคำถามในใจให้กับตนเอง! ”

“ทุกท่าน ทำไมไม่ลองทำตามฉันดูบ้างล่ะ ลองตั้งคำถามในใจให้กับตนเองดูสิ? ”

เมื่อเขาพูดจบลง ยังไม่ทันที่มังกรฟ้าอรหันต์จะโมโหขึ้นอีกครั้ง ก็มีอรหันต์หกคนก้าวเดินออกมาจากแท่นบัวทอง

อรหันต์หกคนนี้ รวมถึงผู้บำเพ็ญเซียนพระธรรมนับร้อยคนภายใต้อมิตาพุทธ ก็ได้ก้าวเดินออกมาเช่นกัน

พวกคนเหล่านี้ที่นำโดยอรหันต์หกคน ต่างก็พนมมือขึ้น และโค้งตัวแสดงความเคารพไปยัง อมิตาพุทธหมิงหนีบนแท่นบัวทอง พร้อมกับพูดพร้อมเพรียงกันว่า “กราบเรียนอมิตาพุทธ นับตั้งแต่วันนี้ไป ลูกศิษย์เต็มใจที่จะสละละทิ้งต้าเต๋า เพื่อติดตามอจละก้าวเดินไปสู่เต๋าแห่งมหายานด้วยกัน! ”

เมื่อพูดจบลง ทั้งหมดก็ลอยตัวลงมาอยู่ที่ด้านหลังของอจละ แล้วอรหันต์ทั้งหกคนก็เริ่มที่จะสลายทำลายเต๋า

ร่างนักรบอรหันต์ของเขาปรากฏกายขึ้น เพื่อสลายพลังให้หมดไปอย่างต่อเนื่อง

โดยขณะที่พวกเขาสลายเต๋านั้น กลิ่นอายลมหายใจในร่างของหมิงหนีก็ค่อย ๆ ลดลงต่อเนื่อง

นี่ก็คือการอ่อนกำลังลงของพลังต้าเต๋า

แต่ว่าหมิงหนีก็ยังคงนั่งอยู่บนแท่นบัวทองโดยตลอด โดยที่ไม่ได้แสดงอาการท่าทางอะไรออกมา

ถึงขนาดที่ไม่สามารถมองเห็นความเปลี่ยนแปลงอะไร จากบนใบหน้าของเขาได้เลย

แต่ก็ได้ปรากฏตัวของมังกรฟ้าอรหันต์ที่เกิดความโมโหขึ้นจริง ๆ แล้ว “พวกนาย! พวกนายเป็นบ้าไปแล้วอย่างนั้นเหรอ? พวกนายรู้ไหมว่ากำลังทำอะไรกันอยู่? ”

เขาคิดไม่ถึงว่า แม้แต่ท่ามกลางสิบแปดอรหันต์ของพวกเขานั้น มีถึงหกคนที่ตัดสินใจเลือกติดตามไปกับอจละ เพื่อไปแสวงหาอะไรที่ลวงตาจับต้องไม่ได้ที่เรียกว่า พุทธะแห่งมหายาน

จักรวาลกลายเป็นพุทธะ?

เปลี่ยนแปลงทะเลแห่งทุกข์เป็นดินแดนนิพพาน

นี่มันช่างไร้สาระอย่างที่สุด นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!

แต่ในเวลานี้พวกเขากลับไม่มีพลังแห่งต้าเต๋าอะไรอีกแล้ว

เมื่อเห็นอจละและคนอื่น ๆ จากไปแล้ว ทุกคนต่างก็เกิดความเหลือเชื่อกันขึ้นอีกครั้ง

หรือว่าจะปล่อยให้อจละและพวกคนเหล่านี้จากไปง่าย ๆ แบบนี้เลยอย่างนั้นเหรอ?

เมื่อเป็นเช่นนี้ อมิตาพุทธหมิงหนี รวมไปถึงทั่วทั้งโลกพุทธ ต่างก็ได้รับความเสียหายอย่างหนักเลยทีเดียว!

นี่คือการสูญเสียอย่างใหญ่หลวงที่ไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้เลย

ต่อให้ หมิงหนีจะมีพลังความสามารถไร้เทียมทานมากแค่ไหน แต่เมื่อเผชิญหน้ากับกลอุบายแบบนี้แล้ว ก็ไม่มีวิธีการตอบโต้อะไรเช่นกัน

และในขณะนั้นเอง สายตาของทุกคน ก็ได้จับจ้องไปยังหลินหยุนและหมิงหนีอีกครั้งหนึ่ง

หมิงหนีมองไปที่หลินหยุน และพูดขึ้นว่า “เคยพูดเอาไว้ก่อนแล้วว่า ให้นายเข้ามาสู่สำนักพระธรรม นายมีชะตาสัมพันธ์กับพุทธะ! แต่นายมีจิตอาฆาตสังหารที่หนักหน่วงเกินไปนัก! จึงไปยับยั้งความเป็นพุทธะของนายเอาไว้! ”

หลินหยุนหัวเราะเยาะ “ยังไม่ยอมที่จะมอบตัวเย่เยว่ออกมาอีกใช่ไหม? ”

หมิงหนีพูดว่า “การตัดสินใจของโยมเย่เยว่นั้น ถึงแม้นายจะยืนอยู่ตรงหน้าของเธอ เธอก็คงไม่มีทางที่จะเลือกไปกับนายแน่นอน โยมอย่าได้ดื้อรั้นหัวแข็งอยู่อีกเลย! ”

หลินหยุนดวงตาเป็นประกาย เจตนาสังหารปรากฏขึ้น “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็อย่าได้มากล่าวโทษฉันก็แล้วกัน! ”

เมื่อพูดจบ หลินหยุนก็ได้แสดงพลังต้าเต๋าทั้งหมดขึ้นมาอีกครั้ง

ช่วงที่ผ่านมาพลังต้าเต๋าของเขานั้น ก็ได้ฟื้นฟูกลับคืนมาพอสมควรแล้ว

การตัดสินใจของอจละได้ช่วยถ่วงเวลาให้กับเขาไม่น้อยเลย

ในมือของหลินหยุนเปล่งประกายแสงขึ้น กระบี่ยาวสีเขียวมรกต ก็ปรากฏขึ้นบนมือของเขา

เมื่อเห็นกระบี่ยาวสีเขียวมรกตนี้แล้ว ทุกคนต่างก็พากันเบิกตาโพลง

ด้านนอกของโลกพุทธ หัวหน้าชิงเอี๋ยนพลันอุทานขึ้นด้วยความตกใจว่า “นี่มัน......คือ อาวุธเต๋าที่สร้างโดยธรรมชาติ? มิน่าล่ะในขณะที่เขาเผชิญหน้ากับอจละถึงกล้าระเบิดกระบี่นั้นทิ้ง! ที่จริงแล้วเขายังมีอาวุธเต๋าที่สร้างโดยธรรมชาติอยู่อีก! แต่ว่า......มันเป็นไปได้อย่างไรกัน? ”

อาวุธเต๋าที่สร้างโดยธรรมชาติ นั่นคือสิ่งที่ไม่ได้จะมีครอบครองได้โดยง่ายเลย!

นับตั้งแต่อดีตจนถึงบัดนี้ ยอดฝีมือระดับมหากษัตริย์จำนวนไม่น้อย ที่ต่างก็ใฝ่ฝันจะครอบครองอาวุธเต๋าระดับนี้ แต่ก็ไม่สามารถที่จะมีครอบครองได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์